ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 3 ชุดเฟยอวี๋ กระบี่ชิงเฟิง
ตอนที่ 3 ชุดเฟยอวี๋ กระบี่ชิงเฟิง
หมู่บ้านนี้ตั้งชื่อโดยใช้ชื่อของตู้คัง[1] การหมักสุราและการซื้อขายสุราคือเอกลักษณ์ของที่นี่ ตอนเพิ่งลงรถม้า เยี่ยเว่ยหมิงก็ได้กลิ่นสุราหอมอ่อนๆ อบอวลอยู่ในอากาศแล้ว ตามริมถนนหนทางมีแต่ร้านขายสุรา โรงเตี๊ยมรวมทั้งร้านแผงลอยที่ขายสุรากลายเป็นวัฒนธรรมสุราที่มีเอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้
ถ้าคุณคือคนที่รักในการดื่มสุรา จะต้องถูกสภาพแวดล้อมของที่นี่ดึงดูดจนถอนตัวไม่ขึ้น ต้องหาสหายสักสามถึงห้าคนมาตั้งวงดื่มจนไม่เมาไม่เลิกแน่นอน
ที่จริงเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้ชื่นชอบสุรา เขาเป็นคนประเภทที่ถ้าอยู่ลำพังจะไม่ดื่มสุราเด็ดขาด ต่อให้รวมตัวกับเพื่อนฝูง เขาก็ยังเป็นคนที่ดื่มแล้วแยกประเภทสุราไม่ออก ปากเขาแยกได้แค่ว่าสุราที่ดื่มเข้าไปคือเหล้าหมัก เหล้าขาว หรือเหล้าองุ่น
ประการแรกคือเขาไม่ได้รักสุรา อีกทั้งยังมาพร้อมภารกิจ จึงไม่มีอารมณ์จะมาชื่นชมวัฒนธรรมการดื่มสุราของที่นี่อยู่แล้ว เขามุ่งตรงไปยังสถานที่ทำภารกิจ นั่นก็คือบ้านของผู้เฒ่าหลี่
ส่วนสาเหตุว่าทำไมเขาถึงรู้ทางน่ะหรือ
คำตอบก็ไม่ได้ซับซ้อน ก็เพราะหมู่บ้านตู้คังคือหมู่บ้านมือใหม่ที่เยี่ยเว่ยหมิงเกิดอย่างไรล่ะ
ชายหนุ่มเดินมาตลอดทางจนถึงหน้าประตูบ้านผู้เฒ่าหลี่ แต่กลับได้ยินเสียงคนสองคนกำลังทะเลาะกันดังมาจากข้างในไม่หยุด
“ถึงผู้เฒ่าหลี่จะอายุปูนนี้แล้ว แต่ก็มองโลกแง่ดีมาก ไม่กี่วันก่อนเขายังวานให้ข้าไปหาวัสดุไม้ชั้นดีมาทำกระดานหมากล้อมให้อาเหรินอยู่เลย เมื่อวานตอนเที่ยง ข้าได้ยินท่านอาจ้าวช่างตีเหล็กข้างบ้านบอกว่า ผู้เฒ่าหลี่กำลังรวบรวมตำราคำนวณ เขาอยากจะมีความรู้กว้างขวางเพื่อพัฒนาฝีมือของตัวเอง”
ผู้พูดก็คือผู้เล่นสาวน้อยหน้าตาสวยสดใสคนหนึ่ง กำลังนับนิ้วบอกข้อมูลในช่วงไม่กี่วันมานี้ของผู้เฒ่าหลี่ จากนั้นก็ถามเสียงดังว่า “คนที่จิตใจมองโลกในแง่ดี เต็มไปด้วยความหวังและแรงบันดาลใจต่ออนาคตแบบนี้ จู่ๆ จะมาฆ่าตัวตายได้อย่างไร”
“เด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าจะเข้าใจอะไร” NPC คนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนหัวหน้ามือปราบค่อนข้างดูถูกคำถามของผู้เล่นหญิง “การไขคดีต้องเน้นหนักไปที่หลักฐาน ที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ ในห้องก็ไม่มีร่องรอยถูกปล้นด้วย อีกทั้งผู้ตายก็แขวนคออยู่บนขื่อบ้าน ถ้าไม่ใช่ฆ่าตัวตายแล้วจะถูกฆาตกรรมหรือ”
คนผู้นี้คือหัวหน้ามือปราบหลิว มาจากเมืองลั่วหยาง ได้รับคำสั่งให้มาตามจับแร้งตาเดียวโฉวป้า ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงอยู่หมู่บ้านมือใหม่ ก็เคยถามเบาะแสภารกิจจากเขามาแล้ว ข้างหลังเขายังมีมือปราบอีกสองคน เพียงแต่ยืนอยู่ตรงประตูอย่างสงบเสงี่ยม ไม่พูดอะไรสักคำ
สายตาของเยี่ยเว่ยหมิงหยุดอยู่บนศพของผู้เฒ่าหลี่ จู่ๆ หลังบ้านของระบบก็กะพริบข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบว่าบนหลังคอของผู้เฒ่าหลี่มีรอยนิ้วมือชัดเจนสามรอย]
[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…]
……
แบบนี้ก็ได้เหรอ?!
เหมือนกับว่าเมื่อมีสกิลนี้แล้ว ก็ไม่ต้องให้ตัวเองไปสืบหาเบาะแสอีกแล้ว ไขคดีอะไรกัน อย่าง่ายเกินไปอย่างนี้สิ!
เขาอ่านข้อความแจ้งเตือนของระบบจบทุกรายการแล้ว แต่สาวน้อยกับหัวหน้ามือปราบหลิวที่อยู่ข้างๆ กลับยังเถียงกันเรื่องสาเหตุการตายของผู้เฒ่าหลี่ไม่หยุด
เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็รู้ว่าได้เวลาอวดเก่งแล้ว…ฮึ ฮึ ได้เวลาโชว์ฝีมือการแสดงที่แท้จริงแล้ว! เขาก็เลยก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วเอ่ยปากก่อนว่า “ผูกคอตาย? ข้าว่าไม่แน่หรอก!”
“ใครกันพูดจาอวดดีไร้…” พอได้ยินว่ามีคนกำลังช่วยพูดให้ผู้เล่นผู้หญิง หัวหน้ามือปราบหลิวก็หันตัวมาอย่างหงุดหงิดทันที เพียงแต่เมื่อเขาเห็นการแต่งกายตั้งแต่ศีรษะจดเท้าของเยี่ยเว่ยหมิง สีหน้าที่เดิมทีหงุดหงิดก็พลันหายไป เปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มจอมปลอม “น้องชาย ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เหมือนพวกเราเคยเจอกันแล้ว ดูจากท่าทางเจ้าตอนนี้ อย่าบอกนะว่า…”
หลังจากผู้เล่นเข้าสำนักแล้ว จะใช้เงินและค่าผลงานสำนัก[2]มาแลกเครื่องแบบสำนักซึ่งมีคุณภาพสูงกว่าอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ ในท้องตลาดปัจจุบัน เครื่องแบบพวกนี้จะทำให้คาดการณ์ได้ว่าผู้เล่นอยู่สำนักไหน แค่มองการแต่งกายปราดเดียวก็แยกออกแล้ว
และสิ่งที่สำนักมือปราบเทพไม่เหมือนสำนักอื่นก็คือ ในฐานะที่สำนักมือปราบเทพเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของราชสำนัก ตอนที่เข้าสำนักมาจึงแจกเครื่องแบบสำนักให้ทันที ทั้งยังฟรีทั้งหมดด้วย ทั้งชุดมีสี่ชิ้น แบ่งเป็นชุดเฟยอวี๋[3] หมวกมือปราบฉางจง[4] รองเท้าขุนนาง[5] กระบี่ชิงเฟิง[6] สเตตัสล้วนเป็นคุณภาพสีฟ้า ในปัจจุบันที่ผู้เล่นเกลื่อนเกมไม่มีปัญญาซื้อแม้กระทั่งอุปกรณ์ทั่วไป อุปกรณ์ของเขานับว่าหรูหราสุดยอดแล้ว
แน่นอน การติดอุปกรณ์คุณภาพสูงสุดทั้งตัวไม่อาจทำให้ NPC มองคุณด้วยสายตาใหม่ได้ แต่อุปกรณ์บนตัวเยี่ยเว่ยหมิงชุดนี้กลับเป็นสิ่งที่แสดงถึงสถานะในสำนักมือปราบเทพ!
ตามที่ NPC จ่านเจาคนนั้นบอกไว้ สำนักมือปราบเทพคือหน่วยองครักษ์เสื้อแพรกับหน่วยลิ่วซ่านเหมิน[7]เดิมของราชสำนักรวมกัน โดยมีหวงโส่วจุนเป็นผู้นำด้วยตนเอง เป็นหน่วยงานที่รับหน้าที่ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยในยุทธภพโดยเฉพาะ ในระหว่างที่จัดการคดี จวนขุนนางท้องที่จะต้องให้ความร่วมมือกับทุกปฏิบัติการของสำนักมือปราบเทพอย่างไร้เงื่อนไข!
เยี่ยเว่ยหมิงแสดงป้ายอาญาสิทธิ์ของสำนักมือปราบเทพอย่างเปิดเผย ทำลายความระแวงสงสัยของมือปราบหลิวจนหมดสิ้นแล้ว ขณะเดียวกันก็เอ่ยว่า “ข้ามาเพื่อสืบหาสาเหตุการตายของผู้เฒ่าหลี่”
“ที่แท้จอมยุทธ์น้อยก็ได้เป็นใต้เท้าสำนักมือปราบเทพแล้วสินะ ขออภัยที่เสียมารยาท” ปากก็บอกว่าขออภัย แต่สายตาของหัวหน้ามือปราบหลิวที่มองเขากลับเต็มไปด้วยความจงใจหาเรื่อง “ฟังจากที่ใต้เท้าบอกกล่าวเมื่อสักครู่ คิดว่าผู้เฒ่าหลี่ไม่ได้ฆ่าตัวตายเหมือนกันหรือ”
“ใช่แล้ว!” เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า
“หึ หึ…” หัวหน้ามือปราบหลิวเผยรอยยิ้มดูถูก “ในเมื่อใต้เท้าเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักมือปราบเทพ ก็น่าจะรู้ว่าการตัดสินคดีนั้นเน้นหนักไปที่หลักฐานจริง คิดว่าท่านต้องไม่เหมือนแม่นางน้อยไร้ความรู้ผู้นั้นที่อาศัยแค่ความคิดของตัวเองมาตัดสินว่าผู้เฒ่าหลี่ถูกฆาตกรรมแน่นอน?”
เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงได้ยินดังนั้น ก็เพียงเดินเข้าไปกลางห้องอย่างสุขุม เขาเดินไปข้างศพของผู้เฒ่าหลี่ที่แขวนคออยู่บนขื่อบ้าน ชี้ไปตรงจุดจ้ำเลือดบนหลังคอผู้เฒ่าหลี่ที่ไม่ถูกเชือกปิดไว้ พร้อมบอกว่า “บนหลังคอของผู้เฒ่าหลี่มีรอยนิ้วมือชัดเจน กอปรกับเห็นได้ชัดว่าทิศทางการบิดของศีรษะแตกต่างกับคนผูกคอตายตามปกติ มีความเป็นไปได้เก้าในสิบว่าจะถูกยอดฝีมือใช้นิ้วบิดคอให้หักก่อน แล้วค่อยแขวนคอไว้บนนั้น”
“แต่ว่า…”
“เจ้าอย่าเพิ่งใจร้อน ข้ายังพูดไม่จบ” เยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อไปว่า “หน้าต่างหลังห้องเปิดอยู่ บนขอบหน้าต่างมีรอยเท้าหนึ่งรอยชัดเจน นี่ไม่ใช่รอยที่ผู้ร้ายทิ้งไว้ตอนหนีไปหรือ”
“เอ่อ…”
ทุกจุดน่าสงสัยที่เยี่ยเว่ยหมิงพูดออกมา ทำให้ผู้เล่นผู้หญิงตาเป็นประกาย ต้องข่มใจไม่ให้ส่งเสียงเชียร์ ส่วนหัวหน้ามือปราบหลิวก็ยิ่งฟังยิ่งสีหน้ามืดครึ้ม ตอนนี้มืดครึ้มจนจะกลั่นน้ำฝนออกมาอยู่แล้ว
ยังไม่ทันรอให้เขาได้เถียงอะไรอีก เยี่ยเว่ยหมิงก็หยิบเก้าอี้บนพื้นขึ้นมา แล้วนำมาตั้งใต้เท้าผู้เฒ่าหลี่ เก้าอี้อยู่ห่างจากปลายเท้าผู้เฒ่าหลี่ที่ลอยอยู่กลางอากาศครึ่งฉื่อ
จนกระทั่งตอนนี้ ความจริงที่ว่าผู้เฒ่าหลี่ถูกฆาตกรรมก็ไม่มีข้อโต้แย้งอีก เพราะคนที่ฆ่าตัวตาย จะไม่ผูกเชือกไว้สูงกว่าศีรษะตัวเองเด็ดขาด!
ตอนนี้มือปราบหลิวถึงได้ทำท่าเหมือนเข้าใจกระจ่างในฉับพลัน พูดคล้อยตามว่า “ตามที่ใต้เท้าบอก ผู้เฒ่าหลี่คนนี้จะต้องโดนฆาตกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งมีความเป็นไปไปได้สูงว่าผู้ร้ายจะเป็นยอดฝีมือที่มีทักษะเยี่ยมยุทธ์ เดี๋ยวผู้น้อยจะกลับจวนว่าการ รายงานเรื่องนี้ขึ้นไปให้ใต้เท้าที่จวนทราบเดี๋ยวนี้ จะให้เขาส่งคนมาเพิ่มเพื่อช่วยใต้เท้าจับโจร!”
ลื่นเป็นปลาไหลเลยนะ!
เยี่ยเว่ยหมิงแอบด่าในใจ โบกมืออย่างทนรำคาญไม่ไหวนิดหน่อย “ในเมื่อคดีนี้เกี่ยวข้องกับคนในยุทธภพ ก็ย่อมมีสำนักมือปราบเทพมาดูแลต่อ ตรงนี้ไม่มีธุระของเจ้าแล้ว”
หัวหน้ามือปราบหลิวได้ยินแล้วดีใจมาก เปลี่ยนท่าทีโอหังก่อนหน้านี้ทันที โค้งกายกุมหมัดคารวะเยี่ยเว่ยหมิงอย่างนอบน้อมมาก “ผู้น้อยน้อมรับคำสั่ง! หากใต้เท้ามีอะไรจะกำชับ ก็มาหาผู้น้อยได้ทุกเมื่อ ผู้น้อยจะให้ความร่วมมือใต้เท้าจับกุมผู้ร้ายตัวจริงอย่างสุดกำลัง”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า ไม่เกรงใจแล้วเช่นกัน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยไปเตรียมม้วนเสื่อมาให้ข้าก็พอ”
“ผู้น้อยรับบัญชา!”
หัวหน้ามือปราบหลิวนำสองมือปราบหันตัวเดินจากไป แต่สาวน้อยกลับเข้ามาต้อนรับทันที “พี่ชายท่านนี้ สวัสดีเจ้าค่ะ ข้าชื่อซานเย่ว์ ได้รับภารกิจให้มาสืบหาสาเหตุการตายของผู้เฒ่าหลี่เหมือนกัน ในเมื่อพวกเรามีเป้าหมายภารกิจเหมือนกัน เช่นนั้นพวกเราร่วมมือกัน พาข้าไปทำภารกิจนี้ให้สำเร็จด้วยกันดีหรือไม่”
ขณะที่เธอพูด ก็เป็นฝ่ายส่งคำขอเป็นเพื่อนเยี่ยเว่ยหมิงก่อนแล้ว
“ข้าชื่อเยี่ยเว่ยหมิง” ขณะบอก ID เกมของตัวเอง เยี่ยเว่ยหมิงก็ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของอีกฝ่าย จากนั้นก็ส่งคำขอตั้งทีมให้อีกฝ่ายด้วย
ซานเย่ว์เข้าทีมแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงถามเรื่อยเปื่อยว่า “สำหรับภารกิจนี้ เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร”
“ข้าก็สงสัยหัวหน้ามือปราบหลิวนั่นละ อย่างน้อยเขาก็น่าจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางอธิบายพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผลของเขาก่อนหน้านี้ได้เลย” ซานเย่ว์ตอบอย่างฉุนเฉียว
[1] ตู้คัง 杜康 ตามประวัติศาสตร์จีน เชื่อว่าในสมัยราชวงศ์เซี่ย เขาคือผู้ผลิตสุราเป็นคนแรก ได้รับขนานนามว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสุรา
[2] ค่าผลงานสำนัก ผู้เล่นจะได้รับแต้มนี้เพิ่มเมื่อทำภารกิจที่สำนักมอบหมายสำเร็จ
[3] ชุดเฟยอวี๋ 飞鱼服 แปลตามตัวคือชุดปลาบิน เป็นชุดที่มีแขนยาวและแคบ ช่วงล่างจับจีบรอบตัว ปักลายปลาบิน ซึ่งปลาบินจะมีหัวและตัวดูคล้ายมังกร มีกรงเล็กสี่อัน มีปีกและมีหางเป็นแพสองซีกคล้ายปลา มักจะพบเห็นชุดแบบนี้ในบทบาทขององครักษ์เสื้อแพรหรือเจ้าหน้าที่ของทางการ
[4] หมวกมือปราบฉางจง 缠棕帽 เป็นหมวกขุนนางที่ใช้ในพิธีการ เป็นหมวกทรงสูงสีดำ ปีกหมวกเล็กมาก
[5] รองเท้าขุนนาง 长筒官靴 มีลักษณะยาวเหมือนรองเท้าบูท
[6] กระบี่ชิงเฟิง 青锋剑 แปลตามตัวได้ว่ากระบี่ยอดเขาเขียว มีความแหลมคมมาก
[7] หน่วยลิ่วซ่านเหมิน六扇门หน่วยงานราชการอย่างหนึ่ง บ้างก็ว่ามาจาก “สามสำนักหกกรม” บ้างก็ว่าหน่วยลิ่วซ่านเหมินที่ไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงคำเปรียบเปรยถึงการรับราชการ