ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 386 บัญชีธนาคารที่แปลกประหลาด
คลอส อีฟส์มองดูลูกสมุนกำลังรีบจดตัวเลข ทุกคนเชื่อทุกคำพูดของคลอส เลิฟ เพราะเขามีความละเอียดในการจดจำตัวเลขมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ อีฟส์พูดเสมอว่าเลิฟเกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจ เพราะนักธุรกิจเท่านั้นจึงจะมีความไวเป็นพิเศษในการจดจำตัวเลขเช่นนี้ ไม่ว่าตัวเลขนั้นจะมีจำนวนมากขนาดไหนก็ตาม เขาก็สามารถจดจำได้ทั้งหมดเมื่อได้เห็นเพียงครั้งเดียว เมื่อเลิฟบอกว่าตัวเลขชุดนี้คือหมายเลขบัญชีธนาคารของชายคนนั้น พวกเขาย่อมสามารถใช้หมายเลขนี้สืบหาตัวชายผู้นั้นได้อย่างแน่นอน
คลอส อีฟส์มองหน้าลูกชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กล่าวเสียงเรียบว่า “พ่อจะแก้แค้นให้แกแน่ แกพักผ่อนอยู่ที่บ้านเฉยๆ เรื่องนี้พ่อจะจัดการเอง”
ดวงตาคลอส เลิฟฉายประกายโหดเ**้ยม เขามองบิดาแล้วกล่าวว่า “พ่อไปสืบหาตัวตนไอ้ผู้ชายคนนั้นเถอะ ผมมีอย่างอื่นที่ต้องจัดการเหมือนกัน ครั้งนี้ผมโดนนังดาราจีนนั่นจัดฉากใช้ผมเป็นเครื่องมือ ผมต้องจับตัวมันมาให้ได้ ต่อให้มันกลับไปเมืองจีนแล้วก็ตาม! มันกล้ามาหลอกผมได้ยังไง ต้องจับมันมาทรมานให้สาสม!”
“หล่อนจัดฉากใช้แกเป็นเครื่องมืองั้นเหรอ” คลอส อีฟส์มองหน้าลูกชาย ถามว่า “ทำไมมันถึงทำอย่างนั้น”
“ผมไม่สนว่าทำไม! แต่ในเมื่อมันทำให้ผมต้องทุกข์ทรมาน ผมก็จะจับมันมาถลกหนังทั้งเป็น จะได้สำนึกว่าที่มันทำลงไปนั้น เป็นความผิดใหญ่หลวงขนาดไหน!”
คลอส เลิฟหรี่ตาลง ริมฝีปากแสยะยิ้มเ**้ยมเกรียม ผู้หญิงคนนั้นสวยเซ็กซี่เหมาะจะเป็นของเล่นบนเตียงที่สมบูรณ์แบบของเขา! คงจะเคยนอนกับผู้ชายมาเป็นจำนวนไม่น้อย… ก็ดี เขาจะฆ่าหล่อนทิ้งเสียหลังจากที่เบื่อเรือนร่างหล่อนแล้ว!
ในทันทีที่กลับมาถึงปราสาทซึ่งเป็นที่พักอาศัย คลอส อีฟส์ก็สั่งให้คนของเขาไปสืบเรื่องหมายเลขบัญชีธนาคาร พวกเขาจะหาตัวตนผู้ชายคนนั้นพบในทันทีที่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร เลิฟเองก็สั่งให้คนของเขาออกตามหาสวีฟัง เขาหรี่ตาลง ขณะสั่งงานเสียงต่ำอย่างดุดัน “สืบหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ชื่อ โรงแรมที่พัก และเที่ยวบินของหล่อนด้วย ฉันให้เวลาพวกแกสี่สิบแปดชั่วโมง ถ้าหาไม่พบภายในสี่สิบแปดชั่วโมง ฉันจะฆ่าพวกแกทิ้ง!”
คนของเขาก้มศีรษะรับ แล้วรีบเร่งออกไปสืบหาสวีฟัง
ในเวลานั้นเองคนของคลอส อีฟส์ก็เข้ามาพร้อมด้วยคอมพิวเตอร์แลปท็อป ชายผู้นั้นมองดูเลิฟ แล้วถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “นายน้อยครับ แน่ใจนะครับ ว่าจำหมายเลขบัญชีได้ถูกต้องทั้งหมด”
คลอส เลิฟแสดงอาการไม่พอใจ จ้องหน้าชายคนนั้น และกล่าวขึ้นด้วยความโกรธ “แกกล้าสงสัยความสามารถของฉันอย่างนั้นหรือ ฉันมั่นใจเป็นบ้าเลยว่าจำได้ไม่มีพลาด ถึงจะได้เห็นเพียงแวบเดียว แต่ฉันมั่นใจว่าตัวเลขพวกนั้นคือหมายเลขบัญชีธนาคารของมัน! ถ้าแกไม่เชื่อ ไปตรวจสอบจากหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีฉัน แล้วแกจะรู้ว่าฉันไม่เคยพลาด! ไอ้งั่งเอ๊ย!”
คลอส อีฟส์ก็ได้ยินคำพูดของชายคนนั้นเช่นกัน แต่เขากลับรู้สึกถึงความหมายที่ต่างออกไปในคำพูดนั้น เขามองหน้าลูกน้องแล้วถามขึ้น “บัญชีนั่นมีอะไรผิดปกติหรือ”
ชายผู้นั้นตรวจสอบหลักฐานการโอนเงินจากบัญชีของคลอส เลิฟ แล้วขมวดคิ้ว เงยขึ้นมองหน้าคลอส อีฟส์ ตอบว่า “มีครับ บัญชีธนาคารนี้มีอยู่จริง และนายน้อยได้โอนเงินไปเข้าบัญชีนี้จริง แต่…” เขานิ่งมองชายทั้งสองก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “แต่นี่เป็นบัญชีธนาคารของท่านเองครับ เจ้านาย ผมเพิ่งเช็กข้อมูลของบัญชีนี้ แต่ไม่พบว่ามีการรับโอนเงินจำนวนหนึ่งพันล้านยูโรเข้าบัญชี นั่นหมายความว่าความสามารถในการแฮกระบบของฝ่ายนั้นยอดเยี่ยมมาก และพวกเขาก็รู้จักระบบของเราเป็นอย่างดี ตอนนี้ผมไม่สามารถติดตามได้ว่าเงินหนึ่งพันล้านยูโรนั้นไปอยู่ที่ไหน บางทีเงินนี้อาจโดนแบ่งย่อยเป็นก้อนเล็กๆ กระจายไปอยู่ในบัญชีต่างๆ หลายบัญชี เราจึงไม่อาจรู้ได้ว่าเงินทั้งหมดอยู่ที่ไหน
“พวกมันใช้บัญชีธนาคารของเจ้านายในการจัดการกับเงินก้อนนี้ ซึ่งหมายความว่าพวกมันต้องการให้แน่ใจว่าเราจะหามันไม่เจอ ผมคิดว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนแบบที่พวกเราคาดไว้แต่แรก น่าจะเป็นพวกที่จัดการได้ยากมาก!”
“ให้ตายสิ!” คลอส เลิฟสบถอย่างเดือดดาล “ผมจำไม่ได้เลยว่ามันจับตัวผมไปไว้ที่ไหน อย่างเดียวที่จำได้แน่คือที่นั่นเงียบมาก จึงไม่ใช่ในเมืองอย่างแน่นอน มันขับรถวนอยู่นานมาก แล้วถึงจับผมโยนลงในลานทิ้งขยะ ผมคิดว่าพวกมันน่าจะอยู่ทางด้านใต้สุดของปารีส จึงตั้งใจเอาผมไปทิ้งไว้ทางเหนือสุด พวกมันทำแบบนี้เพื่อให้เราสับสน! พ่อครับ นี่พวกมันตั้งใจท้าทายเราชัดๆ! พวกมันกล้าทำแบบนี้กับผม ทั้งที่รู้ว่าผมเป็นใคร! มันตั้งใจประกาศสงครามกับเรา! พ่อ เราจะปล่อยให้ไอ้ผู้ชายคนนี้รอดไปไม่ได้นะ!”
คลอส อีฟส์มองหน้าลูกชายแล้วรับปากหนักแน่นว่า “แน่นอนลูก พ่อไม่ปล่อยให้มันรอดไปได้แน่”
คนพวกนั้นกล้าทำกับลูกชายเขาถึงเพียงนี้ได้ยังไง ที่นี่ถิ่นเขา! ตั้งใจหยามหน้ากันชัดๆ!
เมื่อได้ยินบิดายืนยันอย่างหนักแน่น คลอส เลิฟก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นผมขอกลับไปพักที่ห้องก่อน พ่อครับ ตอนนี้ดึกมาแล้ว พ่อไปนอนเถอะ”
“พ่อจะเรียกหมอมาตรวจอาการแก หลังจากที่แกอาบน้ำเสร็จ อย่าออกไปข้างนอก อย่าก่อเรื่องวุ่นวายให้พ่อปวดหัวอีก เข้าใจไหม” คลอส อีฟส์จ้องหน้าลูกชายเขม็ง “ไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว!”
“ครับ พ่อ ผมไม่ออกไปไหนแล้วคืนนี้”
…
สวีฟังกำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองวีไอพีของสนามบินชาร์ลเดอโกล จู่ๆ ก็รู้สึกว่าหนังตากระตุก เธอขมวดคิ้ว ถามผู้จัดการส่วนตัวว่า “ตาขวาฉันกระตุก หมายความว่ายังไง”
ถ้าตาซ้ายกระตุกจะได้ลาภผลเงินทอง แต่ถ้าตาขวากระตุกจะเกิดเหตุร้าย ผู้จัดการของเธอคิดในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมาดังๆ จึงได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่า “ฟังฟัง คุณไม่ได้นอนหลับพักผ่อนมาสองวันเต็ม คงจะเหนื่อยน่ะ ยังเหลือเวลาอีกชั่วโมงหนึ่งกว่าเครื่องบินจะออกจากสนามบิน นอนพักสักหน่อยเถอะ ฉันจะคอยเฝ้าไว้ให้ และจะปลุกคุณเมื่อถึงเวลาต้องไปขึ้นเครื่อง”
ในขณะนั้นนั่นเองก็มีเสียงประกาศของทางสนามบินเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า ‘ผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ ขอประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดในวันนี้ เนื่องจากมีการฝึกซ้อมทางอากาศของกองทัพอากาศ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้’
หลังจากนั้นก็เป็นประกาศภาษาอังกฤษและภาษาจีน เกิดการโกลาหลขึ้นทั่วทั้งสนามบินในทันที ยกเลิกทุกเที่ยวบินอย่างนั้นหรือ ล้อเล่นหรือเปล่า!