ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 421 บรรลุเป้าหมายของเธอ
หนิงเหยี่ยนมองหน้าถังซีและกล่าวว่า “ถ้าเธอทำออกมาได้ไม่ดี ฉันจะชวนเธอมาร่วมงานกับฉันหรือ ตอนนี้ดูเหมือนว่าถังซีจะพูดถูก โหรวโหรวเหมาะกับบทนี้มากกว่าถังซีแน่นอน และฉันคิดว่าเธอมีพรสวรรค์ในการแสดงมากกว่าถังซีด้วย”
ถังซี “… โอ ขอบคุณค่ะ ผู้กำกับหนิง”
หนิงเหยี่ยนยิ้มมุมปากเดินเข้าไปหาถังซี ยืนกอดอกมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ถามว่า “เธอสนใจเข้าร่วมทีมของฉันไหม ถ้าเธอตกลง กลับไปประเทศจีนฉันจะเซ็นสัญญากับผู้สร้างคนหนึ่ง เขามีบทที่ฉันสนใจ เรื่องนั้นมีนักแสดงนำหญิงสองคน เธอกับหว่านอีจะได้แสดงเรื่องนี้ เธอคิดว่ายังไง”
ถังซียิ้ม เริ่มไตร่ตรองว่าเธอควรยอมรับข้อเสนอนี้ดีไหม แต่ยังไม่เปิดเผยความคิดให้เขารู้ เพียงแต่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าคุณตั้งใจอยากทำเรื่องนี้อยู่แล้วใช่ไหมคะ ผู้กำกับหนิง”
“จะบอกความจริงให้ก็ได้ ฉันเลือกไว้นานแล้วว่าจะให้เฮ่อหว่านอีเป็นหนึ่งในนักแสดงนำหญิง แต่ฉันกำลังมองหาอีกคนหนึ่ง ตอนนี้ฉันคิดว่าฉันเจอคนที่ใช่แล้ว ถ้าเธอเห็นด้วยฉันจะเซ็นสัญญากับเรื่องนี้ทันที ว่าไงล่ะ” หนิงเหยี่ยนลูบคางมองถังซี เขาแน่ใจว่าถังซีจะตกลง
ถังซีหายใจเข้าลึกๆ กล่าวว่า “จะไม่ดีกว่าเหรอ ที่ฉันจะเป็นตัวแทนภาพลักษณ์แบรนด์ของตัวเอง โดยที่ฉันมีชื่อเสียงมากกว่านี้”
“แน่นอน ภาพยนตร์ของเราจะออกฉายทั่วโลก ในเวลานั้นแฟนๆ ของเธอจะมีอยู่ทั่วโลก แล้วเธอคิดว่าแฟนๆ ของเธอจะทำยังไงล่ะ เมื่อพวกเขาเห็นเธอทางโฆษณาทีวี” หนิงเหยี่ยนกล่าวอย่างจริงจัง
ถังซีแสร้งทำเป็นคล้อยตามคำพูดเขา
หนิงเหยี่ยนมองตามสายตาถังซี เขาหรี่ตาลงกล่าวต่อไปว่า “ลองคิดดูสิ ถ้า… ฉันหมายความว่าถ้านะ ถ้าเธอบอกใครๆ ว่าเดอะควีนเป็นบริษัทของเธอ เธอก็จะเป็นเทพธิดาแห่งวงการบันเทิง วงการธุรกิจ และมหาวิทยาลัยในเวลาเดียวกัน เธอจะกลายเป็นเทพธิดาแห่งชาติ! เทพธิดาที่ประสบความสำเร็จสูงสุด!”
“เทพธิดาแห่งชาติเหรอคะ” ถังซีรู้สึกว่าหัวใจเธอเต้นรัวเร็วขึ้น
หนิงเหยี่ยนมองเข้าไปในดวงตาเธอ และพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่แล้ว เทพธิดาแห่งชาติ! เธอเติบโตมาในชนบท เพราะเธอถูกคนสับเปลี่ยนตัวกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งตั้งแต่เกิด เรื่องราวของเธอจะโดนใจและเป็นที่จดจำของสาวๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม แทนที่จะถูกชะตากรรมอันโหดร้ายพร่าผลาญ เธอได้เปิดโปงสิ่งที่คนเลวทำกับเธอ และกลับมาหาพ่อแม่ ดูแลแม่ที่แท้จริง แม้ว่าแม่จะทอดทิ้งเธอซ้ำอีกก็ตาม แล้วเธอยังพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทดแทนบุญคุณคุณอากับครอบครัวที่ช่วยเหลือเกื้อกูลเธอ การกระทำเหล่านี้จะชนะใจคนเป็นพ่อแม่ ชนะใจคนใจดีทั่วไป หรือคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆ เธอ นอกจากนี้ความสำเร็จในด้านธุรกิจของเธอจะดึงดูดความสนใจจากนักธุรกิจจำนวนมาก เพราะฉะนั้นเธอจะกลายเป็นเทพธิดาแห่งชาติอย่างแน่นอน!…
…และเธอจะไม่ได้เป็นเพียงเทพธิดาแห่งชาติเท่านั้น แต่ยังเทพธิดาของคนทั้งโลกด้วย!” ขณะกล่าวหนิงเหยี่ยนมองถังซีด้วยประกายตาเจิดจ้า และน้ำเสียงตื่นเต้นเกินจริง
ถังซีเม้มริมฝีปากครุ่นคิด หลังจากเวลาผ่านไปครู่ใหญ่เธอจึงพยักหน้า “ตกลงค่ะ ถ้าจะเป็นประโยชน์กับเดอะควีน ฉันก็จะร่วมงานกับคุณ”
เฮ่อหว่านอีเลิกคิ้ว เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นหนิงเหยี่ยนพยายามอย่างหนัก ในการโน้มน้าวใครสักคนให้เข้าร่วมทีมของเขา!
แต่ถังซีดีใจมากที่ได้ยินคำพูดของหนิงเหยี่ยน เธอเคยลังเลที่จะเข้าสู่วงการบันเทิง แต่ตอนนี้หลังจากได้ยินคำพูดของหนิงเหยี่ยน เธอก็คิดว่าบางทีการเป็นนักแสดงอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เธอไม่ชอบวงการบันเทิงเพราะสวีฟัง แต่ก็มีคนอย่างเฮ่อหว่านอีอยู่ในวงการนี้ด้วย เธอไม่จำเป็นต้องปฏิเสธวงการนี้เพียงเพราะสวีฟัง เธอมีหนทางที่จะยอมรับความท้าทายของ 008 แล้ว!
ใช่ เธอถือว่าภารกิจที่ 008 มอบหมายให้เป็นความท้าทายที่ 008 มีต่อเธอ หากในที่สุดเธอสามารถก้าวสู่การเป็นเทพธิดาแห่งชาติได้ เธอก็เป็นผู้ชนะ!
แล้วจะมีหนทางของความพ่ายแพ้ไหม ไม่! ไม่มีคำๆ นี้ในพจนานุกรมของเธอ เธอจะต้องชนะเท่านั้น
เมื่อเฉียวเหลียงมาถึง ถังซีก็ยอมรับข้อเสนอของหนิงเหยี่ยนไปแล้ว หนิงเหยี่ยนบอกเธอว่าเขาจะแจ้งให้เธอทราบเมื่อบทพร้อม
เมื่อเห็นเช่นนี้เฉียวเหลียงก็ขมวดคิ้ว เดินเข้าไปหาคนทั้งสองด้วยสายตาดุดัน จ้องหน้าถังซีและกล่าวว่า “ผมคิดว่าคุณต้องอธิบายให้ผมฟัง ว่าเกิดนี่มันอะไรขึ้น”
ถังซีเม้มริมฝีปาก พลางคิดว่าเธอควรบอกความจริงกับเฉียวเหลียงดีไหม ในเมื่อเขายอมรับความจริงที่ว่าเธอกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่งได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา ที่จะยอมรับความจริงที่ว่าเธอมีระบบๆ หนึ่งเป็นของตัวเอง…
ไม่ดีกว่า เธอไม่บอกเขาเรื่อง 008 ดีกว่า แค่หาข้ออ้างอย่างอื่นแทนก็พอ
หนิงเหยี่ยนเลิกคิ้วมองเฉียวเหลียง ถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณถึงมองผมแบบนั้น ผมกำลังคุยกับแฟนคุณเรื่องการร่วมงานของเราในอนาคต อย่าเข้าใจผิดสิ!”
เฉียวเหลียงมองหน้าหนิงเหยี่ยนและกล่าวอย่างเย็นชา “ผมจะคิดบัญชีกับคุณทีหลัง” จากนั้นเขาก็หันไปมองถังซีแล้วกล่าวว่า “คุณมากับผม”
ถังซีพยักหน้า เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เฮ่อหว่านอีมองตามเฉียวเหลียงซึ่งดูเหมือนโกรธมาก เธอกลืนน้ำลายแล้วถามว่า “เขาจะไม่ทำร้ายเซียวโหรวใช่ไหม”
หนิงเหยี่ยนเหลือบตามองเฮ่อหว่านอีด้วยรอยยิ้ม แล้วมองตามหลังคนทั้งสอง กล่าวว่า “เขาไม่ทำหรอก ไม่ต้องห่วง”
“ใช่ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องกังวล” เฮ่อหวานโจวกล่าว
หนิงเหยี่ยนมองหน้าเฮ่อหว่านอีและกล่าวว่า “เธอไม่ควรคิดถึงเรื่องของน้องสาว ควรคิดถึงเรื่องพี่ชายจะดีกว่า ในเมื่อเธอรักเขา ทำไมถึงไม่สารภาพรักกับเขาล่ะ เหมือนอย่างที่คุณถังพูด อย่าปล่อยให้ชีวิตอยู่กับความเสียใจ”
เมื่อจบคำพูด เขาก็หันกลับไปสั่งให้คนของเขาเก็บข้าวของอุปการณ์ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ และบอกให้ทุกคนกลับบ้านได้…
…
เฉียวเหลียงจ้องหน้าถังซีที่ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาขมวดคิ้วกล่าวว่า “ผมอยากให้คุณอธิบายให้ผมฟัง ‘จะแจ้งให้ทราบเมื่อบทพร้อม’ คืออะไร คุณคิดจะเข้าวงการบันเทิงเหรอ”
ถังซีเม้มริมฝีปาก มองเฉียวเหลียงแล้วตอบว่า “ผู้กำกับหนิงบอกว่าฉันมีพรสวรรค์ในการแสดงมาก และคงน่าเสียดายถ้าฉันไม่ได้เล่นภาพยนตร์สักเรื่อง ฉันก็เลย… ยอมรับข้อเสนอของเขา…”
“ผมคิดว่านั่นเป็นจุดมุ่งหมายของคุณตั้งแต่เริ่มแรกแล้วใช่ไหม” เฉียวเหลียงมองถังซีด้วยสีหน้าบูดบึ้ง กล่าวอย่างเย็นชา “คุณดูแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมคุยกับเฮ่อหว่านโจวแล้ว คุณคือถังซีและคือเซียวโหรวด้วย บทนั้นเซียวโหรวเป็นคนเขียน แล้วทำไมถังซีถึงแสดงวิดีโอเปิดตัวนั้นไม่ได้”
เมื่อได้ยินคำถามอันเฉียบคมของเขาถังซีก็เม้มริมฝีปาก มองหน้าเฉียวเหลียงแล้วถามว่า “แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าจู่ๆ ฉันก็เป็นแบบนี้”
เฉียวเหลียงหรี่ตามองถังซีและถามว่า “เป็นเพราะ ‘สิ่งนั้น’ ที่คุณใช้ช่วยผมคราวก่อนใช่ไหม”
ถังซีชะงัก เธอไม่คาดคิดว่าเฉียวเหลียงจะฉลาดขนาดนี้… เธอพยักหน้า “ใช่ค่ะ ‘สิ่งนั้น’ นำพาให้ฉันกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง และมอบพลังบางอย่างที่คนอื่นไม่มีให้ฉัน แต่… ฉันต้องยอมทำอะไรหลายอย่างเพื่อแลกกับสิ่งที่ฉันได้รับ”