ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 275 ระหว่างทาง
เมื่อเฉียวเหลียงตามหาถังซีพบนั้นเธอนั่งหลับอยู่ที่มุมหนึ่ง แม้จะหลับแต่เธอมีหยาดน้ำตาอยู่ที่หางตา เฉียวเหลียงย่อตัวลงอุ้มเธอขึ้นอย่างอ่อนโยน เขาคิดว่าเขาทำให้ถังซีตื่น แต่เธอแค่ซุกหน้าผากกับอกเขาแล้วหลับไปอีก เฉียวเหลียงจ้องมองถังซี โน้มศีรษะลงจูบเธอระหว่างหัวคิ้ว แล้วอุ้มเธอเดินออกจากโรงเรียน
ประตูโรงเรียนรายล้อมไปด้วยนักข่าว เฉียวเหลียงรู้ว่าเธอไม่ต้องการเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับเขา และในวันนี้ถังซีถูกจับตามองมากเหลือเกิน นักข่าวจะบอกได้ทันทีที่เห็นว่าเธอเป็นใคร ขณะที่เฉียวเหลียงกำลังหมดปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทันใดนั้นรถยนต์คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้าเขา อาหกผู้ถูกเฉียวเหลียงส่งมาคอยคุ้มกันถังซีโดยเฉพาะ รีบลงจากรถมาเปิดประตูด้านหลังให้เฉียวเหลียง “นายน้อย เชิญทางนี้ครับ”
เฉียวเหลียงมองหน้าอาหก แล้วค่อยๆ วางถังซีลงบนเบาะหลัง จากนั้นก็เดินอ้อมไปขึ้นรถอีกด้านหนึ่ง ขณะที่อาหกขึ้นมาบนรถ เฉียวเหลียงกำลังวางศีรษะถังซีลงบนตักอย่างนุ่มนวล อาหกมองดูคนทั้งสองจากกระจกมองหลังและสตาร์ตรถ เขาปิดกระจกแล้วขับรถออกไป
อาหกจะพาทั้งคู่ไปส่งที่บ้านเฉียวเหลียง ถังซีตื่นขึ้นระหว่างทาง เธอลุกขึ้นอย่างง่วงงุน รู้สึกเมื่อยและปวดคอเล็กน้อย… จึงยืดคอเพื่อให้หายเมื่อย แต่แทนที่จะได้คลายกล้ามเนื้อ เธอกลับปวดร้าวมากขึ้นจนน้ำตาไหล เธอมองเฉียวเหลียง ผู้ไม่คาดคิดว่าถังซีจะขยับกล้ามเนื้อคอในลักษณะนั้น… เขายิ้มให้เธอด้วยความสงสาร แล้วนวดคอให้เธออย่างอ่อนโยน “ลูกแมวขี้เซา…”
ถังซีเม้มริมฝีปาก ขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ เฉียวเหลียง ขณะเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคืนฉันมัวแต่แก้ไขงานออกแบบก็เลยนอนดึก และเมื่อกี้คุณทำหัวใจฉันแตกสลาย ฉันเลยร้องไห้แล้วหลับไป…” เธอกล่าว น้ำเสียงเต็มไปด้วยความคับข้องใจ
เฉียวเหลียงจ้องมองถังซี นวดคอให้เธอไปเรื่อยๆ ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งจับมือเธอไว้ เขาถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ “บอกผมได้ไหมว่าผมทำหัวใจคุณแตกสลายยังไง”
ทั้งสองน่าจะใช้โอกาสนี้พูดคุยกันดีๆ เฉียวเหลียงคิด… ประกายความเศร้าปรากฏในดวงตาถังซี เธอเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง ถามเสียงต่ำว่า “คุณไม่รู้เหรอ”
เฉียวเหลียงถอนหายใจ ขณะมองหน้าถังซี “ผมทำหัวใจคุณแตกสลาย เพราะผมขอเลิกกับคุณใช่ไหม”
“ไม่ใช่ เฉียวเหลียง” ถังซีมองเฉียวเหลียงและส่ายศีรษะ เฉียวเหลียงขมวดคิ้ว “แล้วผมทำอะไรหรือที่เป็นการทำร้ายคุณ”
“คุณไม่เชื่อใจฉัน” ถังซีเม้มริมฝีปาก “คุณอยากเลิกกับฉันเพราะกลัวว่าฉันจะเศร้า แต่คุณรู้ไหม เฉียวเหลียง ถ้าคุณตายฉันจะเป็นยังไง ฉันจะคิดว่าคุณไม่เชื่อใจฉัน ไม่เชื่อมั่นในความจริงที่ว่าฉันต้องการใช้ชีวิตที่เหลือของฉันกับคุณ และฉันจะคิดว่าคุณไม่รักฉันเลย…”
เฉียวเหลียงนิ่งขึง เขาจ้องมองถังซีซึ่งกล่าวต่อไปว่า “ถึงแม้ผลจะปรากฏออกมาว่าคุณไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่ฉันก็ยังเกลียดคุณ ฉันเกลียดคุณเพราะคุณทอดทิ้งฉัน ทอดทิ้งคนที่รักคุณมาก ฉันเกลียดคุณ เพราะคุณทำให้ฉันต้องหลับไปด้วยความสิ้นหวังและปวดร้าวทรมาน และบังคับให้ฉันตื่นขึ้นจากความฝันที่มีคุณอยู่กับฉันในนั้นทุกๆ วัน! ความเป็นจริงย้ำเตือนฉันตลอดเวลาว่า เป็นความเจ็บปวดแค่ไหนที่ฉันยังคิดถึงคุณ เป็นความโหดร้ายแค่ไหนที่ฉันต้องเกลียดคุณ… และจริงๆ แล้วชีวิตนั้นสั้นแค่ไหน..
“คุณรู้ไหมเฉียวเหลียง ในนาทีที่ฉันเสียชีวิตฉันคิดว่า โอ… ในที่สุดฉันก็ได้หลุดพ้นจากกความรัก ความเกลียดชัง และความคิดถึงคุณ ฉันคิดว่าชีวิตฉันช่างแสนเศร้า ฉันไม่ได้มีคุณอยู่ข้างๆ ตอนที่ฉันตาย พระเจ้าไม่ยุติธรรมต่อฉัน แต่พอฉันลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าฉันได้กลับมามีชีวิตใหม่ในร่างหญิงสาวอีกคน ซึ่งพระเจ้าไม่ยุติธรรมต่อเธอเช่นกัน แต่ยังไงก็ตามฉันก็ได้พบคุณอีกครั้งในร่างของเธอ”
เฉียวเหลียงฟังเธออยู่เงียบๆ กำมือแน่น เขารู้สึกราวกับมีมือยักษ์มาบีบหัวใจเขาแล้วคลายออก ซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งเขาหายใจไม่ออก…
ถังซีดูออกอย่างชัดเจนจากหน้าตาเฉียวเหลียงว่าเขาเจ็บปวด แต่…
“คุณรู้ไหมเฉียวเหลียง ตอนที่ฉันได้พบคุณอีกครั้งฉันอยากแก้แค้นคุณ แต่หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคุณในหลายปีที่ผ่านมา ฉันได้รู้ว่าคุณยังคงเสียใจอยู่ตลอดเวลา คุณพยายามกลับมาคืนดีกับฉัน และต้องพบกับความเกลียดชังและเย็นชาของฉันตลอดห้าปีที่ผ่านมา หัวใจฉันก็เลยอ่อนลง กลับกลายเป็นว่าในช่วงห้าปีนั้น ขณะที่ฉันคิดถึงคุณ คนที่ฉันคิดถึงก็กำลังคิดถึงฉันเหมือนกัน… ฉันอยู่ในหัวใจเขา อยู่ในจิตใจเขา… ฉันจึงตัดสินใจว่าฉันต้องเลือก ระหว่างการทำให้คุณจำฉันได้ หรือทำให้คุณตกหลุมรักฉันอีกครั้ง แล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป โดยไม่บอกคุณว่าฉันคือถังซี
“แต่แล้วฉันก็ตกอยู่ในอาการโคม่า… ฉันเห็นคุณสิ้นหวังเมื่อคุณอยู่ที่ลองบีช ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป ฉันอยากบอกคุณว่าฉันคือถังซี ต่อให้คุณจะหาว่าฉันเป็นคนบ้าก็ตาม ฉันจึงตัดสินใจบอกคุณว่าฉันคือถังซี ถังซีที่รักคุณเสมอ และเป็นที่รักของคุณ” ถังซีจับมือเฉียวเหลียงแน่น เงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วกล่าวว่า “อาเหลียง ฉันรู้ว่าคุณโทษตัวเองว่าคุณเป็นต้นเหตุทำให้ฉันตาย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณฉันคงไม่เดินทางท่องเที่ยว แต่ฉันคิดว่าต้องโทษตัวฉันเองด้วยเหมือนกัน คุณเองก็นอนไม่หลับเพราะฉัน ถ้าตอนนี้คุณบอกฉันว่าคุณห่วงใยฉันมากเพราะความรู้สึกผิด ฉันจะยุติความสัมพันธ์ของเรา เพราะฉะนั้นถ้าคุณรักฉันจริง ได้โปรดอย่าตำหนิตัวเองอีกต่อไป ได้ไหม”
เฉียวเหลียงมองลึกเข้าไปในดวงตาถังซี นิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มและกระซิบว่า “เด็กโง่ นี่คุณกำลังบ่นผม หรือพยายามคลายความวิตกกังวลของผมกันแน่”
“ทั้งสองอย่าง” ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียง “สิ่งที่ฉันอยากบอกคุณก็คือ ฉันต้องการแต่งงานกับคุณ แต่ตอนนี้ฉันทำไม่ได้ และถ้าไม่มีการขอแต่งงานอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ!”
เฉียวเหลียงจ้องมองถังซีนิ่งด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตระหนักได้ในสิ่งที่เธอพูด “คุณหมายความว่าคุณจะแต่งงานกับผมใช่ไหม ถ้าคุณพอใจในการขอแต่งงานของผม”
ถังซีคำรามเบาๆ “ไม่มีทาง! ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก ฉันอายุแค่ยี่สิบสาม ฉันยังไม่อยากแต่งงาน!”
เฉียวเหลียงอึ้ง “…” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินเหตุผลนี้
ถังซีรู้สึกสนุกกับท่าทางพูดไม่ออกบอกไม่ถูกของเฉียวเหลียง เธอยิ้มให้เขาพร้อมกับยักคิ้ว “คุณแก่เกินไปสำหรับฉัน ฉันยังเป็นสาวน้อยอยู่เลย และฉันยังไม่เคยมีความรัก… เอิ่ม…”