ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 260 หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน
ตอนที่ 260 หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน
มีน้ำใจขนาดนี้เชียวหรือ?
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เหมือนดอกเก๊กฮวยของเหล่าเหอ ปฏิกิริยาแรกของเยี่ยเว่ยหมิงก็คือ…
อยู่ดีๆ ก็มีไมตรีจิต ถ้าไม่ใช่คนชั่วก็เป็นโจร[1]!
ส่วนจะเป็นคนชั่วหรือเป็นโจร เยี่ยเว่ยหมิงตัดสินใจจะสืบหาข้อมูลก่อน
เยี่ยเว่ยหมิงรีบค้นหาชื่อเหอจู๋เต้าจากข้อมูลที่อินปู้คุยให้มา พอเขามองแวบเดียว ก็รู้ถึงแรงจูงใจแท้จริงที่ผู้เฒ่าเหอคนนี้เต็มใจขาดทุนเพื่อสำนักเอ๋อเหมยแล้ว
เหอจู๋เต้า: รู้จักกันในนามสามปราชญ์แห่งคุนหลุน แบ่งเป็นปราชญ์ฉิน ปราชญ์หมากรุก ปราชญ์กระบี่ สง่างามและถ่อมตัว บุคลิกงดงาม
หมายเหตุ: เป็นหนึ่งในสองสุนัขขี้ประจบที่ตามจีบกัวเซียง ปรมาจารย์ผู้บุกเบิกสำนักเอ๋อเหมย!
จิตวิญญาณนักข่าวกำลังลุกโชน เยี่ยเว่ยหมิงค้นหาคำว่า ‘สุนัขขี้ประจบ’ ในกลยุทธ์ต่อไป แต่กลับเจอแต่ข้อมูลไม่สำคัญที่บอกว่า ซ่งชิงซูแห่งอู่ตังเป็นสุนัขขี้ประจบของโจวจื่อรั่ว จางอู๋จี้เคยเป็นสุนัขขี้ประจบของจูจิ่วเจิน
แต่กลับไม่พบว่าสุนัขขี้ประจบสองตัวของกัวเซียงคือใคร!
ดูท่าแล้ว คงต้องรอกลับไปเจอกันแล้วถามเจ้าหมอนั่นต่อหน้า
แต่ในเมื่อเหอจู๋เต้าเป็นสุนัขขี้ประจบที่ตามจีบกัวเซียง เช่นนั้นจุดประสงค์ที่เขาต้องการกระบี่อิงฟ้าก็เพราะจะนำกลับไปเอาใจสำนักเอ๋อเหมยแน่นอน ถ้าคำนวณแบบนี้ จะยินดีขาดทุนสักหนึ่งครั้งก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเช่นกัน
ถ้าจะบอกว่านำกระบี่กลับไปคืนให้เอ๋อเหมย ก็เท่ากับเจอกระเป๋าเงินแล้วนำกลับไปคืนเจ้าของ นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลโดยตัวมันเองอยู่แล้ว รางวัลขอบคุณที่อีกฝ่ายให้ต้องไม่เยอะแน่นอน แต่ผู้เฒ่าเหอเพื่อที่จะเอาใจผู้หญิง จึงยินดีออกเงินจ่ายค่ากระเป๋าเงินใบนี้ จากนั้นตัวเองเป็นคนนำไปคืนเจ้าของเอง ถ้าถือโอกาสประจบสักครั้ง ราคาที่ต้องจ่ายจะต้องเยอะกว่าสำนักเอ๋อเหมยแน่นอน!
หลังจากชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสียแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็คิดว่าส่งกระบี่อิงฟ้าให้ผู้เฒ่าเหอคือทางเลือกที่ดีที่สุด
เพียงแต่กระบี่นี้ ถึงอย่างไรทุกคนก็ร่วมมือกันเพื่อให้ได้มา คงไม่ดีถ้าเขาจะดำเนินการโดยพลการ หลังจากบอกสิ่งที่ตัวเองวิเคราะห์ให้เพื่อนร่วมทีมฟัง ก็ได้คะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์อย่างที่คาดไว้
ดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงจึงส่งกระบี่อิงฟ้าที่ตัวเองทำได้แค่มองให้ผู้เฒ่าเหอ
[ติ๊ง! คุณทำภารกิจลับ ‘ส่งคืนเจ้าของเดิม’ สำเร็จ กรุณาไปรับรางวัลภารกิจกับเหอจู๋เต้า]
[ประกาศระบบ: เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักมือปราบเทพ ผู้เล่นสำนักสุสานโบราณ…ผู้เล่นทั้งห้าคนทำภารกิจลับ ‘ส่งคืนเจ้าของเดิม’ สำเร็จ ตอนนี้กระบี่อิงฟ้าไม่ได้อยู่ในมือผู้เล่นคนใด หากมีการ PK กันระหว่างผู้เล่นจะถูกหักค่าวีรบุรุษ ประกาศอย่างเคร่งครัด!]
จู่ๆ ก็มีประกาศระบบแบบนี้ออกมา ทำให้บรรดาผู้เล่นที่นึกว่าเจอโอกาสแล้วและเตรียมจะไปดักรอที่ตีนเขาเอ๋อเหมย ตอนนี้หน้าเหวอไปตามๆ กัน
หลังจากเหอจู๋เต้ารับกระบี่ล้ำค่ามาแล้ว กลับมองเยี่ยเว่ยหมิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “แม้ตอนนี้หมดพันธนาการกับกระบี่เล่มนี้แล้ว แต่ก็ยังมีภารกิจของมันที่ต้องไปทำให้สำเร็จ หลังจากผ่านการต่อสู้ครั้งนี้ วาสนาของเจ้ากับกระบี่เล่มนี้ก็ถูกกำหนดแล้ว ในอนาคตจะได้เจอกันอีก…”
พูดไปได้ครึ่งเดียว เหอจู๋เต้ากลับหยุดกะทันหัน แล้วส่ายหน้าบอกว่า “เฮ้อ คนแก่แล้วก็พูดมากอย่างนี้ พวกเราคุยธุระหลักกันดีกว่า แจกรางวัลภารกิจ”
พอเขาพูดจบ ก็เริ่มแจกรางวัลภารกิจให้ห้าคนในทีมนี้อย่างเป็นทางการจริงๆ แล้ว
ที่จริงในเกมพบเจอวิทยายุทธ์ระดับสูงได้น้อยมาก โดยทั่วไปถ้าเป็นภารกิจระดับหกดาว ถ้าอยากจะได้ก็ยากขึ้นไปอีก ต่อให้เป็นภารกิจระดับเจ็ดดาว แต่อย่างมากได้ตำราสองเล่มก็ถือว่าเยอะมากแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ทั้งห้าคนจะได้คนละเล่ม!
เพียงแต่เหอจู๋เต้าเคยบอกไว้แล้วว่าจะรวมรางวัลของภารกิจ ‘ช่วยสามปราชญ์’ กับ ‘ส่งคืนเจ้าของเดิม’ ไว้ด้วยกัน และจะยกเลิกรางวัลค่าประสบการณ์กับค่าตบะเดิม หลังจากรวมรางวัลกันแล้ว สุดท้ายก็จะแบ่งรางวัลไปถึงทุกคนได้ ถือเป็นเซอร์ไพรส์ใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!
คนที่ได้รางวัลคนแรกคือถังซานไฉ่ “สมัยก่อนระหว่างที่ข้าท่องยุทธภพ เคยสังหารโจรชั่วของยุทธภพคนหนึ่งที่ถนัดใช้อาวุธลับ กำลังภายในที่เขาฝึกมีประโยชน์ต่ออาวุธลับมาก หวังว่าจะช่วยเหลืออะไรจอมยุทธ์น้อยถังได้บ้าง”
หลังจากถังซานไฉ่รับอาวุธมาแล้ว ก็ส่งลิ้งก์ไอเทมเข้าไปในช่องทีม
[พันมุทราเจินซู่ (ระดับสูง)] เคล็ดจิตกำลังภายในที่สร้างขึ้นโดยเจินซู่ สตรีลึกลับแห่งแดนซีอวี้ กำลังภายในของมันเข้ากับวิชาอาวุธลับทั้งหมดในใต้หล้าได้
เงื่อนไขการฝึก: ท่าร่าง 100, ความว่องไว 150, ค่าตระหนักรู้ 35
ถังซานไฉ่ตบใช้งานมันจนกลายเป็นแสงสีขาวอย่างไม่ลังเล บนใบหน้าเผยความรู้สึกดีใจอย่างบ้าคลั่ง เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้จับภาพส่งไปในช่องทีม คงอยากจะรักษาความลึกลับเอาไว้ละมั้ง
ตอนนี้เหอจู๋เต้าหันตัวมาตรงหน้าสะพานสวรรค์น้อยแล้ว “วิธีการที่แม่นางผู้นี้ใช้ดาบพร้อมกันสองมือก็น่าสนใจ ข้ามี ‘วิชากระบี่สองลักษณ์หน้าตรง’ ของสำนักคุนหลุนพอดี แม้แยกมาแล้วจะเป็นเพียงวิทยายุทธ์ระดับกลางสองเล่ม แต่ถ้าสองรวมเป็นหนึ่งกลับแสดงประสิทธิภาพได้เหนือกว่าวิทยายุทธ์ระดับสูง มอบให้เจ้าก็แล้วกัน”
“ขอบคุณผู้อาวุโสเหอ!”
จากนั้นก็เป็นน้องดาบ “เคล็ดดาบของแม่นางผู้นี้น่าทึ่ง แต่พื้นฐานยังไม่แข็งแรงพอ ข้ามีตำรารับกำลังภายในระดับสูงที่ช่วยเสริมพื้นฐานของเจ้าได้ ถือเป็นของขวัญแทนคำขอบคุณที่เจ้าลงมือทวงความยุติธรรมให้”
น้องดาบได้ตำราลับมาแล้วก็ใช้มันอย่างเงียบๆ จากนั้นก็ถอยไปอยู่ด้านข้างเงียบๆ
มีเยี่ยเว่ยหมิงอยู่ นางไม่ถือสาที่จะทำตัวสงบเสงี่ยมสักหน่อย ไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ของตัวเองง่ายๆ เด็ดขาด
ถ้าอยากจะรังแกคืน ก็ต้องมีไพ่ตายที่พอจะอวดได้สักใบสิ!
“จอมยุทธ์น้อยฉางซิงอวี่แม้จะมีพื้นเพมาจากสำนักอู่ตัง แต่ข้ากลับเห็นเจ้าฝึกวิชาทวน ไม่เคยฝึกวิชากระบี่เคล็ดดาบของอู่ตัง การกระทำนี้นับว่าทำให้เจ้าเป็นผืนธงที่มีเอกลักษณ์ท่ามกลางผู้เล่นแล้ว…
…ที่ข้ามีวิชาทวนตำราลับวิชาทวนอยู่สองเล่มพอดี ล้วนเป็นตำราที่ข้าได้มาจากการท่องยุทธภพเพียงลำพังในสมัยก่อน ข้าจะมอบทั้งหมดให้จอมยุทธ์น้อย”
ขณะที่พูด เหอจู๋เต้าก็มอบตำราลับสองเล่มให้ฉางซิงอวี่ แล้วกล่าวเสริมว่า “แม้สองเล่มนี้จะเป็นวิชาทวนตำราลับระดับต้น แต่กลับเป็นของที่เหมาะที่สุดเท่าที่ข้าจะหาให้เจ้าได้”
ฉางซิงอวี่รับตำราลับมาไว้ในมือโดยไม่ได้พูดอะไร มองไม่ออกถึงความคิดที่แท้จริงในใจของเขาเช่นกัน
แต่หลังจากเขาใช้ตำราลับสองเล่มนี้แล้ว บนใบหน้าเผยสีหน้าดีใจอย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่กำลังตื่นเต้น ก็ถึงขั้นจับภาพที่ไม่สมบูรณ์ส่งเข้าไปในช่องทีมแล้ว
[ทวนเทพสี่ตระกูล (ระดับสูง)] รวบรวมส่วนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของวิชาทวนจากสี่ตระกูลขุนพลของต้าซ่ง ได้แก่ตระกูลฮู ตระกูลหยาง ตระกูลเกา ตระกูลเจิ้ง ประสิทธิภาพไม่เป็นรองวิทยายุทธ์ประจำสำนักใหญ่ต่างๆ!]
……
ไม่ได้ส่งค่าสเตตัสที่อยู่ข้างหลังมาด้วย เขาคงจะจงใจไม่ได้ส่งภาพทั้งหมดมา
แต่ดูแค่คำแนะนำนี้อย่างเดียว ก็เพียงพอให้อธิบายปัญหาทุกอย่างได้แล้ว
ตอนนี้ ได้ยินเหอจู๋เต้าพูดต่อว่า “แม้วิชาทวนระดับต้นสองวิชานี้จะทำให้ประสิทธิภาพวิชาทวนของจอมยุทธ์น้อยเพิ่มขึ้นมาก แต่ที่จริงสิ่งที่ข้าทุ่มเทก็เป็นเพียงวิทยายุทธ์ระดับต้นสองเล่มเท่านั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชย ข้าจะบอกข่าวดีเจ้าอย่างหนึ่ง”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉางซิงอวี่ก็กระปรี้กระเปร่าทันที แต่กลับได้ยินเหอจู๋เต้าพูดต่อว่า “จากที่ข้าสังเกต วิชาทวนของตระกูลฮู ตระกูลหยาง ตระกูลเกา ตระกูลเจิ้ง ล้วนมีเคล็ดลับสุดยอดด้านการโจมตี ป้องกัน ความเร็วและพลังของวิชาทวน เมื่อรวมสี่เคล็ดลับสุดยอดเป็นหนึ่งเดียว แม้จะเทียบเคียงกับวิทยายุทธ์ประจำสำนักใหญ่ในยุทธภพได้ แต่สุดท้ายก็ขาดหัวใจสำคัญที่คุมสี่สุดยอดเคล็ดลับนี้ได้!”
พอพูดถึงตรงนี้ เหอจู๋เต้าก็ชะงักไปสองวินาที หลังจากให้เวลาเขาย่อยข้อมูลแล้ว ถึงได้อธิบายต่ออีกว่า “หากจอมยุทธ์น้อยหาวิชาทวนระดับสูงที่เหมาะสมเจอ แล้วรวมมันเข้ามาใน ‘ทวนเทพสี่ตระกูล’ โดยคำชี้แนะของผู้สูงส่ง ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงขึ้นมาก สูงถึงระดับสุดยอดวิชาของยุทธภพ!…
…ตาแก่คนนี้พูดได้เพียงเท่านี้ จะทำสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องดูที่วาสนาของจอมยุทธ์น้อยเองแล้ว”
ฉางซิงอวี่รีบกล่าวขอบคุณ ส่วนเหอจู๋เต้าในที่สุดก็เดินมาถึงตรงหน้าเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว ยื่นตำราลับใส่มือเขา “วิชานี้คือปริศนาที่ไม่ได้ถ่ายทอดของสำนักคุนหลุน แต่ข้าเห็นว่ามันเข้ากับวิทยายุทธ์ของจอมยุทธ์น้อยมาก จึงมอบให้จอมยุทธ์น้อยเยี่ย”
เยี่ยเว่ยหมิงมองข้อมูลแนะนำของตำราลับแวบหนึ่ง แล้วถามด้วยสีหน้ามืดครึ้มทันที “ผู้อาวุโสเหอ เปลี่ยนอันใหม่ให้ข้าได้ไหม”
“ไม่ได้!” เหอจู๋เต้าตอบอย่างอ้อมค้อม
ด้วยความจนใจ เยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงเอาเยี่ยงอย่างเพื่อนร่วมทีม ยื่นมือตบตำราลับจนกลายเป็นแสงสีขาว ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในทักษะของตัวเอง
ถ้าถามว่าทำไมเขาถึงไม่หาที่เงียบๆ ไร้ผู้คนแล้วอ่านศึกษาอย่างละเอียด
ไม่จำเป็น!
เพราะชื่อของตำราลับเล่มนี้ก็คือ…หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน!
กระบวนท่าที่สู้ตายแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงมี ‘คนผีร่วมวิถี’ กับ ‘ตราบชั่วฟ้าดิน’ ตั้งนานแล้ว ดังนั้นสำหรับ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ เขาจึงไม่ได้สนใจมากนัก
เพียงแต่พอนึกถึงสถานการณ์ของฉางซิงอวี่ก่อนหน้านี้ เขาจึงเลือกที่จะเชื่อผู้เฒ่าเหอสักครั้ง ถึงได้ใช้ตำราลับเล่มนี้ด้วยความคิดว่าจะเดิมพันสักครั้ง
ทว่าหลังจากเขาเรียนตำราลับเล่มนี้แล้ว ดวงตากลับเป็นประกายทันที
‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ โหดกว่าสองกระบวนท่าก่อนหน้านี้เยอะมาก!
[1] อยู่ดีๆ ก็มีไมตรีจิต ถ้าไม่ใช่คนชั่วก็เป็นโจร 无事献殷勤,非奸即盗 หมายถึง ไม่มีใครที่ทำดีแล้วไม่หวังผล ของฟรีไม่มีในโลก