ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 283 คู่ต่อสู้ที่ฉลาดไม่น่ารักเลย!
ตอนที่ 283 คู่ต่อสู้ที่ฉลาดไม่น่ารักเลย!
สาเหตุที่เยี่ยเว่ยหมิงไม่เลือกฆ่าผู้เล่นก่อน แล้วค่อยแย่งฆ่ามอนสเตอร์ทีหลัง แน่นอนว่าไม่เกี่ยวข้องกับนิสัยของเขาอยู่แล้ว
ที่จริง อิงตามความคิดส่วนตัวของเขา เขาไม่ถือสาเลยสักนิดที่จะส่งผู้เล่นทั้งห้าคนกลับไปพักผ่อนที่จุดคืนชีพในเมืองก่อนที่ตัวเองจะฆ่าบอส
แต่อย่าลืมว่าผู้ที่แจกภารกิจนี้คือเจ็ดประหลาดแห่งเจียงหนาน!
เมื่ออยู่ระหว่างการทำภารกิจของเจ็ดคนที่พูดเรื่องคุณธรรมทั้งวัน ทั้งยังเป็นคนเปิดเผยไร้เล่ห์เหลี่ยม หากเขามีพฤติกรรมแทงข้างหลังเพื่อนแบบนี้ อย่าบอกนะว่าจะได้รับการส่งเสริมอยู่อีก
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!
เยี่ยเว่ยหมิงไม่สงสัยเลยสักนิด ขอเพียงเขากล้าฆ่าผู้เล่นก่อนแล้วแย่งฆ่ามอนสเตอร์ทีหลัง การถูกหักคะแนนหลักพันยังถือว่าเบาไป รายชื่อการประลองยุทธ์หอหมอกพิรุณและกระบองไผ่เขียวที่เขาฝากหันเสี่ยวอิ๋งไว้ก็จะต้องหมดความเกี่ยวข้องกับเขาอย่างสิ้นเชิงแน่นอน
ดังนั้น แม้วิธีการแบบนั้นจะมีประสิทธิภาพสูงขนาดไหน ได้ผลตอบแทนมากขนาดไหน เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังต้านทานความยั่วยวนใจไว้ได้ และเลือกที่จะแย่งฆ่ามอนสเตอร์อย่างสง่าผ่าเผย!
อย่างไรเสียในสายตาของ NPC การแย่งฆ่ามอนสเตอร์กับการฆ่าผู้เล่นนั้นมีความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง
เมื่อเขาพูดแบบนี้ หลี่เปียวที่อยู่ในหอประชุมรวมคุณธรรมตาแดงก่ำเพราะความโกรธอย่างที่คาดไว้จริงๆ หลี่เปียวพยายามจะฝ่าวงล้อมมาโจมตีสังหารภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดก่อน
แบบนี้เท่ากับเป็นการพิสูจน์อ้อมๆ แล้วว่าคำพูดของเยี่ยเว่ยหมิงเป็นความจริง
เขากำลังเตรียมจะใช้ท่าไม้ตายแล้วจริงๆ!
เพียงแต่การที่เขาแย่งมอนสเตอร์จากอีกฝ่ายแบบนี้ ทั้งยังขอให้อีกฝ่ายช่วยทำเวลาให้ อย่าบอกนะว่าไม่เคยคิดเลยว่าเมื่ออีกฝ่ายได้ยินคำขอที่ไร้เหตุผลแบบนนี้แล้วจะไม่แสดงปฏิกิริยารุนแรงเกินขอบเขต
แน่นอน ใช่ว่าเยี่ยเว่ยหมิงจะไม่เคยคิดถึงจุดนี้ ถึงขั้นกล่าวได้ว่า นี่ต่างหากคือเป้าหมายที่แท้จริงของเขา!
ตอนนี้เขาตะโกนประโยคนี้ออกมา สายตาก็สังเกตทุกการเคลื่อนไหวของบรรดาผู้เล่นที่อยู่ตรงข้ามอย่างแนบเนียนแล้ว
เพราะในช่วงเวลาสำคัญที่ผู้เล่นธรรมดาคนหนึ่งกำลังโจมตี BOSS ถ้าเจอกับคนประหลาดอย่างเยี่ยเว่ยหมิง ก็จะต้องเลือกกำจัดภัยคุกคามจากภายนอกคนนี้ก่อนแน่นอน จากนั้นค่อยโจมตีมอนสเตอร์อย่างสงบใจ
ทว่าพอพวกเขาทำแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็จะอ้างว่าป้องกันตัวได้อย่างชอบธรรม จากนั้นก็ค่อยแย่งฆ่ามอนสเตอร์อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบด้านลบจากการทำแบบนี้เลยแม้แต่น้อย!
ทำแบบนี้คือเรื่องงดงามมากไม่ใช่หรอกหรือ
ทว่าความคิดของเยี่ยเว่ยหมิงแม้จะดี แต่คนอื่นก็ไม่ได้โง่กันหมดเหมือนกัน
ตอนที่เขาพูดจบ ผู้เล่นสำนักถังเหมินคนนั้นก็มองมาที่ตัวเขาด้วยเจตนาที่ไม่ดีแล้ว เตรียมใช้วิชามวยซั่นโส่วโจมตีมาทางเขาได้ทุกเมื่อ จู่ๆ ผู้เล่นชายสำนักหัวซานในทีมคนนั้นก็เอ่ยว่า “เขาพูดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังหลอกให้พวกเราไปโจมตีเขาก่อน ทุกคนอย่าตกหลุมพรางเด็ดขาด รีบฆ่า BOSS ก็พอ ไม่ต้องสนใจเจ้าหมอนั่น!”
เยี่ยเว่ยหมิง “…”
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน
แล้วความเลวร้ายของนิสัยคนกับความโง่ของตัวประกอบล่ะ
ทำไมพวกเจ้าไม่เล่นตามบทล่ะ!
ถ้าพวกเจ้าไม่โจมตีข้าก่อน แล้วจะให้ข้าสังหารพวกเจ้าอย่างกำเริบเสิบสานได้อย่างไร
และท่ามกลางทีมที่อยู่ตรงหน้าเขา ผู้เล่นชายของสำนักหัวซานก็ดูมีบารมีน่าเชื่อถือมาก เพราะหลังจากเขาพูดประโยคนี้จบแล้ว สองคนในทีมที่เดิมทีเตรียมตัวจะโจมตี รวมทั้งผู้เล่นสำนักถังเหมินที่ถืออาวุธลับเพื่อเตรียมยิงคนนั้น ก็พากันล้มเลิกความคิดที่จะโจมตีเยี่ยเว่ยหมิงก่อน
ผู้เล่นสำนักถังเหมินก็ยิ่งใช้อาวุธลับที่เดิมทีเตรียมไว้เพื่อเยี่ยเว่ยหมิง ตอนนี้โจมตีไปบนตัวหลี่เปียวในรวดเดียว
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มใช้ท่าไม้ตายต่างๆ โจมตีไปบนตัวหลี่เปียวราวกับไม่ต้องจ่ายเงิน โจมตีจน BOSS เหลือพลังชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่ง ชีวิตบอสกำลังลดลงอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นฉากนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็อยากจะฆ่าพวกเขาให้ตายโดยไม่สนใจท่องสูตรคูณสามเจ็ดยี่สิบเอ็ดแล้ว
แต่สถานการณ์บีบบังคับคน เขายังต้องยุ่งกับสามเจ็ดยี่สิบเอ็ดต่อไป
ไม่ยุ่งไม่ได้!
เพราะหลังจากท่องสามเจ็ดยี่สิบเอ็ดแล้ว บวกกับ 630 อีก จำนวนที่ได้ก็คือ 651
ไท้ซัวเป็นไฉน เปิดใช้งานสำเร็จ!
เมื่อเข้าสู้สภาวะเปิดใช้งานไท้ซัวเป็นไฉนอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงตาเป็นประกายทันที กระบี่แสงทองปรากฏอยู่ในมือของเขา จากนั้นตัวก็เดินตามกระบี่ไป พุ่งไปทางหอประชุมรวมคุณธรรมโดยไร้ความกังวล แทรกเข้าไปหาห้าคนที่กำลังล้อมโจมตีหลี่เปียว ฉวยโอกาสตอนที่หลี่เปียวใช้ฝ่ามือโจมตีผู้เล่นเส้าหลินจนถอยหลังและร่างตัวเองกำลังนิ่งค้าง เยี่ยเว่ยหมิงใช้กระบี่แทงทะลุคอหอยเขาแล้ว
พเนจรสุดขอบฟ้า!
-26361!
เยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้กำลังอยู่ในสถานะใช้งาน ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แม้จะเป็นเพียง ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ธรรมดาธรรมดา แต่ก็โจมตีพรากพลังชีวิต BOSS หายไปหนึ่งในสิบได้ในช่วงพริบตาเดียว!
ตัวเลขดาเมจมหาศาลแบบนี้ทำให้ผู้เล่นห้าคนที่ล้อมอยู่ตกใจทันที
ส่วนหลี่เปียวที่โดนโจมตีเป็นคนแรกก็คำรามอย่างเดือดดาล ก่อนจะพลิกฝ่ามือโจมตีไปที่ไหล่ขวาของเยี่ยเว่ยหมิง
เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์ดังนั้น ตอนที่ชักกระบี่จึงใช้ฝ่ามือธรรมดาๆ ข้างซ้ายผลักออกไป รับกับฝ่ามือทรายพิษของหลี่เปียวได้อย่างแม่นยำ
ตุ้บ!
“อา!~~~”
-36826!
กระดูกแตก!
ถูกพิษ!
เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่มีเอฟเฟ็กต์ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ คอยเสริม การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงก็น่ากลัวที่สุด ใช้เพียงฝ่ามือเดียวไม่เพียงทำให้มือขวาของหลี่เปียวกระดูกแตก ทั้งยังทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในฝ่ามือของอีกฝ่ายย้อนกลับไปทำร้ายอีกฝ่ายด้วย
เมื่อถูกธาตุพิษยอมทำร้าย เหนือศีรษะของหลี่เปียวก็มีตัวเลขดาเมจที่ดีที่สุดอย่าง ‘-3000’ ลอยขึ้นมา ขณะเดียวกันค่าสเตตัสป้องกันก็ลดลง 30%!
ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงที่ฝืนรับฝ่ามือทรายพิษของหลี่เปียวไว้ นอกจากจะไม่ถูกโจมตีจนเกิดดาเมจแล้ว ถึงขั้นไม่ติดสถานะถูกพิษที่มากับฝ่ามือทรายพิษด้วย
เนื่องจากอุปกรณ์ของเขาคือหมวกที่ต้านพิษ + 300 แต้ม!
การต้านพิษแบบนี้ หากจุดสำคัญถูกฝ่ามือทรายพิษโจมตี แม้จะหลีกเลี่ยงการถูกพิษไม่ได้ แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบด้านกระบวนท่าก็ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีอันตรายเพราะถูกพิษ
หลังจากผ่านการโจมตีครั้งนี้ ค่าพลังชีวิตเหนือศีรษะของหลี่เปียวก็เหลือไม่ถึงสองหมื่นแล้ว!
ตอนนี้เอง ผู้เล่นห้าคนที่ก่อนหน้านี้ตกตะลึงเพราะเห็นเขาทำดาเมจ ตอนนี้ดึงสติกลับมาแล้ว ผู้เล่นหญิงสำนักหัวซานใช้กระบี่แทงหัวใจเยี่ยเว่ยหมิงจากข้างหลัง แต่คมกระบี่ยังไม่ทันมาถึง ปราณกระบี่ที่หนาวเย็นก็กระตุ้นให้เยี่ยเว่ยหมิงเย็นสันหลังวาบแล้ว!
ในที่สุดก็อดใจไม่ได้ ต้องลงมือแล้วหรือ
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ พอใช้สองเท้าแตะพื้นเบาๆ ร่างก็พลันพุ่งขึ้นฟ้า หลบกระบี่ที่อันตรายถึงชีวิตของอีกฝ่ายได้พอดี
ทว่าแม้ผู้เล่นสาวสำนักหัวซานจะโจมตีไม่โดน แต่ท่ากระบี่ของนางกลับไม่หยุดนิ่ง กลับกระตุ้นให้ปราณกระบี่เข้มข้นขึ้นด้วยซ้ำ แทงตรงไปยังแขนหัวใจของหลี่เปียวที่แขนพิการไปแล้วข้างหนึ่ง!
-11543!
นางใช้ท่าไม้ตายเคล็ดกระบี่ที่มีพลังโจมตีร้ายกาจที่สุดของสำนักหัวซาน
ไร้เทียมทาน กระบี่แซ่หนิง!
ที่แท้แม้อีกฝ่ายจะมาถึงที่นี่แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีความคิดจะโจมตีเยี่ยเว่ยหมิง จุดประสงค์ของนางคือบีบให้เขาหลีกทาง เพื่อให้นางใช้ท่าไม้ตายบนตัวหลี่เปียวได้ก็เท่านั้นเอง
เมื่อถูกศิษย์สาวสำนักหัวซานโจมตีคริติคอลไปหนึ่งที ค่าพลังชีวิตของหลี่เปียวก็เหลือไม่ถึงหนึ่งหมื่นแล้ว
ส่วนอีกสี่คนที่อยู่ในทีม พอเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็ต่างคนต่างใช้ท่าไม้ตายทักทายบนตัวหลี่เปียวพร้อมกัน
ทว่ามีอยู่คนหนึ่งที่โจมตีเร็วกว่าพวกเขา!
แกร๊ง!
ตามด้วยเสียงโลหะฝ่าอากาศที่ดังเสียดหู
ลำแสงสีขาวสายหนึ่งนำหน้าทุกคนไปหนึ่งก้าว มันพุ่งลงมาจากฟ้า แล้วจมลงไปบนจุดไป่หุ่ยตรงกึ่งกลางศีรษะของหลี่เปียวแล้ว
-56001!
เป็นการโจมตีคริติคอลที่ทำให้ทุกคนทึ่งอีกแล้ว ทำให้หลี่เปียวเปลี่ยนจาก BOSS กลายเป็นผี BOSS ทันที!
วินาทีถัดมา เยี่ยเว่ยหมิงก็หมุนตัวเหยียบลงพื้น ยังไม่มีใครรีบไปดูศพของหลี่เปียว
ทุกคนกำลังมองหน้ากันเลิกลั่ก กำลังรอให้ประกาศระบบ ‘โจมตีสังหารหลี่เปียว’ ดังขึ้นข้างหูตัวเอง