ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 255 โดนปลิดชีพไม่ทันตั้งตัว
ตอนที่ 255 โดนปลิดชีพไม่ทันตั้งตัว
จากนั้นอาต้าก็ไล่ตาม!
เยี่ยเว่ยหมิงก็วิ่งหนี!
ตอนแรกเนื่องจากอาต้ากังวลความปลอดภัยของอาเอ้อร์ ตอนไล่ตามจึงยังไม่กล้าใช้ความเร็วเต็มที่ มักหันกลับไปมองข้างหลังอยู่เป็นระยะ
แต่พอไล่ตามไปเรื่อยๆ เขาก็พบว่ามือปราบจากภาคกลางคนนี้ แม้จะมีวิชาตัวเบาที่ธรรมดาที่สุดในยุทธภพ แต่ความเร็วก็ไม่ใช่เล่นๆ
เจ้าเด็กนี่วิ่งเร็วกว่ากระต่ายเสียอีก!
เขาใช้เวลาไล่ตามหลังอยู่นานมาก แต่ก็ตามไม่ทันเสียที!
ที่น่าแค้นที่สุดก็คือ เดิมทีความเร็วของเจ้าเด็กนี่แตกต่างกับเขาไม่มาก แต่หลายครั้งที่เขาเพิ่มความเร็วระหว่างที่ไล่ตาม เยี่ยเว่ยหมิงก็เร่งความเร็วด้วยเช่นกัน จนกระทั่งเขาใช้วิชาตัวเบาของตัวเองจนถึงขีดจำกัดสูงสุด เยี่ยเว่ยหมิงกลับยังรักษาความเร็วให้เท่ากับเขาได้
เจ้าหมอนี่กำลังดึงดูดความสนใจของข้าอยู่!
พอคิดถึงตรงนี้ อาต้าก็ไม่ลังเลแล้ว เลิกไล่ฆ่าเยี่ยเว่ยหมิงแล้วเดี๋ยวกลับไปทันที
เยี่ยเว่ยหมิงลองใช้ ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ โจมตีไปข้างหลัง แต่เจ้าหมอนั่นกลับใช้กระบี่ฟันแตกภายในครั้งเดียวโดยไม่ต้องหันกลับมามองด้วยซ้ำ
รู้สึกว่าถ้าเป็นฝ่ายไล่ฆ่าคนอื่นแบบนี้ จะรู้สึกผ่อนคลายกว่าการถูกคนอื่นไล่ฆ่านิดหน่อย เยี่ยเว่ยหมิงล้มเลิกความคิดที่จะใช้ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ควบคุมเขาไว้ เปลี่ยนเป็นตามหลังเขาไปอย่างไม่รีบร้อนแทน พอเห็นกำลังภายในของตัวเองกลับมาเต็มแล้ว ก็ดีดลูกดีดเหล็กออกไปลูกหนึ่งทันที
แม้จะทำให้ศัตรูบาดเจ็บไม่ได้ แต่กลับทำให้อาต้ารังเกียจจนเกินรับไหว
ตอนที่อาต้าฝ่าอาวุธลับที่โจมตีต่อเนื่องทุกสิบวินาทีกลับมายังสนามรบนอกหุบเขา กลับพบว่าอาเอ้อร์กำลังถูกผู้เล่นสามคนคนล้อมตะลุมบอนอย่างหนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น ทำไมคนที่ล้อมโจมตีอาเอ้อร์ถึงเปลี่ยนไปแล้วล่ะ
ที่แท้ก่อนที่เขาจะวิ่งไล่ตามเยี่ยเว่ยหมิงไปไกล คนที่ล้อมโจมตีพวกเขาก็คือเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบ ถังซานไฉ่และฉางซิงอวี่ ในจำนวนนั้น วิชาธนูของฉางซิงอวี่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเขามาก เขาจำไม่ผิดแน่นอน
ถึงขนาดว่าหลังจากโจมตีเยี่ยเว่ยหมิงล้มเหลว เขาก็เตรียมจะเปลี่ยนเป้าหมายโจมตีคนที่สองเป็นฉางซิงอวี่
แต่รอจนเขาไล่ฆ่าเยี่ยเว่ยหมิงรอบหนึ่งแล้ววนกลับมา กลับพบว่าฉางซิงอวี่หายไปแล้ว!
แทนที่ด้วยเด็กสาวจากสำนักสุสานโบราณคนหนึ่ง ตอนนี้นางกำลังควงกระบี่คู่ใช้กระบวนท่าต่างๆ ทักทายบนตัวน้องรองของเขา
นี่คือวิธีการเล่นแบบไหนกัน
นี่ก็คือกลยุทธ์ใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนแปลงของของเยี่ยเว่ยหมิง เพื่อลดความสูญเสียของสมาชิกฝ่ายตัวเอง
ยามเผชิญหน้ากับอาต้าที่อาศัยพลังต่อสู้ของกระบี่อิงฟ้า วิชาตัวเบากลายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดว่าจะรับมือกับเขาได้จนถึงที่สุดหรือไม่ และในบรรดาห้าคนฝ่ายตัวเอง ท่าร่างของฉางซิงอวี่ก็แย่ที่สุด
พูดแบบนี้ไม่ได้แปลว่าวิชาตัวเบาที่ฉางซิงอวี่เรียนมามีคุณภาพแย่
ที่จริงแล้วในฐานะผู้เล่นมืออาชีพคนหนึ่ง เขาอาศัยความได้เปรียบเรื่องความรู้เฉพาะทางเรียนปรับพื้นฐานก่อนเรียนวิชาตัวเบาระดับสูงของสำนักอู่ตังอย่าง ‘ทะยานบันไดเมฆา’ ตั้งนานแล้ว
พอใช้วิชาตัวเบานี้ขึ้นมาก็เรียกได้ว่าสง่างาม!
แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะจุดเน้นในการพัฒนาความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เจ้าหมอนี่หลงใหลวิชาทวน ทั้งยังชอบขี่ม้า ค่าตบะมีจำกัด จำนวนที่เพิ่มไปบนวิชาขี่ม้าเยอะกว่าวิชาตัวเบา ดังนั้นในบรรดาพวกเขา ค่าสเตตัสท่าร่างของเขาจึงเหมือนขยะที่สุด
ถ้าคนที่อาต้าไล่ฆ่าเมื่อครู่นี้คือเขา ตอนนี้เจ้าหมอนี่คงได้ไปรายงานตัวที่จุดคืนชีพแล้ว
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเสียสละที่ไร้ประโยชน์ ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงพาอาต้าไปวิ่งมาราธอนก็เตรียมเปลี่ยนคนแล้ว เปลี่ยนให้สะพานสวรรค์น้อยที่วิชาตัวเบาดีกว่า มีความสามารถในเอาตัวรอดดีกว่ามาแทน ให้คนขาสั้นอย่างฉางซิงอวี่ไปดูต้นทางแทน
เมื่อเห็นอาต้าย้อนกลับมา สามคนที่กำลังล้อมโจมตีอาเอ้อร์ก็แยกย้ายทันที
อาเอ้อร์เพิ่งจะโล่งอก แต่จู่ๆ กลับได้ยินเสียงโลหะเงินฝ่าปะทะลมดังมา เป็นวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ที่เยี่ยเว่ยหมิงส่งมาโจมตีเขาจากที่ไกลๆ
อาเอ้อร์ไม่ได้เตรียมตัวเพราะกำลังหละหลวม ถูกโจมตีเข้าเต็มๆ
โจมตีถูกหว่างคิ้ว!
แปะ!
-116542!
ภายใต้การโจมตีนี้ อาเอ้อร์ที่เดิมทีเหลือค่าพลังชีวิตอยู่เกือบครึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะหายไปหมดในชั่วพริบตาเดียว!
ปลิดชีพ!
[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีสังหารยอดฝีมือสังกัดท่านอ๋องหรู่หยางแห่งมองโกล อาเอ้อร์ BOSS เลเวล 65 สำเร็จ ได้รับ
ค่าประสบการณ์ 250000 แต้ม
ค่าตบะ 80000 แต้ม!]
[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพเยี่ยเว่ยหมิง สำนักสุสานโบราณ…]
บัดซบ!
การตายกะทันหันของอาเอ้อร์ ไม่เพียงแค่ทำให้อาต้าที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เตรียมตัว แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงที่เป็นผู้ริเริ่มก็ไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน!
เดิมทีเขาเตรียมจะใช้อาเอ้อร์มาควบคุมอาต้า จากนั้นก็ใช้วิธีการจู่โจมเล่นงานเจ้าหมอนี่แรงๆ สักสองที เตรียมจะลงทุนน้อยกอบโกยมาก ดูว่าจะใช้วิธีการที่มีอยู่ตอนนี้กำจัดเจ้าหมอนี่เพื่อให้ดรอปกระบี่อิงฟ้าคืนสู่เจ้าของได้หรือไม่
แต่ผลปลิดชีพนี้ กลับทำให้แผนการเดิมที่เขาวางไว้ต่อเนื่องวุ่นวายหมดแล้ว
[ไท้ซัวเป็นไฉน เอฟเฟ็กต์พาสซิฟ: โจมตีจุดสำคัญมีโอกาสปลิดชีพ 10%!]
ต้องบอกเลยว่าตอนที่เอฟเฟ็กต์โผล่มา เหมือนจะผิดเวลาไปหน่อย…
แต่กลุ้มใจก็ส่วนกลุ้มใจ เมื่อเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังไม่ลืมที่จะใช้วิธีการรับมือที่ดีที่สุด ดังนั้นจึงไม่รอให้อาต้ารู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไร เขาพลันพุ่งไปอีกด้านหนึ่ง ดึงสะพานสวรรค์น้อยขึ้นมาแล้วเลี้ยววิ่งทันที
“โธ่ น้องรอง!” กระทั่งตอนนี้ อาต้าถึงดึงสติกลับมาจากความตกตะลึงได้ มือข้างหนึ่งอุ้มศพของอาเอ้อร์ที่กำลังล้มลงมา ความโศกเศร้าพรั่งพรูขึ้นมาในใจทันที
เมื่อเห็นน้องรองของตัวเองตายอนาถขนาดนี้ ร่างกายที่เดิมทีผึ่งผายก็เหมือนอ่อนยวบลงมาแล้ว อาต้ารู้สึกว่าความเศร้าเสียใจล้นทะลักอยู่ในใจ ตามด้วยส่งเสียงคำรามเกรี้ยวกราดสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน จากนั้นถือกระบี่อิงฟ้าที่ทนทานเล่มนั้นเลี้ยวกลับมาอีกครั้ง ไล่สังหารมาทางเยี่ยเว่ยหมิงโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด
ตอนที่จูงมือกัน สะพานสวรรค์น้อยซื้อขายไอเทมเสร็จเรียบร้อยด้วยความรวดเร็วตามคำขอของเยี่ยเว่ยหมิง จากนั้นชายหนุ่มก็แยกจากหญิงสาวตรงนั้น แยกกันหนีไปคนละทาง
ส่วนอาต้ากลับเอาแต่จองเวรเยี่ยเว่ยหมิงที่ฆ่าน้องรองของเขา แต่ดันตามไม่ทัน ฟันไม่โดน ได้แต่โมโหจนร้องโวยวายออกมา
ตอนนี้เอง ฉางซิงอวี่ส่งข้อความในช่องทีมได้ทันเวลา [วัดน้ำเต้าโลหิตมีเหตุเปลี่ยนแปลง! ตอนนี้ยอดฝีมือของสำนักคุนหลุนฝ่าออกมาจากวัดได้แล้ว เริ่มฝ่าวงล้อมแล้ว!]
[ผู้ที่นำหน้ามาคือชายชราเคราขาวที่มีทักษะกระบี่แข็งแกร่งมาก รับมือกับยอดฝีมือฝ่ายราชสำนักมองโกลแบบหนึ่งต่อสอง ตอนนี้สู้กันอย่างสูสี ยอดฝีมือคนอื่นของสำนักคุนหลุนสู้กับทัพใหญ่มองโกล เหมือนจะสูสีเช่นกัน!]
เป็นอย่างที่คาดไว้ ในภารกิจเนื้อเรื่องแบบนี้ หลายครั้งล้วนขึ้นอยู่กับการกระทำของผู้เล่น
การต่อสู้ระหว่าง NPC ขอเพียงทั้งสองฝ่ายมีคุณสมบัติไม่ต่างกันเกินไป ก็จะต่อสู้กันอย่างสูสีเสมอ จนกระทั่งผู้เล่นทำอะไรสักอย่าง ถึงจะกระตุ้นให้เนื้อเรื่องมีการเปลี่ยนแปลง!
ยกตัวอย่างเช่น อาเอ้อร์ถูกโจมตีจนเสียพลังชีวิตไปหนึ่งส่วนสาม คือเงื่อนไขในการล่ออาต้าออกมา ส่วนการทำให้หนึ่งในสองคนนี้ตาย ก็คือเงื่อนไขที่กระตุ้นให้สำนักคุนหลุนฝ่าวงล้อม
เช่นนั้นถ้าอยากทำให้ทัพใหญ่มองโกลเสียขวัญกำลังใจ ถึงขั้นเกิดสถานการณ์ที่รับมือได้ไม่ทั่วถึง เกรงว่าคงต้องฆ่าอาต้าคนนี้ให้ตาย
เพียงแต่…
ไม่มีความลังเลใดๆ เยี่ยเว่ยหมิงบอกในช่องทีมทันทีว่า [เตรียมตัวเคลื่อนไหวเถอะ รายละเอียดของสถานการณ์ฝั่งนั้นข้าไม่เห็น เจ้ารับหน้าที่หาโอกาสเอาเอง! แล้วก็น้องดาบ หลังจากเก็บศพแล้วไปสนับสนุนสหายซิงอวี่]
[รับทราบ!] ฉางซิงอวี่ตอบอย่างตื่นเต้น แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
ส่วนทางฝั่งเยี่ยเว่ยหมิง อาต้ากำลังไล่ฟันตามก้นเขาอย่างบ้าระห่ำ สะพานสวรรค์น้อยกำลังไล่ตามหลังอาต้าและปล่อยอาวุธลับ ไม่นานถังซานไฉ่ก็มารวมตัวกับสะพานสวรรค์น้อย แล้วยิงอาวุธลับด้วยกัน
ทำให้ทุกครั้งที่อาต้าเหมือนใกล้จะตามเยี่ยเว่ยหมิงทัน แต่เป็นเพราะถูกก่อกวนจากอาวุธลับชนิดต่างๆ ข้างหลัง จึงจำเป็นต้องผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อต้านอาวุธลับ ได้แต่มองก้นของเยี่ยเว่ยหมิงที่บิดไปบิดมาอยู่ข้างหน้าตัวเอง เขาแค้นจนกัดฟันกรอดแล้ว
ส่วนน้องดาบ ตอนนี้กลับเดินมาอยู่ตรงหน้าศพของอาเอ้อร์ด้วยความเร็วปกติ หลังจากใช้เท้าเตะเบาๆ หนึ่งที รายการไอเทมดรอปก็ปรากฏตรงหน้าทุกคนในทีมทันที