ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา - บทที่ 1836 เจ้าตัวแสบที่แย่งความรักกัน
เหมาเหล่ยหลงพยักหน้าให้หู่จือกับเป้าจือ นี่เป็นท่าทางที่เขามักจะทำประจำ เป็นการบอกให้จงต้าจวิ้นรู้ถึงคนที่เขากำลังพูดถึงนั่นเอง
พอหู่จือกับเป้าจือได้ยินเสียงที่มุ่งมาทางพวกมันแล้ว ก็แหงนหน้ามองเหมาเหว่ยหลงอย่างระมัดระวัง หลังจากเห็นหน้าเขาชัดแล้ว ก็เบะปากออก เปลี่ยนจากการมองตรงๆ เป็นมองด้วยหางตาทันที
จงต้าจวิ้นดื่มกาแฟไปคำหนึ่ง แล้วพูดอย่างสงสัยว่า “โคโกโร่ นี่ไม่ค่อยปกตินะ ทำไมฉันรู้สึกว่าเจ้าสุนัขสองตัวนี้กำลังมองต่ำกับนายล่ะ?”
ตอนนี้ฉินสือโอวได้หยิบเอาเหล้ารัมออกมาขวดหนึ่ง เขาชิมไปคำหนึ่งรู้สึกว่ารสชาติไม่เลว จึงถามจงต้าจวิ้นกับเหมาเหว่ยหลงว่าจะลอมชิมดูหรือเปล่า
เหมาเหว่ยหลงพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “เชอะไอ้เจ้านี่แกน่ะเอาจ่อปากดื่มนะ พอดื่มเสร็จค่อยเอามาให้ฉันสองคน แต่ว่าฉันก็ยินดีจะที่ดื่มนะ ใครใช้ให้ฉันเป็นพี่น้องกับแกล่ะ”
เขารู้จักฉินสือโอวดี ถ้าไม่ใช่เหล้าดีล่ะก็ไม่มีทางแนะนำให้พวกเขาแน่
สุดท้ายคือพวกมันไม่รอให้เขาเข้าใกล้ พอหู่จือกับเป้าจือเห็นฉินสือโอวออกมาแล้วก็หยุดเล่น รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วเกาะบนตัวเขาและยืนขึ้นมา แล้วก็แหงนหน้ามองเหมาเหว่ยหลงที่เข้ามาใกล้พร้อมกับเห่าโฮ่งๆ ออกไป เพื่อเบ่งอำนาจใส่เขา
เหมาเหว่ยหลงด่าว่า ‘ไอ้สองตัวนี้’ ไปหลายที หู่จือกับเป้าจือวิเคราะห์จากท่าทีและน้ำเสียงของเขาแล้วก็รู้ว่าเขาไม่ได้พูดดี จึงเห่าใส่เขาหนักขึ้นกว่าเดิม
ท่านชายฉินหัวเราะเหอๆ ไปที แล้วก็เอียงขวดเทเหล้าออกมาไม่กี่หยด หู่จือกับเป้าจืออ้าปากดื่มเข้าไป แลบลิ้นใหญ่ๆออกมาเลียไปมาบนริมฝีปาก ราวกับกำลังรำลึกถึงรสชาติที่ดีงามของเหล้าอย่างไรอย่างนั้น
ฉงต้าเป็นพวกเห็นคนอื่นกินดื่มอะไรไม่ได้ มันเห็นหู่จือกับเป้าจือเม้มปากอยู่ ก็รีบวิ่งเข้าไปอ้าปากด้วย
ฉินสือโอวให้มันดูขวดแล้วพูดว่า “นี่เป็นเหล้า ไม่อร่อย”
ฉงต้ายื่นอุ้งเท้าอ้วนๆ ออกไปปัดมือของเขา ปากก็ส่งเสียงร้องอาวๆ อย่างไม่พอใจออกมา มันอ้าปากแลบลิ้นออกมาไม่หยุดเพื่ออยากจะให้เขาเทเหล้าให้มันดื่ม
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะแล้วพูดว่า “เจ้าหมอนี่คงนึกว่าเหล้าเป็นน้ำเชื่อมเมเปิลแล้วมั้งเนี่ย?”
ฉินสือโอวบอกว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร การรับกลิ่นของหมีสีน้ำตาลนั้นดีกว่าสุนัขตั้งหลายเท่า ระยะใกล้ขนาดนี้ ในขวดมีอะไรอยู่จะปิดมันได้เหรอ? ถ้าเป็นน้ำเชื่อมเมเปิลมันคงผลักฉันแล้วแย่งไปนานแล้ว เจ้าหมอนี่น่ะมันขี้อิจฉา เวลาคนอื่นกินของไม่ว่าจะกินอะไรมันก็อยากจะชิมทั้งนั้น ถ้าหากมากิน***ต่อหน้ามันนะ ฉันกล้าพนันเลย เจ้าหมอนี่ก็ต้องมากินด้วยสักคำแน่นอน”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะแล้วก็ผลักเขาไปที ด่าว่า “แกสิกิน***แกสาธิตให้ฉันดูหน่อยสิ?”
ฉินสือโอวเทเหล้าลงบนฝ่ามือนิดหน่อยให้ฉงต้าดม เป็นไปตามคาด ฉงต้ารู้ว่านี่ไม่ใช่น้ำเชื่อมเมเปิล แต่ก็ยังดึงดันอ้าปากเพื่อจะดื่มอยู่
ภายใต้สถานการณ์ที่หมดคำจะบรรยายนี้ ท่านชายฉินก็คิดแผนการร้ายขึ้นมา เลยเอาเหล้ารัมที่มีอยู่ครึ่งขวดเล็กๆ นี้เทเข้าไปในปากของฉงต้า ฉงต้าเอาลิ้นที่ใหญ่โตเลียไปรอบข้างในขวดทีหนึ่งแล้วก็ทำการกลืนเหล้าทั้งหมดลงไปเลย สุดท้ายเหมือนจะรู้สึกว่ารสชาติไม่เลว เลยยังมาเลียเบาๆ ที่มือของฉินสือโอวด้วย ทำเอาฝ่ามือของเขาไม่มีน้ำเหล้าเหลืออยู่เลยแม้แต่หยดเดียว
ดื่มเหล้าพวกนี้หมด ฉงต้าก็นั่งตุ้บลงไป มันแหงนหน้ามองฉินสือโอว ปากยังคงร้องอู้อี้อู้อี้อยู่ ฉินสือโอวลูบหัวที่ฟูฟ่องของมัน พูดว่า “ไม่ดื่มแล้ว ดื่มอีกจะเมาได้นะ!”
ฉงต้าไม่ยอม ตาเล็กๆ สีดำได้ส่องประกายแล้วจ้องมองไปยังขวดเหล้าในมือของเขาอย่างไม่ละสายตา ลิ้นใหญ่ได้เลียไปมาบนริมฝีปากไม่หยุด ราวกับสุนัขที่เห็นกระดูกอย่างไรอย่างนั้น
ที่นี่ไม่มีกระดูก แต่ว่ามีสุนัข หู่จือกับเป้าจือไม่พอใจมากเรื่องที่ฉงต้ามาครอบครองเหล้ารัมอยู่คนเดียว จึงวิ่งเข้ามากระโดดเข้าใส่ร่างกายที่ใหญ่ยักษ์ของมัน ใช้หัวและอุ้งเท้าผลักมันให้มันไปอยู่ที่กราบเรือแทน
ความจริงแล้วหู่จือกับเป้าจือไม่ชอบดื่มเหล้า ก่อนหน้านี้ตอนกินบาบีคิวกันทิญาได้ป้อนเบียร์ให้พวกมันนิดหน่อย ตั้งแต่นั้นมาถ้าไม่มีคนจงใจแกล้งแล้วล่ะก็ พวกมันก็จะไม่ไปหาดื่มเหล้าเองเลย ตอนนี้ที่มาแย่งเหล้ากับฉงต้า ความจริงแล้วเป็นการแย่งความรักของฉินสือโอวมากกว่า
ราชาซิมบ้า หลัวปอกับพี่น้องเฟอเรทสังเกตเห็นว่าพวกเขากำลังแย่งของกันอยู่ เจ้าตัวเล็กทั้งสี่ที่กลัวทะเลอย่างกับอะไรดี แต่เพราะหม่าม๊าวินนี่ไม่อยู่บ้าน ในบ้านไม่มีคน จึงจำเป็นต้องออกทะเลกับฉินสือโอวด้วย
แต่ว่าพอดูจากตอนนี้แล้ว ที่พวกมันตามออกมาด้วยเป็นเรื่องที่ถูกแล้ว ในสายตาพวกมัน เจ้าพวกตัวแสบอย่างหู่จือเป้าจือฉงต้ากับปอหลัวที่ถือว่าตัวเองไม่กลัวน้ำจึงไม่มีความเกรงกลัวต่อทะเล ถึงขั้นมาแย่งความรักกับพวกมันบนเรือแล้ว!
พวกเจ้าตัวเล็กทั้งหลายล้วนเป็นพวกขี้ใจน้อยกัน ราชาซิมบ้าจึงเอาชนะความกลัวทะเลโดยการยืนขึ้นมาบนกราบเรือ แต่ว่าเรือหาปลาส่ายตัวอย่างรุนแรง ลมทะเลของฤดูใบไม้ผลิก็ค่อนข้างแรง ตอนที่มันเพิ่งยืนขึ้นมาก็พอดีกับที่เรือปลาปลาส่ายไปทีหนึ่ง เพราะมีคลื่นใหญ่ซัดเข้ามา น้ำทะเลที่ใสสะอาดภายใต้แสงอาทิตย์จึงซัดไปมาตามแรงลม
ขนยาวๆ บนตัวของราชาซิมบ้าลุกซู่ขึ้นมาในทันที กล้ามเนื้อบนตัวยิ่งแล้วใหญ่ที่ได้แข็งทื่อไปทั้งตัวแล้ว ตาสองข้างของมันเบิกกว้างเสียจนเริ่มสั่นไหว ขาทั้งสี่ที่แข็งทื่อของมันได้ฉีกออกแล้วล้มไปกองบนดาดฟ้าเรือทันที
มองดูภาพนี้แล้ว จงต้าจวิ้นก็ตกใจ พูดว่า “เฮ้ย เจ้า***เคยฝึกวิชาการต่อสู้มาก่อนหรืออย่างไรเนี่ย? ความอ่อนของตัวไม่เลวเลยนี่นา สามารถฉีกขาทั้งสี่ได้แบบนี้เลยเหรอ? ใช่แล้ว นี่เป็นเสือดาวหรือเปล่า?”
“นี่คือแมวป่า มีเสือดาวที่ตัวเล็กขนาดนี้ที่ไหนกัน?” เหมาเหว่ยหลงพูดพร้อมหัวเราะ
อย่างไรเสียราชาซิมบ้าก็ยังถือว่าพอมีความกล้าอยู่บ้าง หลังจากมันกลัวจนทรุดลงไปแล้วก็ยกตัวขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ทำท่าทหารคลาน โดยพับสองเท้าหน้าไว้ด้วยกัน แนบกระดูกเรเดียสไว้กับกราบเรือ ใช้กระดูกต้นแขนพยุงร่างกายไว้ แล้วก็ใช้ขาหลังส่งแรงในการคลานไปข้างหน้า
ตอนนี้แม้แต่เหมาเหว่ยหลงก็ตกใจขึ้นมา พร้อมพูดเปรยออกมาว่า “โอ้โห เจ้าตัวเล็กนี่เป็นพวกขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ด้านหลังด้วยเหรอนี่ ความเร็วของหางที่ส่ายไปมานี้ ***คงไม่ใช่ใช้น้ำมันเทอร์โบหรอกใช่ไหม?”
เห็นอะไรก็เลียนแบบตามนั้น หลัวปอก็คลานแบบนี้เหมือนกัน แต่ว่ามันไม่สามารถขยับหางได้ เพราะหางของหมาป่าไม่ได้เคลื่อนไหวได้ตามใจชอบได้ขนาดนั้น แถมเฟอเรทพี่ชายยังกัดหางมันไว้ และด้านหลังก็ยังลากเฟอเรทน้องสาวไว้อีก
ฉินสือโอวหัวเราะแล้วก็ทำการหวีขนให้เจ้าพวกนี้ทีละตัว ดูท่าว่าฉงต้าจะอยากได้เหล้าจริงๆ มันใช้อุ้งมือดึงทึ้งแขนของฉินสือโอวไม่หยุด ตาก็จับจ้องไปที่เหล้าในมือเขาไม่ละสายตา
เหล้ารัมขวดนี้เหลืออยู่ไม่มาก ก่อนหน้านี้เขาได้ดื่มไปบ้าง แถมยังเอาให้ฉงต้าดื่มไปอีกสองอึกใหญ่ ทำให้เหล้าในขวดเหลือไม่มาก ที่เหลืออยู่นิดหน่อยนี้ไม่สามารถให้ฉงต้าดื่ม ต้องเก็บไว้ให้พวกหลัวปอ เพราะเจ้าพวกนี้ได้มาถึงกันแล้ว
ไม่กลัวความจนแต่กลัวความไม่เท่าเทียม จิดใจราวกระจกของเจ้าพวกนี้น่ะบอกบางเป็นที่สุด
ฉินสือโอวเทเหล้าลงบนมือ แล้วป้อนให้พวกมันทีละตัว เฟอเรทแบลคฟุตที่เป็นพวกที่ไม่ชอบกลิ่นที่รุนแรงของแอลกอฮอล์แท้ๆ แต่พี่น้องเฟอเรทก็ยังทนไว้แล้วมาเลียไปสองที หนวดบนหน้ากลมๆนั้ นกระตุกไม่หยุด มองดูราวกับว่าได้ใจสุดๆ
ไม่มีเหล้ารัมแล้ว แต่ฉงต้าก็ยังยื่นมือแล้วร้องอาวๆ ไม่หยุด ฉินสือโอวเอาให้มันดู แล้วพูดอย่างหมดทางเลือกว่า “ไม่มีแล้ว สุดที่รัก ในนี้ได้ว่างเปล่าไปแล้ว”
ฉงต้ากระพริบตาน้อยปริบๆ ยืดคอออกร้องอาวๆ ต่อไป
ชาร์คที่อยู่ในห้องบังคับการเรือเห็นฉากนี้แล้วก็หัวเราะขึ้นมา เขามักจะพกขวดเหล็กใส่เหล้าทรงแบนติดตัวอยู่แล้ว ในนี้มีเหล้าอยู่ไม่น้อยเลย จึงกวักมือเพราะอยากเรียกให้ฉงต้าไปหา
แต่ว่าฉงต้าไม่เล่นด้วย มันหันหัวไปมองชาร์ค จากนั้นก็หันกลับมาใช้มืออุ้มขาของฉินสือโอวแล้วส่ายไปมา ทำเอาท่านชายฉินตัวส่ายเหมือนกับกำลังชักอยู่เลย
เท่านี้ฉินสือโอวก็เข้าใจแล้ว ฉงต้าก็ไม่ได้อยากดื่มเหล้า นี่น่ะมาเพราะอยากอ้อนเขาต่างหากล่ะ
………………………