ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 314 เทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่น
ตอนที่ 314 เทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่น
พอได้ยินชื่อเทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่น ผู้เล่นในโถงใหญ่ก็มองไปทางศาลาเจินถู่ด้วยสายตาตกตะลึง พร้อมกัน
แล้วตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวคำว่า ‘เจดีย์สยบปีศาจน้ำ’ ออกมา สายตาที่ทุกคนมองมายังศาลาเจินสุ่ยกลับเต็มไปด้วยความเวทนา คิดว่าคนที่อยู่ในศาลาเจินสุ่ยไปล่วงเกินยอดฝีมือผู้โด่งดังเข้าแล้ว ไม่รู้จักประเมินกำลังตัวเอง!
ในห้องส่วนตัวศาลาเจินสุ่ย ซานเย่ว์อธิบายเสียงเบาว่า “อาหมิง ช่วงนี้เจ้ามัวยุ่งอยู่กับภารกิจอะไร ถ้าไม่ได้สนใจเรื่องของสำนักใหญ่ต่างๆ เจ้าก็อาจจะไม่รู้ เทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่นนั่น เดิมทีก็มีศักยภาพแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว ถนัดใช้กระบองเมา ทั้งยังเรียน ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ มาแล้วไม่รู้ตั้งกี่กระบวนท่า ได้ฉายาว่าฝ่ามือกระบองไร้เทียมทาน ยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของพรรคกระยาจก ไม่เพียงแค่มีความสามารถ ฐานะในพรรคยังสูงมากด้วย”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วเลิกคิ้ว “ดังนั้น ข้าก็ควรจะให้ท้ายเขาอย่างนั้นหรือ”
ซานเย่ว์ยักไหล่ สื่อว่าตัวเองแค่ให้ข้อมูลของอีกฝ่ายเท่านั้น จะให้ท้ายหรือไม่ให้ท้ายเจ้าก็จัดการเองตามเห็นสมควร
ตอนนี้เอง น้องดาบที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟากลับยกเครื่องประมูลขึ้นมาแล้วบอกทันทีว่า “ขี้เหล้าอย่างเจ้ากล้ามาทำตัวเป็นหมาป่าอวดหางต่อหน้าข้าอย่างนั้นหรือ…
…วันนี้หนึ่งดาบสามเฉือนขอประกาศไว้ตรงนี้ เจอกันบนสังเวียนหลังจบงานประมูลขาย สู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง เดิมพันหนึ่งพันเหรียญทอง เจ้ากล้าไหม”
พอได้ยินน้องดาบเปิดเผยชื่อตัวเอง ลักษณะท่าทางเปี่ยมพลังอำนาจของเทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่นก็อ่อนลงทันที
เห็นได้ชัดมากกว่ายอดฝีมือพรรคกระยาจกคนนี้เคยเสียเปรียบให้น้องดาบมาก่อน
แม้ตอนนี้เวลาจะผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ทักษะยุทธ์ของเขาก้าวหน้ากว่าเมื่อก่อนมาก แต่ใครจะกล้ารับประกันว่าน้องดาบย่ำอยู่ที่เดิมตลอด
ถ้าจะให้สู้กัน เขาก็ไม่มีความมั่นใจเลยจริงๆ
แต่ถ้าไม่สู้ เขาก็คงอับอายขายขี้หน้าไปยันตระกูลของท่านย่าแล้ว
หลังจากเงียบไปครู่เดียว จู่ๆ เทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่นก็คิดอะไรขึ้นได้ เขาทำเสียงฮึดฮัดแล้วบอกว่า “ข้าขี้คร้านจะถือสาผู้หญิงความรู้พื้นๆ อย่างเจ้า”
แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ก็ทำให้คนรู้สึกว่าเขากลัวน้องดาบอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าพูดโดยอ้างความเป็นบุรุษสตรี เขาก็ยังรักษาหน้าตาศักดิ์ศรีไว้ได้พอสมควร ยกตัวอย่างเช่นด้านล่างเวที มีคนไม่น้อยเริ่มกระซิบกระซาบกันแล้ว เริ่มระดมสมองจินตนาการถึงเรื่องราวความรักความแค้นระหว่างยอดฝีมือและสาวงามไปต่างๆ นานา
สำหรับสถานการณ์แบบนี้ แม้น้องดาบจะแค้นจนกัดฟันกรอด แต่กลับไม่คิดจะทำอะไร
ถ้านางแก้ตัวต่อไป ก็มีแต่ยิ่งดูมีพิรุธ
ทว่าต่อให้น้องดาบไม่มีทางทำอะไรได้ แต่เยี่ยเว่ยหมิงมีทาง!
ตอนที่เทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่นแอบรู้สึกโล่งใจเงียบๆ เตรียมจะทำให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปอย่างแนบเนียน จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงกลับยกเครื่องประมูลขึ้นมาอีก กระแอมหนึ่งทีแล้วพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุด “ข้าว่านะ อาเสือ ที่จริงข้าก็สนับสนุนความคิดของเจ้านะ ผู้ชายก็ควรสู้กับผู้ชาย ไปสู้กับผู้หญิงถือว่าเก่งตรงไหน…
…เจ้าดูสิ ข้าก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน อีกประเดี๋ยวหลังจากจบงานประมูลขาย พวกเราสองคนไปประลองกันสักหน่อยไหม…
…ข้าไม่เหมือนนางหรอกนะ พออ้าปากก็เสนอหนึ่งพันเหรียญทองเลย เป็นราคาที่สูงเกินไปจริงๆ!” ตอนที่กำลังพูด รอยยิ้มของเยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มดูไร้ศีลธรรมขึ้นเรื่อยๆ “พวกเราเดิมพันเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความบันเทิง แลกเปลี่ยนมิตรภาพกัน ข้ารู้สึกว่าสามพันเหรียญทองกำลังดี”
ตอนนี้น้องดาบกลับถือเครื่องประมูลขึ้นมา แล้วโวยวายอย่างไม่พอใจมาก “นี่! เจ้ามือปราบหน้าเหม็น ข้าพูดก่อนแท้ๆ เจ้ามาแย่งข้าได้อย่างไร”
“แต่เห็นๆ กันอยู่ว่าอีกฝ่ายไม่ยอมสู้กับเจ้า” เยี่ยเว่ยหมิงตอบ
“เขาไม่กล้าไง!” น้องดาบเถียง
“ถึงอย่างไรเขาก็ไม่สู้กับเจ้า ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่หลีกทางให้ข้าเสียเลย” เยี่ยเว่ยหมิงถาม
น้องดาบแสยะยิ้ม “เจ้ามั่นใจหรือว่าตัวเองจะชนะ”
เยี่ยเว่ยหมิงแสยะยิ้มตอบ “ขนาดเจ้ายังไม่กลัว แล้วข้าจะกลัวทำไม”
“ก็หมายความว่า ข้าสู้เจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ” น้องดาบโมโห
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มเย้ย “ดูจากท่าทางของเขา ก็เหมือนไม่คิดจะตอบรับคำท้า หรือพวกเราจะสู้กันเองดีล่ะ เดิมพันสามพันเหรียญทอง”
“ถ้าเจ้าเก่งนักก็อย่าใช้วิธีการไร้ยางอายพวกนั้น…”
“ทักษะยุทธ์มีแค่การแบ่งแยกสูงต่ำ เจ้าพูดคำว่าไร้ยางอายได้อย่างไร”
……
“เอ่อ คือ ทั้งสองท่านที่อยู่ในศาลาเจินสุ่ย” พอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบต่างคนต่างถือเครื่องประมูลและเริ่มเถียงกัน ผู้ขายประมูลก็ยืนขึ้นไกล่เกลี่ยด้วยสีหน้าดำมืด “ร้านประมูลวั่นซานของพวกเรา เป็นสถานที่ประมูลขายของล้ำค่าตามชื่อ ไม่ใช่สังเวียน ไม่ใช่ไม่ใช่โรงละครด้วย พวกเรามาประมูลขายสินค้ากันต่อดีไหม”
“ขออภัยที่รบกวน…” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าว
พอวางเครื่องประมูล เยี่ยเว่ยหมิงก็ชำเลืองน้องดาบอย่างจนใจ “ธุรกิจสามพันเหรียญทองที่ไม่ต้องลงทุน เจ้าทำลายมันไปแล้ว”
“เดิมทีมันเป็นธุรกิจของข้า เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาชุบมือเปิบ”
“ที่จริงพวกเราร่วมมือกันได้นะ” เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “ดูจากท่าทีของเทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่นเมื่อครู่นี้ก็รู้แล้ว เขาไม่กล้าเดิมพันกับเจ้าแน่ๆ แต่เขาไม่รู้จักความสามารถของข้า เมื่อครู่นี้ขอเพียงพวกเราร่วมมือกันแสดงละคร ทำให้เขาคิดว่าข้าความสามารถด้อยกว่าเจ้า เขาคงตอบรับเพราะกลัวเสียหน้าไปแล้ว ถึงตอนนั้นพอได้เงินมา พวกเราค่อยแบ่งกันสามส่วนเจ็ดส่วน เจ้าสามข้าเจ็ด เป็นเรื่องดีมากไม่ใช่หรอกหรือ”
สำหรับแผนการสกปรกไร้ยางอายแบบนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบกลับถามเหมือนเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล “ทำไมเจ้าไม่บอกให้เร็วกว่านี้”
หลังจากการก่อกวนของเทียนหวังขอร้องเสือเจ้าถิ่น แม้การเดิมพันต่อสู้จะไม่บรรลุผล แต่ก็ทำให้ทุกคนได้รู้ความจริงแล้วว่าไม่ควรไปมีเรื่องกับคู่ชายหญิงที่อยู่ในศาลาเจินสุ่ย การประมูลขายสินค้าในตอนหลังจึงราบรื่นขึ้นเยอะ
ยาลูกกลอนโชคลาภอมตะเม็ดที่สองย่อมตกอยู่ในมือของน้องดาบแล้ว จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ได้เม็ดที่สามไปในราคาสามร้อยเหรียญทอง
ถึงขั้นว่าแม้แต่ปลาหลีฮื้อทองที่ประมูลขายกันตอนหลัง พวกเขาก็ประมูลซื้อมาได้อย่างราบรื่นด้วยเงินสองพันเหรียญทอง
ส่วนประกาศิตสร้างพรรคที่ประมูลขายรายการหลังสุด พวกเขาก็ไม่มีเจตนาที่จะดึงราคาให้สูง ได้แต่ดูสถานการณ์เงียบๆ
ในระหว่างนั้น จู่ๆ ซานเย่ว์ก็เอ่ยถึงเรื่องเก่าด้วยความอยากรู้อยากเห็น “อาหมิง จะว่าไปแล้ว ภารกิจสุดยอดวิชานั่นของเจ้าต้องหาของอะไรบ้างนะ ช่วงนี้ข้าไปเดินตลาดบ่อย จะให้ข้าช่วยดูให้เจ้าหน่อยไหม”
พอได้ยินซานเย่ว์ยินดีเสนอตัวช่วยเหลือ เยี่ยเว่ยหมิงก็ฮึกเหิมทันที จากนั้นบอกว่า “ภารกิจนั้นเดิมทีต้องใช้วัตถุดิบยาเจ็ดชนิด ตอนนี้ถ้ารวมกับปลาหลีฮื้อทอง ข้าก็ได้มาสามชนิดแล้ว ยังเหลืออีกสี่ชนิด ก็คือ ท้อสวรรค์คุนหลุน ปลาขาวบึงหนาว ยาเปลี่ยนเส้นเอ็นกับน้ำดีจิ้งจอกหิมะ”
พอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดชื่อวัตถุดิบยาสี่ชนิดนี้ ซานเย่ว์ก็นำกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาบันทึกทันที
แต่สะพานสวรรค์น้อยที่อยู่อีกฝั่ง จู่ๆ กลับพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่เยี่ย ปลาขาวบึงหนาวที่เจ้าบอกคือปลาขาวบึงหนาวที่มีแห่งกำเนิดจากใต้หน้าผาลำไส้ขาดตรงก้นหุบเขาไร้รักใช่ไหม”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “เจ้าก็รู้จักเหมือนกันหรือ”
“ข้าไม่เพียงแค่รู้จักนะ ทั้งยังเคยกินด้วย!” สะพานสวรรค์น้อยกล่าวอย่างตื่นเต้น “ปลาขาวบึงหนาวนั่นคือของดีที่ช่วยต้านพิษและเพิ่มค่าสเตตัสโดยรวมได้แบบถาวร ถ้ากินกับยาผึ้งหยก ก็จะได้ผลเป็นสองเท่า!…
…เพียงแต่ปลาขาวชนิดนั้น ทั้งสุสานโบราณมีเพียงหนึ่งร้อยตัวเท่านั้น กินหนึ่งตัวก็หมดไปหนึ่งตัว หลังจากผู้เล่นสำนักสุสานโบราณทุกคนผ่านบททดสอบแล้ว ก็จะใช้ค่าผลงานสำนักมาแลกได้ เพียงแต่ผู้เล่นทุกคนกินได้มากสุดสามเม็ดเท่านั้น กินมากกว่านี้จะไม่ได้ผลอีกแล้ว…
…จำนวนที่ข้ากินไปถึงขีดจำกัดแล้ว ขอทำภารกิจท้าสู้เพื่อรับปลาขาวไม่ได้อีกแล้ว แต่ถ้าพี่ใหญ่เยี่ยสนใจ ข้าก็กลับสำนักไปช่วยถามให้ท่านได้”