ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 450 เพื่อนเก่า
เช้าวันรุ่งขึ้น ถังซีตื่นขึ้นด้วยเสียงนาฬิกาปลุกเวลาตีห้า แม้ว่าแฟชั่นโชว์ในวันนี้จะเริ่มเวลาหนึ่งทุ่มตรง แต่ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดเตรียม อย่างแรกสุด เธอต้องยืนยันจำนวนและรายชื่อแขกทั้งหมดที่จะมาในงาน และยังมีการจัดเตรียมสถานที่ แล้วยังนางแบบอีก
แม้ว่าทุกอย่างจะได้จัดเตรียมไว้เกือบพร้อมแล้ว ตั้งแต่ตอนซ้อมใหญ่เมื่อวาน แต่ถังซียังรู้สึกว่าเธอควรไปถึงสถานที่จัดงานให้เร็วหน่อย เพื่อตรวจสอบว่ายังมีอะไรที่หลุดรอดสายตาไปบ้างหรือไม่
ฉู่หลิงเองก็คิดเช่นเดียวกัน ช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขามีธุระยุ่งวุ่นวายมาก หรือจะให้ถูกต้องจริงๆ ก็คือเขามีธุระยุ่งมากยิ่งกว่าถังซีเสียอีก แต่เขาก็ยังคงเดินทางไปถึงสถานที่จัดงานตั้งแต่เช้าในวันนี้
เฉียวเหลียงวางแผนว่าจะออกไปพร้อมกับถังซี แต่จู่ๆ ก็เกิดมีบางอย่างให้เขาต้องไปจัดการ เขาจึงสั่งให้อาหกไปส่งถังซีก่อน ส่วนตัวเขาไปจัดการกับธุระของตน
ทีมงานจัดแผนผังสถานที่จัดโชว์เรียบร้อยตอนบ่ายสองโมง ถังซีเอนพิงกับต้นไม้ มองดูบริเวณหลังเวที และทางเดินรันเวย์ที่อยู่เหนือทะเลสาบ แล้วยิ้มน้อยๆ อย่างพึงพอใจ “ในที่สุด! นี่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันคงไม่สามารถทำงานได้เสร็จรวดเร็วอย่างนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเหนื่อยขนาดนี้”
แม้จะเพียงแค่ออกคำสั่งให้คนอื่นทำงานให้ ไม่ได้ลงมือทำด้วยตนเอง แต่เธอก็ยังรู้สึกหมดแรง…
ฉู่หลิงมองดูเธอแล้วยิ้มให้ “ไปพักเสียหน่อยเถอะ คุณยังต้องขึ้นเดินแบบในโชว์คืนนี้ ในฐานะไพ่ใบสำคัญของบริษัท คุณต้องรักษาพลังงานให้กระฉับกระเฉงเข้าไว้”
ถังซียิ้มให้ ตบไหล่เขาเบาๆ “คุณก็ควรพักบ้างเหมือนกัน หลายวันมานี้ คุณไม่ค่อยได้พักผ่อนเลยใช่ไหม”
แฟชั่นโชว์กำลังจะเริ่มในอีกไม่ช้า คืนนี้ถังซีต้องมาปรากฏตัวที่งานในฐานะเซียวโหรว เธอได้วางแผนไว้ว่าจะสร้างจุดขายให้แบรนด์โดยมาปรากฏตัวด้วยใบหน้าของถังซี แต่ตอนนี้ต้องล้มเลิกแผนนี้ไป เธอต้องโทรไปขอโทษลอว์เรนซ์และคาร์ล ที่ไม่สามารถมาร่วมงานแฟชั่นโชว์ในคืนนี้ได้
คาร์ลและลอว์เรนซ์เข้าใจดีว่าเธออารมณ์ไม่ดีเพราะการกระทำของฉินซินหยิ่ง พวกเขาจึงไม่ถือสาที่เธอไม่สามารถมาร่วมงานได้
เฉียวเหลียงมาถึงสถานที่จัดงานเวลาหกโมงเย็นพร้อมกับลู่หลีและเหวินนิ่ง เขาค่อนข้างแปลกใจที่ได้เห็นว่าเหวินนิ่งจัดการกับลู่หลีได้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว…
ถังซีกำลังยืนต้อนรับแขกอยู่ที่ประตูทางเข้า เมื่อเห็นทั้งสามคนเดินเข้ามา เธอรีบเดินตรงเข้าไปหาพร้อมด้วยรอยยิ้ม และกล่าวต้อนรับเหวินนิ่ง “พี่เหวินนิ่ง ยินดีต้อนรับค่ะ ถ้ามีเสื้อผ้าชุดไหนที่เห็นในคืนนี้ถูกใจพี่ บอกฉันได้เลยนะคะ ฉันจะให้คนนำไปส่งให้ค่ะ”
“ขอบคุณมาก! แต่พี่จะซื้อชุดที่พี่ชอบเองอย่างแน่นอน” เหวินนิ่งซึ่งควงแขนลู่หลีอยู่ตอบยิ้มๆ แล้วเธอก็ถามลู่หลีว่า “เข้าไปข้างในกันไหมคะ” ลู่หลีก้มศีรษะให้ถังซี แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในบริเวณจัดโชว์
ถังซีบอกให้ทีมงานพาทั้งสองไปยังที่นั่งที่จัดไว้ให้
อีกครู่หนึ่งต่อมาเฮ่อหว่านอีและคนอื่นๆ ก็เดินทางมาถึง เป็นเพราะเฮ่อหว่านอี จึงมีนักข่าวจากสื่อของจีนติดตามมาด้วย แม้จะไม่มีผู้สื่อข่าวต่างชาติอยู่ในงานจำนวนมากนักก็ตาม ซึ่งทำให้ถังซีรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เพราะเธอรู้ดีว่าแบรนด์ของเธอยังไม่เป็นที่รู้จักในประเทศจีน อย่าว่าแต่จะเป็นที่รู้จักในฝรั่งเศสเลย เธอทราบดีว่าคงไม่อาจโด่งดังทะลุฟ้าได้ในชั่วคืนเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งเศสซึ่งเป็นแหล่งรวมรสนิยมที่เป็นเลิศด้านแฟชั่น
“เชิญทางนี้ค่ะ ฉันจัดที่นั่งไว้ให้แล้ว”
หลังจากเดินเข้าไปข้างในแล้ว เฉียวเหลียงก็ถามถังซีว่า “เหนื่อยไหม”
ถังซีส่ายศีรษะ “ฉู่หลิงช่วยฉันได้เยอะเลยค่ะ ฉันไม่เป็นไร”
“คุณยังไม่เข้าไปข้างในเหรอ” เฉียวเหลียงถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ เขาไม่คิดจะบังคับให้เธอพัก เพราะรู้ดีว่าเธอจะไม่ยอมฟัง เธอเป็นเด็กหัวดื้อเสมอมา
ถังซีส่ายศีรษะอีก “ฉันจะรอลอว์เรนซ์กับคาร์ลก่อนค่ะ ถ้าพวกเขามา คนอื่นๆ ก็จะให้ความสำคัญกับโชว์นี้”
เฉียวเหลียงพยักหน้า เขาตบไหล่เธอเบาๆ เธอยิ้มให้เฉียวเหลียง “คุณเข้าไปก่อนเถอะค่ะ อีกเดี๋ยวฉู่หลิงก็คงออกมา เมื่อมีเขาอยู่ที่นี่ ลอว์เรนซ์และคาร์ลจะไม่มีทางผิดหวัง”
เฉียวเหลียงพยักหน้า แล้วมองเธอด้วยสายตาเปี่ยมความรัก “อย่าทำงานหนักจนเกินไปนะ” แล้วเขาก็เดินเข้าไปในบริเวณจัดโชว์
อีกเพียงครู่เดียวฉู่หลิงก็เดินออกมา เขามองถังซีแล้วถามว่า “ลอว์เรนซ์กับคาร์ลยังไม่มาอีกเหรอ”
ถังซีพยักหน้า ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ โชว์จะเริ่มภายในอีกครึ่งชั่วโมง แต่พวกเขายังมาไม่ถึง ถ้าหากพวกเขาไม่มา…
ณ ขณะนั้นเองฝูงชนก็ส่งเสียงฮือฮากันขึ้น ถังซีเงยหน้าขึ้นมอง แล้วจึงเห็นร่างคุ้นตาสองร่างก้าวลงจากรถ ถังซียิ้มกว้าง ก้าวเข้าไปต้อนรับพวกเขา “คุณลอว์เรนซ์ คุณคาร์ล ยินดีที่ได้พบค่ะ ฉันชื่อเซียวโหรว คุณถังซีบอกฉันไว้ว่าพวกคุณจะมาในคืนนี้”
ลอว์เรนซ์ไม่ค่อยยินดีที่จะรู้จักกับคนแปลกหน้าสักเท่าไร เช่นเดียวกันกับคาร์ล ทั้งสองคนเพียงแค่ก้มศีรษะให้ถังซีอย่างไม่ใส่ใจนัก “สวัสดี คุณเซียว”
เวลานั้นเองฉู่หลิงก็เดินเข้ามาสมทบ เขามองดูคนทั้งสองด้วยสายตาเย็นชายิ่งกว่า ถังซีอดสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่ได้ เธอรู้ดีว่าฉู่หลิงเจ้าอารมณ์เพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเคยช่วยชีวิตเขาไว้ เธอก็คงได้เป็นเหยื่อโทสะของเขาไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเหมือนกัน!
เมื่อคิดได้ดังนี้ถังซีจึงรีบจับแขนฉู่หลิงไว้แน่น ขณะแนะนำเขาให้ทั้งสองคนรู้จัก “นี่คือท่านประธานบริษัทของเราค่ะ คุณฉู่หลิง และพวกเขาคือ…”
คาร์ลและลอว์เรนซ์มองดูฉู่หลิงอย่างประหลาดใจ คาร์ลถามฉู่หลิงอย่างไม่อยากเชื่อว่า “อัลวิน ทำไมคุณถึงมาเป็นประธานบริษัทนี้ได้ ผมจำได้ว่าคุณเคยพูดว่าไม่ต้องการทำงานให้ใคร ที่เห็นอยู่นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ”
ลอว์เรนซ์ก็ดูจะประหลาดใจมากเหมือนกัน เขาเหลือบตามองฉู่หลิง แล้วส่ายศีรษะ “อัลวิน อย่าบอกนะว่าเราจะได้เห็นงานออกแบบของคุณในโชว์นี้ด้วย!”
“อัลวินงั้นเหรอ” เซียวโหรวมองฉู่หลิงด้วยสายตาพิศวง เขาคืออัลวินอย่างนั้นหรือ เธอรู้ดีว่าอัลวินคือใคร เขาคือม้ามืดของวงการแฟชั่น หรือจะพูดให้ถูกต้อง เขาคือราชาแห่งโลกแฟชั่น เขาอยู่ ณ จุดสูงสุดของวงการแฟชั่นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แต่ไม่เคยปรากฎตัวให้เห็นในสื่อใดๆ นอกจากเพื่อนสนิทแล้ว ไม่มีใครเคยเห็นว่าเขามีหน้าตาเป็นอย่างไร
แต่ว่า… ถังซีรู้สึกสับสน เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เขาน่าจะยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลยนี่ เขากลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อยอย่างนั้นหรือ!
ลอว์เรนซ์และคาร์ลจำฉู่หลิงผิด คิดว่าเป็นคนอื่นหรือเปล่า!
ฉู่หลิงยักไหล่ “ผมบอกได้แค่ว่าสิ่งที่คุณเห็นเป็นความจริง”
เขาไม่ได้อธิบายต่อว่าทำไมเขาจึงมาอยู่ที่นี่
คาร์ลส่ายศีรษะไปมา ส่วนลอว์เรนซ์พูดยิ้มๆ ขึ้นว่า “จบโชว์แล้วเราไปดื่มกันดีไหม”
“ได้เลย” ฉู่หลิงจ้องหน้าคนทั้งสอง “แต่บทความสำหรับแฟชั่นโชว์ของเดอะควีน…”
ลอว์เรนซ์ส่ายศีรษะพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ผมจะเขียนเกี่ยวกับโชว์นี้ด้วยตัวเอง ตราบใดที่เสื้อผ้าในโชว์นี้ถูกรสนิยมผม ตกลงไหม”
นัยน์ตาถังซีเป็นประกายขึ้นทันที แม้แต่ถังซีเอง ก็ยังไม่สามารถทำให้ลอว์เรนซ์ยอมเขียนบทความถึงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ด้วยตัวของเขาเองได้…