ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 417 อย่าไปยุ่งกับเขา
ถังซีหน้านิ่ว เธอไม่คาดคิดว่าเฮ่อหว่านโจวซึ่งตามปกติเป็นคนสุภาพนุ่มนวลอยู่เสมอ จะถามเธอด้วยคำถามที่ไร้มารยาทเช่นนี้ และยังดูหมิ่นเฉียวเหลียงที่มีสถานะเป็นบอดีการ์ด บางทีในสายตาเขา อาชีพบอดีการ์ดอาจดูไม่มีอนาคตที่จะเจริญก้าวหน้านัก คนที่มาจากครอบครัวฐานะยากจนจึงจะเลือกประกอบอาชีพนี้… อย่างไรก็ตามเขาล้ำเส้นเกินไปแล้ว ที่กล่าวถ้อยคำเหล่านี้ต่อหน้าเธอและเฉียวเหลียง
หนิงเหยี่ยนและเฮ่อหว่านอีก็คิดเช่นกัน ว่าคำพูดของเฮ่อหว่านโจวไม่เหมาะสม หนิงเหยี่ยนขมวดคิ้ว กระตุกแขนเฮ่อหว่านโจว กล่าวเสียงต่ำว่า “เฮ้ เฮ่อหว่านโจว ใจเย็น”
เฮ่อหว่านอีก็ขมวดคิ้ว “พี่ใหญ่!”
ถังซีเงยหน้าขึ้นมองเฮ่อหว่านโจว แล้วยิ้ม “คุณเฮ่อหว่านโจวคะ ถึงแม้คุณปู่จะไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของเรา ฉันก็จะไม่เลิกกับเขา แต่สำหรับคุณ คุณเฮ่อ คุณไม่ใช่ผู้ชายแบบที่ฉันชอบ ต่อให้คุณปู่พยายามจับคู่ให้เรา ฉันก็ไม่เลือกคุณค่ะ”
เฮ่อหว่านโจวอึ้งไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความปรารถนาจะแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง และร่วมชีวิตกับเธอตลอดไป แต่กลับโดนเธอปฏิเสธ!
ตอนที่เขาเจอกับถังซีเมื่อวานนี้ เขารู้สึกจริงๆ ว่า ผู้หญิงคนนี้เหมาะสมทุกประการที่จะเป็นภรรยาเขา เธอคือ ‘คนที่ใช่’ อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับเขา แต่เวลาผ่านไปเพียงแค่วันเดียว ความฝันของเขากลับถูกเธอทำลายป่นปี้!
ถังซีรู้ดีว่าคำพูดของเธอโหดร้ายมาก แต่หากเธอไม่แสดงความชัดเจนให้เฮ่อหว่านโจวรับรู้ ในอนาคตจะต้องเกิดเรื่องยุ่งยากตามมาอย่างแน่นอน และเธอต้องยอมรับอย่างซื่อสัตย์กับตนเองว่า ไม่ต้องการเจอเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในอนาคต
เฮ่อหว่านอีมองดูพี่ชายซึ่งมีอาการเจ็บปวดใจจากคำพูดของถังซี แล้วได้แต่เม้มริมฝีปาก พูดอะไรไม่ออก ถ้าคุณถังไม่ชอบแม้กระทั่งชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมอย่างเซียวเหยา เธอจะมาเลือกพี่ชายเธอได้อย่างไร เธอรู้ดีว่าพี่ชายเธอเป็นผู้ชายแบบไหน เป็นหนุ่มเจ้าสำอางเหมือนเพลย์บอยทั่วๆ ไป มีสาวมากหน้าหลายตา และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขามาก่อน…
เมื่อเห็นสีหน้าเด็ดเดี่ยวของถังซีแล้ว เฮ่อหว่านอีก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา หากเธอสามารถตัดใจจากเซียวเหยาได้ง่ายดาย เหมือนที่ถังซีตัดใจจากเฉียวเหลียงได้ก็คงจะดีไม่น้อย
จากที่เซียวจิ่งเล่าให้ฟัง เธอมั่นใจว่าทั้งถังซีและเฉียวเหลียงต่างก็รักกันมาก เธอได้ยินมาว่าถังซีอยู่ในสภาพระทมทุกข์เป็นเวลานานหลังจากเลิกกับเฉียวเหลียง ส่วนเฉียวเหลียงก็ใช้ชีวิตอย่างทุกข์ระทมแสนสาหัสมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็มีคนรักใหม่
เฉียวเหลียงมองดูเฮ่อหว่านโจวซึ่งมีสีหน้าเศร้าหมอง แล้วฉีกยิ้มกว้าง กล่าวลอยๆ ขึ้นมาเป็นชื่อคนสามชื่อ “เหอเซียว หยางชิงย่าง ชิงเกอ”
ถังซีมองหน้าเขาด้วยสายตามีคำถาม คนพวกนี้เป็นใครเหรอ
อย่างไรก็ตาม เฮ่อหว่านโจว หนิงเหยี่ยน และเฮ่อหว่านอี มีสีหน้าตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อทั้งสาม ชื่อเหล่านี้คือดาราสาวสามคนที่เฮ่อหว่านโจวควงไปไหนมาไหนด้วยเมื่อเร็วๆ นี้… เหอเซียวเป็นนักร้องสาวที่มีชื่อเสียง ใบหน้าสะสวย ดูไร้เดียงสา ชิงเกอคือดาราสาวผู้โด่งดัง และหยางชิงย่างเป็นนักแสดงน้องใหม่ที่กำลังเริ่มได้รับความนิยม!
บอดีการ์ดคนนี้ไปรู้เรื่องเกี่ยวกับสามสาวนี้ได้อย่างไรกัน!
เฮ่อหว่านโจวจ้องหน้าเฉียวเหลียง มีความประสงค์ร้ายฉายชัดในดวงตา เขาเพิ่งเริ่มจีบถังซี แต่ไอ้บอดีการ์ดคนนี้ก็ไปสืบเรื่องของเขามาเสียแล้ว! เขาแอบควงดาราสาวทั้งสามอย่างลับๆ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากเพื่อนสนิทเท่านั้น เจ้านี่เป็นแค่บอดีการ์ด ไปสืบรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับดาราสาวสามคนนี้มาจากที่ไหนกัน!
ถังซีไล่มองหน้าคนทั้งสามแล้วนึกรู้ทันทีว่าสามชื่อนี้เป็นใคร เมื่อเร็วๆ นี้เธอเองก็เพิ่งเสาะหาคนดังมาเป็นตัวแทนโฆษณาเดอะควีน เธอจึงได้สืบค้นประวัติดาราสาวทั้งหมดที่กำลังโด่งดังอยู่ในเมือง A ตอนนี้เธอพอจะนึกออกแล้วว่าสามคนที่กล่าวถึงนี้คือใคร พวกเธอเป็นดาราดังที่มีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก เฉียวเหลียงเอ่ยถึงชื่อสามสาวกับเฮ่อหว่านโจว ก็เพราะเฮ่อหว่านโจวมีความสัมพันธ์แบบรักๆ ใคร่ๆ กับพวกหล่อนนั่นเอง!
“คุณเฮ่อคะ เขาอาจไม่ร่ำรวยเท่าคุณ หรือประสบความสำเร็จเท่าคุณ แต่เขาซื่อสัตย์กับฉันและไม่มีวันนอกใจฉัน นั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฉันรักเขา และทำให้เขาเหนือกว่าคุณในสายตาฉัน” ถังซียิ้มขณะหันกลับไปมองหนิงเหยี่ยน “ผู้กำกับหนิงคะ เราจะถ่ายวิดีโอกันหรือเปล่าคะ ถ้าเราเสร็จงานแล้ว ฉันก็จะขอตัวกลับค่ะ”
“แน่นอนสิ เรามาเริ่มถ่ายงานกันเลย” เมื่อได้ยินถังซีกล่าวเช่นนั้น หนิงเหยี่ยนก็ตบต้นขาตัวเองและกล่าวว่า “ผมจะให้คุณดูสคริปต์ก่อน หว่านอีได้อ่านแล้ว พอคุณอ่านเข้าใจดีแล้ว เราก็เริ่มถ่ายทำกันได้เลย”
ถังซีพยักหน้า หนิงเหยี่ยนเริ่มโทรเรียกทีมถ่ายวิดีโอ ซึ่งการถ่ายทำวิดีโอนั้นแตกต่างจาการถ่ายภาพนิ่ง ต้องมีทีมงานจำนวนมากกว่า ไม่ใช่มีแค่ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และช่างภาพ การถ่ายวิดีโอแม้จะเป็นเพียงคลิปเปิดตัวสินค้าที่มีความยาวไม่มากนัก ก็ต้องใช้ทั้งช่างไฟ ช่างควบคุมเสียง ผู้กำกับ ช่างกล้อง… และอื่นๆ อีกมากมาย
เขาไม่ได้เตรียมทีมมาไว้ก่อน เพราะคิดว่าจะไม่มีเวลาถ่ายทำวิดีโอในวันนี้ แต่ตอนนี้ในระหว่างถังซีศึกษาสคริปต์ เขายังมีเวลาตามทีมงานที่เป็นคนพื้นที่ซึ่งเคยติดต่อกันไว้ก่อนแล้ว
หนิงเหยี่ยนเดินไปหามุมโทรศัพท์ตามทีมงาน เมื่อเห็นเฮ่อหว่านโจวยังคงยืนนิ่งอย่างมึนงงอยู่ เขาก็เลิกคิ้ว เดินเข้าไปตบไหล่เขาเบาๆ “เลิกยุ่งกับถังซีเถอะ นายสู้บอดีการ์ดของเธอไม่ได้หรอก บางทีแม้แต่เฉียวเหลียงก็คงจะชนะนาย อย่าทำตัวเป็นนักรักคาซาโนว่าเลย ทำแบบนั้นแล้วทำให้นายดูโง่”
“นี่แก…” เฮ่อหว่านโจวถลึงตามองหนิงเหยี่ยน กล่าวด้วยความโมโหว่า “ฉันจะเศร้าบ้างไม่ได้หรือไง คำพูดของเธอทำร้ายจิตใจฉันมากนะ!”
“ได้ อยากเศร้าก็ได้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งนายควรทำ” แล้วหนิงเหยี่ยนก็เดินจากไปเพื่อไปโทรศัพท์
ถังซีกำลังนั่งอ่านสคริปต์ เธอเป็นคนเขียนเอง จึงจำได้หมดทุกรายละเอียด ที่จริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอ่าน… แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย เธอจึงต้องแสร้งทำเป็นอ่านสคริปต์
ในเวลานั้นนั่นเองเฮ่อหว่านโจวก็เดินเข้าไปหาเฉียวเหลียง กล่าวกับเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไปคุยกันหน่อย”
ถ้าหากเป็นผู้ชายอื่นเฉียวเหลียงคงทำท่าเมินเฉยใส่ แต่เฮ่อหว่านโจวไม่ใช่คนอื่น เขาเป็นเพื่อนเฉียวเหลียง แม้ขณะนี้เฉียวเหลียงจะอยู่ในฐานะ ‘บอดีการ์ดของถังซี’ แต่ก็ไม่อยากทำให้เฮ่อหว่านโจวต้องอับอาย ถึงแม้ว่าไม่มีวันที่เฉียวเหลียงจะยอมยกถังซีให้เขา แต่อย่างน้อยไปคุยกันก็ได้
เฉียวเหลียงลุกขึ้น เดินเข้าไปหาเขา “ได้สิ”