ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 171 กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม
ตอนที่ 171 กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม
ศักยภาพของสะพานสวรรค์น้อยย่อมห่างไกลกับเยี่ยเว่ยหมิงมาก หลักการเดียวกัน นางยิ่งไม่อาจเทียบกับหวันเหยียนคังผู้ที่บดขยี้เยี่ยเว่ยหมิงได้ หากเทียบศักยภาพกันอย่างเดียว หวันเหยียนคังก็โจมตีสะพานสวรรค์น้อยได้ตามอำเภอใจโดยนางไร้หนทางโต้ตอบแน่นอน
แต่โปรดอย่าลืม
เจ้าตัวฝึก ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยก’ ของสำนักสุสานโบราณ ซึ่งเป็นวิชาที่เกิดมาเพื่อสยบ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’!
เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมโดยสมบูรณ์เช่นนี้ นอกเสียจากจะฝึก ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ จนถึงระดับเปลี่ยนขยะผุพังให้กลายเป็นเทพอย่างหวังฉงหยาง[1] หรือไม่ทั้งสองก็มีศักยภาพแตกต่างกันมากเกินไปจริงๆ
ไม่อย่างนั้นแล้ว เมื่อ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ มาอยู่ต่อหน้า ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยก’ ก็เป็นได้เพียงน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น
ทว่า ระดับของหวันเหยียนคังนั้นเทียบกับหวังฉงหยางได้หรือ
แน่นอนว่าไม่ได้!
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเป้าหมายของหยางคัง[2]ย้ายกลับมาบนตัวสะพานสวรรค์น้อย สถานะต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงก็เปลี่ยนจาก ‘มังกร่อนล่อหงส์’ กลับมาเป็น ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ แล้วเช่นกัน ทำให้หวันเหยียนคังจำเป็นต้องแบ่งสมาธิส่วนใหญ่มารับมือ ทำให้เขายิ่งไม่มีทางรวบรวมสมาธิมารับมือกับการโจมตีอันดุดันของสะพานสวรรค์น้อยที่พุ่งเป้ามาที่เขาคนเดียวได้เลย
ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนจากน้องชายกลายเป็นน้องชายของน้องชายแล้ว
ผ่านไปสามกระบวนท่าเท่านั้น หวันเหยียนคังก็ถูกกดดันจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว หลังจากผ่านไปห้ากระบวนท่า เขาก็ยิ่งถูกฝ่ายตรงข้ามมองเห็นช่องโหว่ ถูกกระบี่ปาดใต้ชายโครงซ้ายจนเสียค่าพลังชีวิตไป 763 แต้ม
“ดีมาก โจมตีอย่างนี้แหละ!” เยี่ยเว่ยหมิงเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน ตัวเขากับสะพานสวรรค์น้อยร่วมต่อสู้เคียงข้างกันมา ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวันนี้ วันที่เมื่อต่างคนต่างสู้แล้วประสิทธิภาพจะดีกว่าตอนใช้กระบี่คู่ผนึกรวม แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อเขาในการเลือกวิธีที่ดีที่สุดยามสู้กับ BOSS
เยี่ยเว่ยหมิงกำลังใช้ท่าไม้ตายต่างๆ ของ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ทำลายสมาธิของหวันเหยียนคังให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นก็ให้สะพานสวรรค์น้อยที่สยบเขาโดยธรรมชาติค่อยๆ พรากพลังชีวิตของ BOSS คนนี้
ผ่านไปอย่างนี้ประมาณสิบกระบวนท่า ภายใต้การโจมตีอย่างต่อเนื่องของสะพานสวรรค์น้อย สุดท้ายพลังชีวิตของหวันเหยียนคังก็หายไปแล้วหนึ่งในสิบส่วน
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ภาพรวมถูกกำหนดแล้ว หวันเหยียนคังกลับคำรามขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็โยนกระบี่วิเศษไปบนกำพงราวกับทิ้งขยะ ทำให้กระบี่หักจมหายไปในกำแพงทันที
ส่วนตัวหวันเหยียนคัง สองมือเขากลายเป็นกรงเล็บแล้ว ชั่วพริบตาเดียวก็โบกเงากรงเล็บออกมาสิบกว่าเงา ขณะที่กดดันเยี่ยเว่ยหมิง ก็ฉีกกระบวนท่ากระบี่ของสะพานสวรรค์น้อยจนเกิดช่องโหว่ จากนั้นกรงเล็บก็ขยุ้มคอหอยของสะพานสวรรค์น้อย!
เป็นอาวุธที่ดี!
หลังจากโยนกระบี่ทิ้งแล้ว ที่แท้นี่ต่างหากคือสภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของหวันเหยียนคัง!
ดูจากประสิทธิภาพวิชากรงเล็บของเขา เมื่อเทียบกับ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ของเขาแล้วก็มีแต่จะแข็งแกร่งกว่า ไม่ด้อยกว่าแน่นอน
ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงยังสงสัย ศักยภาพที่หวันเหยียนคังคนนี้แสดงออกมาไม่สอดคล้องกับเลเวลของเขาเลย เหมือนเป็น BOSS ปลอมคนหนึ่ง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะเก่งกว่านี้เมื่ออยู่ในโหมดปกติ ถึงขนาดว่าแม้แต่เทียบกับ BOSS เลเวลเดียวกันในโหมดภารกิจที่ถูกตอนอวัยวะเพศแล้ว ก็ยังห่างชั้นกันไกลมาก
สถานการณ์แบบนี้ค่อนข้างไม่สมเหตุสมผล
เมื่อรู้ว่าเจ้าหมอนี่ทิ้งกระบี่แล้วใช้กรงเล็บ เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้เข้าใจกระจ่างโดยพลัน ที่แท้สาเหตุที่เจ้าหมอนี่แสดงความสามารถได้ไม่ดี ก็ไม่ใช่เพราะมีศักยภาพไม่พอ แต่เป็นเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริงมาสู้กับพวกเขาต่างหาก!
วิชากรงเล็บของหวันเหยียนคัง เมื่อเทียบกับเคล็ดกระบี่แล้วไม่ได้แข็งแกร่งกว่าแค่หนึ่งเท่าแน่นอน
เมื่อเห็นกรงเล็บอันดุดันของหวันเหยียนคังเข้ามาใกล้ตรงหน้า ด้วยความสามารถของสะพานสวรรค์น้อยนั้นไม่มีทางหลบหลีกได้เลย กอปรกับวิชากรงเล็บก็เป็นทักษะประเภทคว้าจับโดยตัวมันเองอยู่แล้ว หากถูกคว้าจับได้ก็เท่ากับถูกควบคุม จากนั้นก็จะถูกอีกฝ่ายก็จะโจมตีต่อเนื่องอย่างงดงาม
ด้วยค่าพลังชีวิตของสะพานสวรรค์น้อย เกรงว่าจะทนคริติคอลดาเมจจากกรงเล็บนี้ของเขาไม่ไหวด้วยซ้ำ อาจจะถูกปลิดชีพในชั่วพริบตาก็ได้
กระบวนท่ากระบี่ของสะพานสวรรค์น้อยถูกโจมตีพัง นางอยู่ในช่วงไร้ความสามารถปกป้องตัวเอง กำลังจะกลายเป็นเครื่องสังเวยให้กรงเล็บ BOSS คนนี้แล้ว กลิ่นหอมจางหาย หยกพลันสลาย[3]
ขณะกำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ในที่สุดความช่วยเหลือของเยี่ยเว่ยหมิงก็มาถึงแล้ว!
ที่จริงเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่งจะถูกวิชากรงเล็บของหวันเหยียนคังบีบให้ถอยไปสามก้าว หากคิดจะเลี้ยวกลับมาช่วย ก็เห็นได้ชัดว่าสายไปแล้ว ทว่าเมื่อเห็นฉากที่หวันเหยียนคังกำลังจะปลิดชีพสะพานสวรรค์น้อย สีหน้าของเขากลับราบเรียบ
เขาพลันยื่นมือซ้ายไปข้างหน้า นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางกักลูกดีดเหล็กขนาดเท่าเล็บมือถูกหนึ่งไว้ จากนั้นก็ดีดออกไป
ฟิ้ว! ลูกเหล็กวาดผ่านอากาศ ส่งเสียงแหลมเล็กแสบแก้วหู มันเคลื่อนตัวทีหลังแต่ไปถึงก่อนที่สะพานสวรรค์น้อยจะถูกปลิดชีพ ทะลุฝ่ามือของหยางคังทันที จากนั้นก็กระดอนโจมตีอย่างแรงบนบ่าเขาอีกครั้ง ก่อนจะจมหายเข้าไปในกล้ามเนื้อ!
-2560!
-2685!
วิชาพังทลาย!
กระดูกแตก!
โจมตีครั้งเดียว แต่กลับสร้างดาเมจสูงมาก ทั้งยังติดสถานะด้านลบที่ร้ายแรงถึงชีวิตสองครั้งอีก
นี่ก็คือ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’!
แม้จะเป็นวิทยายุทธ์ขั้นสูง แต่กลับมีกระบวนท่าเดียว แต่กระบวนท่านี้ขอเพียงใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่พลิกสถานการณ์ได้แน่นอน!
ขณะที่หวันเหยียนคังได้รับบาดเจ็บ เสียงแจ้งเตือนอันไพเราะของระบบก็ดังขึ้นข้างหูเยี่ยเว่ยหมิง
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณเอาชนะหวันเหยียนคัง อ๋องน้อยแคว้นจินได้สำเร็จ ได้รับไอเทมภารกิจ: รองเท้าปักลาย×1]
เยี่ยเว่ยหมิง “?”
หมายความว่ายังไง?!
เมื่อเห็นว่าจู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็แสดงสุดยอดทักษะนี้ออกมา กลุ่มมนุษย์ขี้เผือกรอบข้างก็ส่งเสียงเกรียวกราวสนั่นหู
“ดี!”
“เจ๋งสุดๆ!”
“ข้าต้องการความรู้สึกเช่นนี้แหละ!”
แน่นอน เสียงให้กำลังใจที่ดังเกรียวกราวนี้ นอกจากเป็นเพราะทึ่งในสุดยอดทักษะของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว ที่มากนั้นคือความสะใจที่มาจากส่วนลึกในหัวใจ
เจ้าทึ่มเอ๊ย!
ผู้เล่นอย่างพวกเราลำบากลำบน อยู่ในเกมนี้ทำไม่ได้แม้กระทั่งถอดกางเกง แต่ดูเจ้าทำสิ นอกจากได้อยู่ดีกินดีทั้งวัน ยังได้ทำเรื่องอย่างว่าอีก
ที่น่าโมโหกว่านั้นก็คือ ตอนที่เจ้าแสดงความรักตั้งนานสองนานอยู่ต่อหน้าพวกเรา เจ้ากลับบอกว่าเจ้าแค่มาดูการประลองยุทธ์เลือกคู่เท่านั้น แค่จะขึ้นไปเล่นบนสังเวียนสนุกๆ นอกจากจะทิ้งสาวงามอย่างนั้นไปแล้ว ยังจะทำตัวเป็นชายเสเพล กลับบ้านไปรับช่วงต่อกิจการร่ำรวยอีกหรือ
คนเช่นนี้ สมน้ำหน้าแล้วที่ถูกฆ่าตาย!
ดังนั้น การโจมตีจาก ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ครั้งนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง ก็เท่ากับช่วยพวกเขาระบายความโกรธได้อีกแบบหนึ่ง ทำให้พวกผู้เล่นที่อิจฉาริษยาเคียดแค้นหยางคังรู้สึกสบายใจขึ้นมาสุดๆ
เยี่ยเว่ยหมิงกลายเป็นวีรบุรุษอีกหนึ่งคนในใจผู้เล่นทุกคนที่อยู่ตรงนี้แล้ว
ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นใคร
ยังต้องถามอีกหรือ
แน่นอนว่าเป็นอันดับสองของการประลองยุทธ์ครั้งนี้ หญิงงามที่เคลื่อนไหวได้ดุดันเยี่ยงเสือ หนึ่งดาบสามเฉือน
เมื่อเห็น ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของเยี่ยเว่ยหมิง ในที่สุดน้องสาวคนนี้ก็รู้แล้วว่าก่อนหน้านี้ตัวเองตายได้อย่างไร!
โง่เง่านัก!
ก่อนหน้านี้ท่าทางของข้าออกจะบ้องแบ๊วน่ารัก แต่ชายชาตรีอย่างเจ้ายังใช้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ดีดหน้าผากข้าอีกหรือ
ทั้งยังดีดตรงหว่างคิ้วที่เป็นจุดสำคัญของข้าอีก!
กะดีดให้ถึงตาย!
เยี่ยเว่ยหมิง เจ้าทำอย่างนี้ มโนธรรมของเจ้าคงเจ็บปวดแย่แล้ว
พึ่บพั่บ พึ่บพั่บ
ตอนที่หนึ่งดาบสามเฉือนกำลังเคียดแค้นกับท่าทางลำพองใจของเยี่ยเว่ยหมิง กลับมีพิราบขาวตัวหนึ่งบินมาเกาะบ่าพอดี หนึ่งดาบสามเฉือนรีบเปิดแถบข้อความอ่าน ที่แท้ก็เป็นข้อความตอบกลับจากพี่ชายของนางนี่เอง
[เมื่อครู่ข้าเพิ่งแข่งหมากล้อม ไม่ทันสังเกตเห็นข้อความของเจ้า
เรื่องตำราลับอาวุธลับ ในมือข้ามีอยู่หลายเบาะแส ไหนลองบอกมาให้ละเอียดว่าเจ้าต้องการแบบไหน
ประเภทกลไก หรือประเภทธรรมดา
มีดบิน เข็มบิน หินบิน หรืออย่างอื่น
พูดให้ละเอียดหน่อย ข้าจะได้ช่วยเจ้าค้นหาได้]…เจ้าอ้วนชนะฟ้า
เมื่อได้เห็นข้อความนี้ หนึ่งดาบสามเฉือนก็กลอกตามองบน จากนั้นก็ตอบกลับทันที
[พี่ใหญ่ของข้าดีที่สุด แต่ไม่ต้องแล้วละ]…หนึ่งดาบสามเฉือน
[ทำไมล่ะ] …เจ้าอ้วนชนะฟ้า
[เพราะตอนนี้ข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้าหมอนั่นใช้ ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’!]…หนึ่งดาบสามเฉือน
ตอนที่สาวน้อยชุดแดงหนึ่งดาบสามเฉือนกำลังใช้พิราบสื่อสารคุยกับพี่ชายตัวเอง บนสังเวียนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คนตกตะลึงอีกครั้ง
หลังจากหวันเหยียนคังถูก ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ เยี่ยเว่ยหมิงทำดาเมจซ้ำ กอปรกับติดสถานะด้านลบที่อันตรายถึงชีวิต พลังต่อสู้ของ BOSS เลเวลสี่สิบห้าคนนี้ก็อ่อนแอลงเกินครึ่ง
ที่จริง การบอกว่าอ่อนแอลงเกินครึ่ง ก็ถือเป็นวิธีการพูดที่ไว้หน้าเขามากแล้ว
[วิชาพังทลาย: ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’ ของหวันเหยียนคังถูกตีพัง พลังภายในถูกตีรวน รวบรวมพลังกรงเล็บภายในเวลาอันสั้นไม่ได้ ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’ เข้าสู่สถานะผนึก!]
[กระดูกแตก: กระดูกบ่าข้างขวาของหวันเหยียนคังถูกโจมตีแตก ทำให้ทั้งแขนขวาออกแรงไม่ได้!]
เมื่อติดสถานะด้านลบ ‘วิชาพังทลาย’ ก็ทำให้ ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’ ของหวันเหยียนคังใช้งานไม่ได้ ส่วนสถานะ ‘กระดูกแตก’ ก็ยิ่งเป็นสถานะเส้นเอ็นขาดเวอร์ชันเพิ่มประสิทธิภาพ ภายในเวลาอันสั้นนี้ไม่มีทางฟื้นฟูร่างกายให้กลับมามีสภาพเดิมได้ ยิ่งไปกว่านั้น จุดที่หวันเหยียนคังถูกโจมตีจนกระดูกแตก ก็ยังเป็นกระดูกบ่าที่เป็นจุดสำคัญอีกด้วย!
กระดูกบ่าแตก มือขวาใช้การไม่ได้!
สิ่งนี้ทำให้เขากุมกระบี่ไม่ได้ มิหนำซ้ำเขายังไม่เคยฝึกกระบี่ด้วยมือซ้ายมาก่อน หรือพูดได้อีกอย่างว่า ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ของเขาก็ถูกเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีพังแล้วเช่นกัน
สองสุดยอดทักษะถูกโจมตีพังในอึดใจเดียว ตอนนี้หวันเหยียนคังตกต่ำกลายเป็นเหมือนกระเป๋า EXPเลเวลสี่สิบห้าที่ไร้ความสามารถโต้ตอบโดยสิ้นเชิงแล้ว
ทว่า ยังไม่ทันรอให้เยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยถือโอกาสกำจัดการกระเป๋า EXP ตัวนี้ทิ้ง ก็มีเงาร่างห้าร่างขึ้นมาบนสังเวียนพร้อมกัน แล้วมาคุ้มครองอยู่ข้างหลังหยางคัง
จากนั้น หนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่ออีกคนก็กระโดดขึ้นสังเวียนเช่นกัน เขาบอกกับเยี่ยเว่ยหมิงและสะพานสวรรค์น้อยว่า “พวกเจ้าระวังตัวหน่อยนะ ลูกสมุนของคนแคว้นจินผู้นี้เก่งกาจมาก รับมือลำบาก!”
แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่หนุ่มน้อยหน้าซื่อกระโดดขึ้นมา เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นในหูของผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในขอบเขตผืนนี้
[ประกาศจากระบบ: อาณาเขตนี้เข้าสู่ช่วงศึกเลือดตอนท้ายของเนื้อเรื่องพิเศษ ‘ประลองยุทธ์เลือกคู่’ คนแคว้นจินใช้อำนาจรังแกคน ทุกคนฆ่าเขาได้]
[ผู้เล่นที่อยู่ในขอบเขตนี้เลือกตั้งกลุ่ม หรือบุกเดี่ยวเพื่อท้าสู้ลูกสมุนที่หวันเหยียนคังพามาได้ ทุกครั้งที่เอาชนะคู่ต่อสู้ได้หนึ่งคน จะได้รับคะแนนสะสมที่สอดคล้องกัน หลังจากภารกิจจบลง ระบบจะแบ่งรางวัลให้ตามคะแนนสะสม]
ภารกิจเนื้อเรื่องขนาดใหญ่ สำหรับผู้เล่นแล้วเรียกได้ว่าเป็นสวัสดิการพิเศษอย่างหนึ่ง
หลังจากเสียงประกาศจากระบบ ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ส่งเสียงแสดงความดีใจทันที จากนั้นก็หาคนรู้จักที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อตั้งทีมและท้าสู้องครักษ์กลุ่มใหญ่ที่หวันเหยียนคังพามา
ในฐานะผู้ที่ปลดล็อกภารกิจใหญ่ครั้งนี้ ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงกลับรู้สึกหนังศีรษะชาวาบ
ขณะมองชื่อและเลเวลของชายห้าคนที่ขวางอยู่ตรงหน้าหวันเหยียนคัง เขาก็รู้สึกอย่างลึกซึ้งว่าตัวเองไร้ความสามารถ
ชายห้าคนนี้ หากอาศัยเพียงเขากับสะพานสวรรค์น้อย ก็เหมือนจะสู้ด้วยไม่ไหวสักคน!
[1] หวังฉงหยาง 王重阳 หรือที่รู้จักกันในชื่อเฮ้งเตงเอี้ยงจากนิยายมังกรหยก
[2] หยางคัง หรือเอี้ยคัง อีกชื่อหนึ่งของ หวันเหยียนคัง
[3] กลิ่นหอมจางหาย หยกพลันสลาย 香消玉殒 อุปมาถึงความตายของหญิงงาม