ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 397 ผู้ที่ไร้ยางอายที่สุดในบรรดาผู้ไร้ยางอาย
- Home
- ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง
- ตอนที่ 397 ผู้ที่ไร้ยางอายที่สุดในบรรดาผู้ไร้ยางอาย
วิเวียนหันกลับไปมองผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยินกับหู หล่อนไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ เธอเพิ่งบอกหล่อนไปว่าเฉียวกรุปจะไม่จัดแสดงงานที่ขโมยมาจากผลงานคนอื่น หล่อนยังจะอยากให้นำเสื้อผ้าของหล่อนออกแสดงอีก บ้าหรือโง่กันแน่
วิเวียนจ้องหน้าฉินซินหยิ่ง ถามประชดว่า “ขอโทษ คุณว่าอะไรนะ”
ฉินซินหยิ่งทำเป็นไม่เห็นสายตารังเกียจนั้น และกล่าวต่อไป “ฉันบอกว่า ถ้าคุณนำเสื้อผ้าของฉันออกแสดง ฉันจะไปจากเฉียวกรุปโดยดี ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ไปง่ายๆ”
“ฮ่าๆ…” วิเวียนหัวเราะออกมาทันที เธอมองฉินซินหยิ่งด้วยสายตาคมกริบ ยิ้มเยือกเย็นก่อนจะกล่าวว่า “ฉินซินหยิ่ง คุณเสียสติไปแล้วหรือ คุณคิดได้ยังไงว่าเราจะนำเสื้อผ้าของคุณออกแสดง แล้วยอมให้ทั้งโลกประณามว่าเราขโมยผลงานคนอื่น ฉันเรียกคุณมาที่นี่เพื่อแจ้งให้ทราบว่าคุณถูกไล่ออก ฉันไม่ได้กำลังต่อรองกับคุณ เข้าใจไหม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณว่าอยากอยู่ที่เฉียวกรุปต่อไปหรือไม่อยากอยู่ จริงอยู่ว่าคุณคือคุณหนูของฉินกรุป แล้วยังไง คุณคิดหรือว่าเรากลัวคุณกับพ่อผู้น่ารังเกียจของคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดของวิเวียน ฉินซินหยิ่งก็หน้าถมึงทึงขึ้นทันที เธอหรี่ตาลง กล่าวด้วยน้ำเสียงข่มขู่ว่า “วิเวียน ฉันขอแนะนำให้คุณระมัดระวังคำพูดหน่อย! คุณก็รู้ว่าปลาหมอน่ะมักตายเพราะปาก!”
“คุณขู่ฉันอย่างนั้นหรือ” วิเวียนมองฉินซินหยิ่งแล้วยิ้มเหยียด ล้วงหยิบเครื่องอัดเสียงที่มีลักษณะเหมือนปากกาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ กดปุ่มเปิด และเสียงของคนสองคนดังขึ้น…
‘พ่อคะ พ่อได้ภาพสเก็ตช์งานออกแบบที่หนูขอให้ช่วยหาหรือยัง หนูต้องส่งงานให้ผู้อำนวยการแผนกออกแบบของเฉียวกรุปภายในสองวันนี้แล้ว ถ้าส่งไม่ทัน หนูก็จะพลาดโอกาสนี้!’ เสียงนั้นเป็นเสียงของฉินซินหยิ่ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเรื่องภาพสเก็ตช์งานออกแบบที่จะต้องส่ง
วิเวียนกดปุ่ม ‘หยุดชั่วคราว’ มองฉินซินหยิ่งด้วยรอยยิ้มเยาะ “คุณฉิน อยากฟังต่อไหม”
สีหน้าฉินซินหยิ่งมืดหม่นลงทันที เธอหรี่ตาจ้องมองวิเวียน ราวกับอยากฉีกเนื้อวิเวียนออกเป็นชิ้นๆ เธอสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ สองสามครั้ง ก่อนจะค่อยสงบจิตใจลง แล้วจ้องหน้าวิเวียนด้วยสายตาเย็นเยียบ “กล้าดียังไงถึงมาติดเครื่องดักฟังในห้องทำงานฉัน!”
วิเวียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เป็นไปไม่ได้ค่ะ… ฉันไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่นอน แต่… ฉันก็ไม่เคยคิดว่าดีไซเนอร์อัจฉริยะผู้โด่งดัง จะเอาผลงานคนอื่นมาเป็นผลงานของตัวเอง! คุณฉิน คุณเคยรู้สึกละอายใจบ้างไหม เวลาที่คุณปลาบปลื้มกับชื่อเสียงและคำชื่นชม ทั้งๆ ที่ได้มาจากผลงานของคนอื่น”
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดถึงอะไร!” ฉินซินหยิ่งมองวิเวียน พลางขมวดคิ้ว “ครั้งนี้มือฉันเจ็บ ฉันไม่มีทางเลือก แต่งานของฉันก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเอามาจากผลงานของใคร!”
วิเวียนได้ฟังเสียงที่บันทึกไว้ทั้งหมดแล้ว จึงรู้ดีว่างานออกแบบของฉินซินหยิ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่ผลงานของเธอเลยสักชิ้นเดียว เมื่อได้ยินเธอโกหกซ้ำอีก วิเวียนจึงรู้สึกคลื่นไส้อย่างยิ่ง เธอส่ายศีรษะ แล้วเปิดเครื่องบันทึกเสียงอีกครั้ง…
“ซินหยิ่ง ไม่ต้องห่วง พ่อจัดการไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราจะได้ภาพสเก็ตช์งานออกแบบที่สวยสมบูรณ์แบบสองชิ้นภายในสองวันนี้ คนในครอบครัวของดีไซเนอร์คนหนึ่งกำลังป่วยหนัก เขาเลยขายงานออกแบบให้พ่อ”
“ระวังนะคะ อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด ถ้ามีใครรู้ว่าหนูเอางานออกแบบของคนอื่นมาใช้เป็นผลงานตัวเองละก็ หนูพังแน่ๆ!”
“ลูกสบายใจได้ จะไม่มีใครรู้แน่นอน เชื่อพ่อสิ”
“ค่ะ พ่อ หนูหวังว่าดีไซเนอร์คนนี้คงไม่สร้างเรื่องยุ่งยากให้หนูทีหลัง เหมือนที่ถังซีเองก็ไม่สร้างปัญหา ไม่อย่างนั้นหนูไม่ปล่อยเอาไว้แน่ อ้อ… อีกอย่างหนึ่ง สไตล์การสเก็ตช์ภาพงานออกแบบชุดนี้ต้องเป็นแนวทางเดียวกับของถังซีด้วยนะคะ”
วิเวียนมองหน้าฉินซินหยิ่งซึ่งมีสีหน้าซีดเซียวลงทุกขณะ เธอปิดปากกาบันทึกเสียง ยิ้มเยือกเย็น กล่าวว่า “คุณฉิน อยากพูดอะไรเพิ่มเติมไหม คุณจะเลือกออกไปจากบริษัทเราหลังจากจ่ายค่าเสียหายแล้วแต่โดยดี หรือจะบังคับให้เราต้องแถลงข่าวกับสื่อมวลชน แล้วฟ้องร้องคุณ”
ฉินซินหยิ่งจ้องมองวิเวียนด้วยใบหน้าซีดขาวและเคร่งเครียด ตวาดออกมาว่า “นี่มันหลักฐานปลอมชัดๆ!”
“หลักฐานปลอมอย่างนั้นหรือ” วิเวียนจ้องหน้าฉินซินหยิ่ง ซึ่งยืนกรานปฏิเสธสิ่งที่เธอได้กระทำลงไป วิเวียนยิ้ม แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดวิดีโอให้ฉินซินหยิ่งดู “แล้วอันนี้ล่ะ คุณคิดว่าวิดีโอนี้ก็ปลอมหรือเปล่า”
หลังจากดูวิดีโอจบฉินซินหยิ่งถึงกับพูดไม่ออก เธอมองวิเวียนด้วยใบหน้าซีดเผือด ถามเสียงแหบแห้งว่า “ไปเอาวิดีโอนี้มาจากไหน ใครให้มา ถังซีหรือ”
“ใครให้ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือคุณเสร็จแน่ ถ้าฉันอัปโหลดวิดีโอนี้ทางอินเทอร์เน็ต คุณฉิน คุณรับออกมาเองในวิดีโอนี้ว่าคุณขโมยงานออกแบบของคุณถัง คิดหรือว่าจะกลืนน้ำลายตัวเองได้”
ตอนนั้นนั่นเองที่ดีไซเนอร์คนอื่นๆ และบรรดานางแบบทยอยกันเข้ามาในพื้นที่จัดงาน พวกเขามองฉินซินหยิ่งด้วยสายตารังเกียจ โดยเฉพาะเหล่าดีไซเนอร์ สายตาพวกเขาจับจ้องมาที่ฉินซินหยิ่งอย่างรังเกียจเดียดฉันท์
ฉินซินหยิ่งก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ท่าทางเหมือนกำลังพยายามปรับใจให้ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ไม่สิ เธอยังไม่ได้บรรลุถึงความสำเร็จขั้นสูงสุดที่เธอต้องการ เธอยังยอมแพ้ไม่ได้! เธอต้องรีบแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เธอจะไปจากเฉียวกรุปก็ได้ เพื่อให้ไม่ถูกเปิดโปง! เพราะถ้าโดนเปิดโปงขึ้นมาเธอคงไม่อาจอยู่ในวงการแฟชั่นได้อีกต่อไป… ไม่ใช่สิ ไม่เพียงแค่วงการแฟชั่นเท่านั้น คงไม่มีที่ให้ยืนบนโลกใบนี้เลยทีเดียว…
“ก็ได้ คุณเตรียมเอกสารที่ต้องการให้ฉันเซ็นไว้ได้เลย ฉันจะออกจากบริษัทและยอมจ่ายค่าเสียหาย แต่คุณต้องลบวิดีโอนี้ทิ้ง!” ฉินซินหยิ่งเม้มริมฝีปาก จ้องหน้าวิเวียน “ลบทิ้งเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ดีกว่า ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถึงแม้คุณจะตกลงยอมยกเลิกสัญญากับเรา แต่ฉันจะไม่ลบวิดีโอ”
ฉินซินหยิ่งจ้องวิเวียนตาแทบหลุดออกนอกเบ้า แววตาเคียดแค้น “นี่คุณล้อฉันเล่นใช่ไหม!”
“ไม่ได้ล้อเล่น ฉันไม่มีเวลามาล้อเล่นกับคุณหรอก ฉันเพียงแต่คิดว่าจะเป็นการหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีของดีไซเนอร์ทั้งหลาย หากคุณยังคงอยู่ในวงการแฟชั่นต่อไป ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันควรยืนหยัดเพื่อความถูกต้องเที่ยงธรรม โดยการทำให้คุณหายไปจากวงการนี้ นั่นคือสิ่งที่ฉันสมควรทำ อาจทำให้ฉันต้องเดือดร้อนนิดหน่อย แต่อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องทนเห็นหน้าคุณในวงการนี้อีกต่อไป” วิเวียนกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉย เธออัปโหลดคลิปวิดีโอขึ้นไมโครบล็อก แล้วหันหน้าจอโทรศัพท์ให้ฉินซินหยิ่งดู กล่าวว่า “ลาก่อน คุณฉิน”