ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 291 ฉันไม่ต้องการผู้ชายอื่น
หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างหลังชายคนนั้นขมวดคิ้ว และแอบมองลูกชายของนาง สีหน้าเหวินเฟิงถมึงทึงหลังจากถูกชายคนนั้นถาม แต่เขารู้ว่าเขาจะอารมณ์เสียต่อหน้าเพื่อนเก่าคนนี้ไม่ได้ ได้แต่หันไปจ้องหน้าเหวินนิ่งแล้วกล่าวว่า “กัว ฉันขอโทษ ฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลัง”
ลู่หลีมองเหวินนิ่งอย่างครุ่นคิด เหวินนิ่งรู้สึกว่าถูกจ้องอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมอง ยิ้มให้เขา เลิกคิ้วขึ้นแล้วกล่าวว่า “นี่คุณพ่อฉันเองค่ะ เหวินเฟิง และสาวสวยข้างๆ นั้นคือคุณแม่ เหยียนหนิงฮุ่ย”
เหวินเฟิงซึ่งเพิ่งส่งเพื่อนเก่าออกไป ได้ยินเหวินนิ่งแนะนำเขากับชายหนุ่ม ใบหน้าเขาก็ยิ่งถมึงทึง และกล่าวกับเหวินนิ่งอย่างเย็นชา “ฉันไม่ใช่พ่อของเธอ! ฉันไม่สมควรที่จะเป็นพ่อของเธอ!” จากนั้นเขาก็มองดูลู่หลีและตะคอกว่า “ฉันไม่รู้ว่าคุณเจอลูกเนรคุณคนนี้ที่ไหน แล้วมาช่วยกันเล่นละครตบตาฉันแบบนี้! เหวินนิ่ง ฉันจะบอกให้นะ เธอไม่ใช่ลูกของฉันอีกต่อไป ถ้าเธอไม่แต่งงานภายในสิ้นปีนี้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาเหวินนิ่งก็ขมวดคิ้ว เธอปล่อยมือจากลู่หลี ก้าวไปข้างหน้าแล้วยืนกอดอก จากนั้นก็เธอมองพ่อของเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เฒ่าเหวิน คุณส่งฉันไปเรียนที่วิทยาลัยการทหาร หลังจากสำเร็จการศึกษาฉันก็เข้าทำงานใน SWAP แล้วจากนั้นก็ในองค์การตำรวจสากล ฉันทำงานหนักตามที่คุณต้องการทุกอย่าง จนฉันไม่มีเวลา ฉันใช้เวลาหมดไปกับการทำงาน แล้วจะมีเวลาที่ไหนไปหาแฟน ตอนนี้จะมาโทษฉันว่าไม่แต่งงาน คุณจะโทษฉันเรื่องนี้ได้ยังไง”
เธอรับราชการในกองทัพ ตอนนี้อยู่ในตำแหน่งสารวัตรใหญ่ บุคลิกของเธอจึงเป็นลักษณะผู้มีอำนาจ แม้แต่รัศมีความน่าเกรงขามของพ่อเธอก็ไม่ทรงพลังเท่าเธอ ทั้งพ่อและลูกสาวต่างตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ลู่หลีซึ่งยืนอยู่ข้างๆ เฝ้าชมภาพเหตุการณ์นั้นไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด เขาล้วงมือในกระเป๋ากางเกง มองดูทั้งสองคน โดยไม่มีความคิดจะแทรกแซงความกระอักกระอ่วนนั้นแม้แต่น้อย
ในที่สุดเหยียนหนิงฮุ่ยก็ทนไม่ไหว รีบเข้ามาดึงเหวินเฟิงออกไป แล้วเสียงดังใส่ทั้งสองอย่างหมดความอดทน “พอแล้ว นี่ไม่ใช่บ้านเรานะ ถ้าทั้งสองคนอยากทะเลาะกันก็ไปทะเลาะที่บ้าน อย่ามาเปิดศึกกันที่นี่!”
“เธอไม่เคยกลับบ้าน!” เหวินเฟิงจ้องหน้าเหวินนิ่ง
เหวินนิ่งโต้กลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “แล้วไงล่ะคะ ก็หนูไม่รู้สึกว่าที่นั่นคือบ้าน!”
“เหวินนิ่ง!” เหวินเฟิงคำรามลั่น “แกพูดกับพ่อของแกอย่างนี้ได้ยังไง แกลืมไปแล้วหรือว่าฉันเลี้ยงดูให้การศึกษาแก นี่แกกำลังทำความเสื่อมเสียให้แก่องค์การตำรวจสากล”
เหวินนิ่งยักไหล่ กำลังจะพูดต่อไป เมื่อลู่หลีซึ่งมองดูอยู่อย่างไม่ใส่ใจ จู่ๆ ก็เดินเข้ามาหาเหวินนิ่ง แล้วดึงเธอมาหลบข้างหลังเขา เหวินเฟิงขมวดคิ้วมองเขา ลู่หลียื่นมือไปหาเหวินเฟิง “สวัสดีครับ ผู้พันเหวิน ผมลู่หลี”
ทีแรกเขาคิดว่าเขาไม่รู้จักเหวินเฟิงคนนี้ แต่ตอนนี้เขาจำได้แล้วว่าเหวินเฟิงคือผู้บัญชาการกรมทหารของเมือง A หลงเซี่ยวกรุปเคยทำข้อตกลงซื้อขายกับเมือง A เขาจึงให้คนตรวจสอบข้อมูลของกรมทหารแห่งเมือง A และมีชื่อเหวินเฟิงกล่าวถึงในรายงาน แต่เหวินเฟิงเป็นคนที่ไม่มีลักษณะพิเศษ ไม่มีอะไรน่าประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้ เขาจึงไม่คาดคิดว่าชายผู้นี้คือเหวินเฟิง
เหวินนิ่งเลิกคิ้วขึ้นมองลู่หลี จากนั้นเธอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วจ้องมองด้านหลังศีรษะของลู่หลีอย่างงุนงง เหวินเฟิงไม่เคยพบเห็นลู่หลีมาก่อน เขาจึงไม่ใส่ชายหนุ่ม เมื่อได้ยินการแนะนำตัวเขาก็กล่าวอย่างเฉยเมย “ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณเป็นใคร คุณต้องออกไปจากชีวิตเหวินนิ่ง คุณไม่คู่ควรกับเธอ ถ้าคุณเพิ่งได้รับการว่าจ้างจากเหวินนิ่งให้เล่นละครตบตาผม คุณก็ออกไปได้แล้ว ไม่มีใครคู่ควรที่จะเข้ามาในตระกูลเหวินของเรา!”
เหวินนิ่งโกรธเมื่อเธอได้ยินคำพูดอันหยิ่งยะโสของบิดา เธอตะคอก “เฒ่าเหวิน ระวังคำพูดของคุณด้วย ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันเป็นโสดไปตลอดชีวิต!”
เหวินเฟิงเดือดดาลเพราะคำพูดของเธอ เขาคำรามลั่นโดยไม่คำนึงถึงกาลเทศะใดๆ ทั้งสิ้น “แกต้องการอะไร!”
“ฉันจะบอกคุณให้นะ เฒ่าเหวิน ฉันไม่ต้องการผู้ชายอื่นนอกจากเขา ที่จะมาเป็นสามีฉัน! เข้าใจไหม!” เหวินนิ่งเชิดหน้า จ้องมองอย่างมุ่งมั่น “ฉันจะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต ถ้าคนที่ฉันต้องแต่งงานด้วยไม่ใช่ลู่หลี!”
ลู่หลีซึ่งไม่ได้สนใจคำพูดของเหวินเฟิงเลย จู่ๆ ก็หันกลับมามองเหวินนิ่ง ดวงตาเขานิ่งขึงราวกับน้ำแข็ง เหวินนิ่งเงยหน้าขึ้นสังเกตปฏิกิริยาเขา และได้เห็นสายตาอันเยือกเย็น เหวินเฟิงกำลังจะอ้าปากด่าว่าเหวินนิ่งอีก ขณะที่ลู่หลีดึงเหวินนิ่งเข้ามาในอ้อมแขน เหวินนิ่งถูกกอดไว้แน่นกับอกเขา เขาจ้องหน้าเธอเขม็ง และดวงตาเขาหรี่ลง “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ”
เหวินนิ่งไม่เคยเกรงกลัวอะไรหรือใครเลย แต่เมื่อครั้งที่เธอเข้าไปอยู่ในวิทยาลัยการทหารนั้น เธอกลัวลู่หลีมาก เมื่อลู่หลีหายตัวไป ผู้ชายคนเดียวที่เธอกลัวก็หายไปด้วย จากนั้นหลังจากได้สะสมประสบการณ์การทำงานมายาวนาน เธอก็กลายเป็นปีศาจและภูเขาน้ำแข็งในสายตาทุกคน เมื่อครู่นี้ตอนที่ได้เจอกับลู่หลี เธอจึงกล้าก้าวออกไปตั้งแต่ก้าวแรกอย่างไม่เกรงกลัว…
แต่ตอนนี้เธอกลัว เธอกลัวว่าลู่หลีจะตอบกลับมาทันทีว่า ‘แต่ผมไม่ต้องการแต่งงานกับคุณ คุณไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่เป็นตัวเลือกของผม’
เธอกำมือแน่น เงยหน้าขึ้นมองลู่หลีและเอ่ยชัดๆ ทีละคำว่า “ฉันบอกว่า ฉันไม่ต้องการผู้ชายอื่นนอกจากคุณ ที่จะมาเป็นสามีฉัน”
ลู่หลีเม้มริมฝีปากแน่น แล้วเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา “พูดอีกทีซิ”
“ลู่หลี คนที่จะมาเป็นสามีฉัน ฉันไม่ต้องการผู้ชายอื่นนอกจากคุณ” เหวินนิ่งมองตาลู่หลีแน่วแน่
ลู่หลียิ้ม มองหน้าเธอแล้วปล่อยมือจากเธอ เหวินนิ่งคว้าตัวเขาไว้ และถามอย่างตื่นตระหนก “คุณ…”
ลู่หลีสะบัดมือจากเธอ หันไปมองเหวินเฟิงและกล่าวอย่างหนักแน่น “ผู้พันเหวิน ผมเป็นแฟนลูกสาวคุณนับจากวันนี้เป็นต้นไป ถ้าคุณมีคำถามอะไรเกี่ยวกับตัวผม กรุณาถามมา ผมจะบอกทุกอย่างที่คุณอยากรู้”
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป…” เหวินเฟิงคำราม จ้องมองเหวินนิ่ง และด่าลั่นอย่างเดือดดาล “เป็นอย่างที่ฉันเดา แกจ้างผู้ชายคนนี้มาเล่นละครตบตาฉันใช่ไหม แกทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ!”
เหวินนิ่งพูดไม่ออก เธอมองบิดาขณะกล่าวว่า “พ่อคะ พ่อขอให้หนูมาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำคืนนี้ แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้หนูพาแฟนมาด้วยไม่ใช่เหรอคะ เป็นความผิดของหนูเหรอคะที่พาแฟนหนูมาด้วย”
“แต่แกควรหาคนที่เหมาะสม ที่จะมาอยู่ในฐานะแฟนของแก!” เหวินเฟิงจ้องมองชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ และขุดหาข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับชายคนนี้ไม่ได้เลยจากความทรงจำ
เหวินนิ่งเกือบระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ เธอมองหน้าลู่หลี และลู่หลีหายใจเข้าลึกๆ พยายามคิดหาวิธีโน้มน้าวให้เหวินเฟิงมั่นใจว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่ ‘คู่ควร’ ขณะที่มีคนสองคนเดินเข้ามาหาพวกเขา…
เหวินนิ่งมองตามสายตาเขา และตกตะลึง