ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 429 โกรธแล้วนะ
ตรงนั้นมีพนักงานโรงแรมอีกคนหนึ่งซึ่งรีบยืดตัวขึ้น ทำท่าจะเดินจากไปเช่นกัน ถังซีรีบคว้าแขนเด็กสาวคนหนึ่งไว้ แล้วตวาดเสียงเข้ม “เธอยังไม่ได้บอกเลยว่า พวกเธอมาทำอะไรที่นี่!”
“นี่เธอจะทำอะไร!” เด็กสาวคนนั้นสะบัดแขนหลุดออก หันหลังจะรีบหนีไป ถังซีรีบพุ่งตัวเข้าไปคว้าทั้งสองคนไว้ แต่เธอสะดุดล้มข้อเท้าพลิกเสียก่อน เธอตะโกนว่า “หยุดนะ!”
“ยายบ้า!” เด็กสาวสองคนหันมามองถังซีด้วยสายตาเหยียดๆ แล้วรีบเดินหนีไป
“คุณมาทำอะไรตรงนี้” เสียงเยือกเย็นถามมาจากทางเบื้องหลังถังซี
เมื่อได้ยินเสียงเย็นเยียบนั้น ถังซีก็ต้องกลืนน้ำลายอย่างหวั่นใจ ให้ตายสิ อาเหลียงมาเห็นเธอหกล้มพอดี! แต่เธอไม่มีเวลาอธิบายให้เขาฟังตอนนี้ เธอรีบชี้ไปยังเด็กสาวสองคนนั้น แล้วร้องบอกเสียงดัง “อาเหลียง จับสองคนนั้นไว้ เร็วเข้า!”
เฉียวเหลียงหันไปมองหน้าอาหกซึ่งเดินตามหลังเขามา อาหกรีบวิ่งไปขวางหน้าผู้หญิงสองคน ในเวลาเดียวกันนั้นเอง อาห้าก็เดินเข้ามาพร้อมกับลากชายหนุ่มคนหนึ่งมาด้วย… ถังซีมองดูชายหนุ่มที่อาห้าจับตัวมา และจำได้ว่าคือพนักงานคนที่กำลังจะเปิดประตูห้องพักของหนิงเหยี่ยนเมื่อกี้นี้
ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เฉียวเหลียงประคองถังซีขึ้นจากพื้น และถามเธอเสียงเย็นเฉียบว่า “เกิดอะไรขึ้น”
ถังซียกมือขึ้นแตะสันจมูกตนเองอย่างอึกอัก ก่อนจะกล่าวว่า “มีใครบางคนต้องการจัดฉากใส่ร้ายผู้กำกับหนิง พวกเขาแอบถ่ายรูปเราตอนที่พี่หว่านอีกับฉันเข้าไปในห้องผู้กำกับหนิง แล้วเอารูปไปโพสต์ในไมโครบล็อก ฉันเห็นรูปแล้ว ก็เลยรีบออกมาดูลาดเลา และมาเจอว่าพวกเขากำลังพยายามจะลอบเข้าไปในห้องพักผู้กำกับหนิง”
เมื่อได้ยินเรื่องที่เธอเล่า สีหน้าเฉียวเหลียงยิ่งเครียดหนักขึ้น ถังซีแอบยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าเฉียวเหลียง แสดงว่าเขาต้องเป็นห่วงหนิงเหยี่ยนเพื่อนเขามากเหมือนกัน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่โกรธมากขนาดนี้ เมื่อได้ยินเรื่องที่เธอเล่า เธอเข้าใจความรู้สึกของเขาดี คนพวกนั้นช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน ถึงกับพยายามลักลอบเข้าไปในห้องพักผู้กำกับหนิง… นี่หากเธอไม่ได้หยุดพวกมันไว้ทัน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!
“นี่คุณหมายความว่า เมื่อเห็นพวกเขาพยายามจะเข้าไปในห้องหนิงเหยี่ยน คุณไม่โทรหาผม แต่เข้าไปห้ามพวกเขาด้วยตัวเองงั้นเหรอ” สีหน้าเฉียวเหลียงเคร่งเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ
“เอ้อ…” ถังซีมองหน้าเฉียวเหลียง แล้วในทันใดนั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เธอกะพริบตาปริบๆ หมายความว่าที่เขาโกรธมาก ไม่ใช่เพราะมีคนพยายามใส่ร้ายหนิงเหยี่ยน แต่เป็นเพราะเธอไม่ขอความช่วยเหลือจากเขา กลับพยายามจะเผชิญหน้ากับคนพวกนั้นด้วยตัวเธอเองอย่างนั้นหรือ
โอ เธอช่างเข้าใจเขาผิดไปมาก!
“ก็ไม่ทันได้โทร ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกมาด้วย…” เฉียวเหลียงยกมือข้างหนึ่งของถังซีขึ้น ซึ่งมีโทรศัพท์กำอยู่ในมือ ถังซีนิ่งอึ้งตัวแข็ง แต่ยังพยายามหาข้อแก้ตัว “ก็ฉันไม่มีเวลาโทรนี่ ถ้ามัวแต่โทรศัพท์ พวกนั้นก็คงเข้าไปในห้องผู้กำกับหนิงได้ก่อน แล้วถ้าพวกเขาเข้าไปได้ ผู้กำกับหนิงก็คงไม่มีโอกาสได้พิสูจน์ว่าเขาบริสุทธิ์”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของหนิงเหยี่ยน!” เฉียวเหลียงขึ้นเสียง ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้เป็นห่วงผู้ชายอื่น!
ถังซีเม้มฝีปาก กล่าวเสียงเบาว่า “ปัญหาก็คือ ฉันเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้… พวกเขาแอบถ่ายรูปพี่หว่านอีกับฉันตอนที่เราเข้าไปในห้องผู้กำกับหนิง! แล้วจะให้นั่งอยู่เฉยๆ คอยดูคนพวกนั้นลักลอบเข้าไปในห้องผู้กำกับหนิงได้ยังไงเล่า”
เฉียวเหลียงมองดูหญิงสาวตัวเล็กๆ ตรงหน้า ที่ยังคงพยายามปกป้องตัวเอง เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่พักใหญ่ กว่าจะเปล่งเสียงออกมาอย่างอดไม่ได้ “คุณนี่นะ…”
เฉียวเหลียงมองดูอาหกซึ่งจับแขนผู้หญิงสองคนลากให้ตามเขามา หญิงสาวทั้งสองกรีดร้องออกมาว่า “ช่วยด้วย! มีคนจะลวนลามฉัน!”
ถังซีอึ้ง “…” ร้องออกมาแบบนั้นได้ยังไง ความจริงแล้วพวกหล่อนต่างหากที่กำลังจะกระทำการคุกคามทางเพศต่อผู้กำกับหนิง!
เฉียวเหลียงขู่หญิงสาวทั้งสองด้วยสายตาเยียบเย็น “ถ้าอยากตาย ก็ส่งเสียงกันเข้าไป”
“พวกคุณกล้าฆ่าเราที่นี่เหรอ!” หญิงสาวหนึ่งในสองคนถามอย่างท้าทาย แล้วพวกหล่อนก็เริ่มดิ้นรนอย่างสุดกำลัง อาหกขมวดคิ้ว ขณะที่เฉียวเหลียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไปเอาคลิปจากวิดีโอกล้องวงจรปิดมา แล้วส่งตัวผู้หญิงสองคนนี้ไปสถานีตำรวจ ส่วนพนักงานโรงแรมคนนี้ เรียกผู้จัดการแผนกมา เล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วส่งตัวไปสถานีตำรวจพร้อมกับผู้หญิงพวกนี้ ให้หัวขโมยพวกนี้ได้รับโทษตามที่สมควรได้รับ!”
หญิงสาวทั้งสองรู้สึกขนลุกกับรังสีน่าเกรงขามของเฉียวเหลียงที่เปล่งออกมา พวกหล่อนไม่ต่อสู้ดิ้นรนอีกต่อไป เมื่อได้ยินว่าจะถูกส่งตัวให้ตำรวจก็รีบพูดว่า “มีคนจ้างให้พวกเราทำแบบนี้ เขาส่งข้อความมาทางอินเทอร์เน็ต ให้เราเข้าไปถ่ายรูปในห้องนี้ แล้วเอาไปโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต ถ้าทำสำเร็จ เขาจะจ่ายค่าจ้างให้ห้าแสนยูโร พวกเราคิดว่างานง่ายได้เงินเยอะ ก็เลยตกลง…”
ถังซีหรี่ตา “รู้ไหมว่าคนจ้างเป็นใคร”
หญิงสาวคนหนึ่งสั่นศีรษะ “ไม่รู้… เราเห็นแค่หน้าบัญชีโซเชียลมีเดียของเขา ไม่รู้ข้อมูลอย่างอื่นเกี่ยวกับเขาอีกเลย โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”
“ปล่อยพวกเธอไปงั้นเหรอ” ประตูห้องพักของหนิงเหยี่ยนเปิดออก หนิงเหยี่ยนซึ่งดูซูบโทรมมากยืนอยู่ตรงช่องประตู เขาจ้องมองหญิงสาวทั้งสองด้วยสายตาน่ากลัว ถามอย่างเย้ยหยันว่า “ถ้าพวกหล่อนเข้าไปในห้องฉันได้ จะยอมปล่อยฉันไปง่ายๆ หรือเปล่าล่ะ”
ถังซีพิจารณาดูหนิงเหยี่ยน เม้มริมฝีปากก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ผู้กำกับหนิง คุณเป็นยังไงบ้าง”
หนิงเหยี่ยนมองตอบถังซี แล้วยักไหล่ “ก็สบายดี ขอบคุณนะ โหรวโหรว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันคงไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ ซึ่งจะต้องส่งผลให้เกิดความเสียหายกับหนังของฉันแน่”
ถังซียักไหล่ตอบ เฉียวเหลียงส่งสายตาไปที่อาห้าและอาหก แล้วมองต่อไปที่หนิงเหยี่ยน “ผมจะปล่อยคนพวกนี้ให้คุณจัดการ แล้วแต่คุณว่าจะส่งพวกเขาไปให้ตำรวจ หรือจะพาตัวไปสอบสวนด้วยตัวเองที่ห้องสอบสวน”
“ห้องสอบสวนเหรอ” หนิงเหยี่ยนมองหน้าเฉียวเหลียง ซึ่งขยับยิ้มมุมปาก มองตอบหนิงเหยี่ยนด้วยสายตาเยือกเย็น “คุณไม่รู้ว่าผมคือใครงั้นเหรอ”
หนิงเหยี่ยนนิ่งอึ้ง พวกเขารู้กันดีว่าอีกโฉมหน้าหนึ่งของเฉียวเหลียงคือใคร เขาก็คือมิสเตอร์คิวผู้เลื่องลือ! แต่ในเมื่อเขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลนี้ด้วยตนเอง พวกเขาก็เลยแสร้งทำเป็นไม่รู้ แล้วความจริงก็ปรากฏออกมาว่า เฉียวเหลียงรู้อยู่ตลอดว่าพวกเขารู้ดีถึงสถานะที่แท้จริงของเขา เพียงแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้!
โอ เขาช่างร้ายกาจจริงๆ!
เฉียวเหลียงไม่ใส่ใจที่จะคุยกับหนิงเหยี่ยนต่อไป เขาอุ้มถังซีขึ้นแล้วหันหลังเดินไปทางห้องพักของเขา แต่ก็ยังหันกลับมาเตือนหนิงเหยี่ยนด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ผมให้เวลาคุณหนึ่งวัน ในการจัดการแก้ไขเรื่องนี้ คุณจะต้องเสียใจหากแก้ไขได้ไม่ทันเวลา และทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับเดอะควีน”
หนิงเหยี่ยนอยากจะด่ากลับ แต่เฉียวเหลียงเดินจากไปเสียก่อน หนิงเหยี่ยนจึงได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปทางอาห้าและอาหก กล่าวว่า “ไม่ต้องส่งพวกเขาไปสถานีตำรวจ ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของพวกนาย ดังนั้นฉันจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกนาย ทำให้พวกเขาสารภาพออกมาให้ได้ และจัดการแก้ไขเรื่องยุ่งยากนี้ ให้กับภรรยาในอนาคตของเจ้านายของพวกนายเสียให้เรียบร้อย ส่วนฉันมีเรื่องอื่นต้องไปทำ ขอบใจมาก”
อาห้ากับอาหกสบสายตากัน แล้วอาห้าก็มองหน้าหนิงเหยี่ยน ถามว่า “คุณหนิงครับ คุณจะไม่สอบสวนพวกเขาด้วยตัวเองหรือครับ”