ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 36 เคล็ดวิชาจักรวาลและวิชาราชสีห์คำราม
ตอนที่ 36 เคล็ดวิชาจักรวาลและวิชาราชสีห์คำราม
เมื่อเซี่ยซุนพูดจบ ในช่องทีมก็มีข้อความของอินปู้คุยปรากฎ [สหายเยี่ย ต้องพึ่งเจ้าแล้ว]
เป็นอย่างที่คาดไว้ ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนี่ไม่ได้เอ่ยถึงประเภทตำราลับที่ตัวเองต้องเลือกทันที เขาเตรียมจะรอให้เยี่ยเว่ยหมิงผ่านการทดสอบด้วยกันก่อน จะรอดูว่ามีหนทางอะไรเพื่อขยายผลประโยชน์ให้มากขึ้นอีกขั้นได้หรือไม่
เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง หลังจากยิ้มบางๆ ก็บอกเซี่ยซุนตามตรงว่า “ผู้อาวุโสเซี่ยเป็นผู้กุมรางวัลภารกิจเอาไว้ จะให้ตำราลับอะไรกับข้าก็ย่อมเป็นสิทธิ์ของผู้อาวุโส ขอเพียงท่านเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเองมากที่สุดก็เพียงพอแล้ว”
“น่าสนใจ” แม้จะเป็นคำพูดเดียวกัน แต่หากพูดออกมาจากปากผู้เล่นทั่วไป เซี่ยซุนก็มีแต่จะรู้สึกว่าเป็นคำพูดเหลวไหล เพียงแต่ท่ากระบี่อันน่าทึ่งของเยี่ยเว่ยหมิงตราตรึงใจเขาเกินไป จึงถือโอกาสถามว่า “ไหนเจ้าลองว่ามา เลือกตำราลับอย่างไรถึงจะมีประโยชน์ต่อข้าที่สุด”
“ครอบคลุมหลายอย่าง” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเสียงเรียบ “ยกตัวอย่างเช่น ผู้อาวุโสมีสุดยอดวิชาอันน่าภาคภูมิใจอะไรที่ต้องถ่ายทอดต่อหรือเปล่า หรือไม่ก็…มีวิชาอะไรที่ถ่ายทอดให้พวกเราแล้วทำให้ท่านรู้สึกสบายใจ หรือเป็นวิชาที่ทำให้ศัตรูของท่านไม่สบอารมณ์สุดๆ อะไรประมาณนั้นขอรับ…”
ตอนเริ่มแรก สายตาของเซี่ยซุนที่มองเยี่ยเว่ยหมิงยังแฝงความหมายประมาณว่า ‘ดูจากท่าทางไร้ยางอายของเจ้าแล้ว เหมือนลักษณะของข้าตอนยังเป็นหนุ่มเลย’ เพียงแต่ตอนที่เขาได้ฟังจนถึงประโยคสุดท้าย กลับตาเป็นประกายฉับพลัน รอยยิ้มเริ่มเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “หากเป็นเช่นนี้ ข้าก็พิจารณาจะเพิ่มรางวัลให้พวกเจ้าอีกระดับได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะกล้าเรียนหรือเปล่า”
“ก็ต้องกล้าอยู่แล้วสิ!” เยี่ยเว่ยหมิงถามพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสเตรียมจะส่งต่อวิชาอะไรให้พวกเรา”
“เอาไป!”
เซี่ยซุนกล่าวพร้อมโบกมือ ตำราลับสองเล่มปลิวไปทางเยี่ยเว่ยหมิงและอินปู้คุย ทั้งสองคนยื่นมือรับไว้พร้อมกัน แล้วเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น กล่าวได้ว่ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณผ่าน ‘การทดสอบของราชสีห์ขนทอง’ แล้ว ได้รับรางวัลภารกิจ:
ค่าประสบการณ์ 10000 แต้ม
ค่าตบะ 1000 แต้ม
ชื่อเสียงยุทธภพ 100 แต้ม
ตำราลับกำลังภายในระดับสูง ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ×1!]
[เคล็ดวิชาจักรวาล (ระดับสูง): หัตถ์อัสนีบาตจักรวาล กำลังภายในอันโด่งดังของเฉิงคุน
เงื่อนไขการฝึก: สติปัญญา30
ค่าตระหนักรู้ 30 แต้ม
กำลังภายในพื้นฐาน ‘เคล็ดชำระปราณ’ เลเวล 10]
ไม่น่าเชื่อว่า ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ นี้จะเป็นเคล็ดวิชาอัปเกรดของ ‘เคล็ดชำระปราณ’!
แม้จะเรียกว่าเคล็ดวิชาอัปเกรด แต่หากจะพูดให้ชัด นี่ก็คือเคล็ดวิชาเวอร์ชั่นที่ประสิทธิภาพดีขึ้นหลังจากตัดสิ่งยุ่งยากและเก็บส่วนยอดเยี่ยมของเคล็ดวิชาพื้นฐานเอาไว้ ในสถานการณ์ทั่วไปต้องรอให้เคล็ดวิชาพื้นฐานอัปถึงเลเวลที่กำหนดก่อนถึงจะฝึกได้ เคล็ดวิชาประเภทนี้โดยทั่วไปล้วนอยู่ในวิทยายุทธ์ของสำนัก สิ่งที่เน้นคือความก้าวหน้าตามลำดับขั้นตอน เมื่อเทียบกับวิทยายุทธ์อื่นที่อยู่ในเลเวลเดียวกัน ในด้านประสิทธิภาพอาจไม่เหนือกว่าเท่าไรนัก แต่ในด้านเงื่อนไขการฝึกกลับไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น
ยกตัวอย่างเช่น ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ เล่มนี้ แม้เงื่อนไขของค่าสติปัญญาและค่าตระหนักรู้จะอยู่ในขั้นที่เยี่ยเว่ยหมิงยังเอื้อมไม่ถึง แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เงื่อนไขสามสิบแต้มก็ไม่ถือว่าขอมากเกินไป หากพยายามดูสักหน่อย ก็ยังมีหวังว่าจะเติมเต็มเงื่อนไขการฝึกได้ในเวลาอันสั้น
ในช่องทีม
อินปู้คุย [ใช้ประโยชน์จากความแค้นของเซี่ยซุนกับเฉิงคุนมาเพิ่มระดับรางวัลเคล็ดวิชา เจ้านี่ช่างคิดวิธีการอย่างนี้ได้นะ ‘วิชาราชสีห์คำราม’ คือรางวัลภารกิจของข้า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นวิทยายุทธ์ระดับกลาง แล้วเจ้าได้รางวัลอะไรไป]
เยี่ยเว่ยหมิงกดรับค่าสเตตัสของวิชาราชสีห์คำรามมาดูครู่หนึ่ง
[วิชาราชสีห์คำราม (ระดับกลาง): เคล็ดวิชาพิเศษที่เซี่ยซุนได้รับจากเฉิงคุน หัตถ์อัสนีบาตจักรวาล เป็นสกิลทำดาเมจหมู่ประเภทคลื่นเสียง
เงื่อนไขการฝึก: กำลังภายในสูงสุด 2000 แต้ม]
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าแล้วตอบว่า [ก็ไม่แย่นะ ข้าจะพยายามเพิ่มกำลังภายในเพื่อฝึก ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ แล้วกัน]
อินปู้คุย [ยอดไปเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นกำลังภายในระดับสูง! เจ้าหมอนี่…แต่กำลังภายในนี้ต้องฝึก ‘เคล็ดชำระปราณ’ ให้ถึงเลเวลสิบก่อน มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า ถึงอย่างไรก็เป็นกำลังภายในที่กากที่สุด ต่อไปจะต้องถูกคัดทิ้งแน่นอน ใช้ค่าตบะไปกับเคล็ดวิชานั้นก็มีแต่จะสิ้นเปลือง]
สำหรับคำเตือนของอินปู้คุย เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้สนใจเท่าไร สำนักมือปราบเทพไม่มีวิทยายุทธ์สำนัก เมื่อเทียบกับผู้เล่นคนอื่น เขาขาดช่องทางที่เรียบง่ายที่สุดในการได้รับทักษะยุทธ์ ดังนั้นทักษะยุทธ์ที่เขาเลือกได้ เดิมทีก็มีไม่มากอยู่แล้ว รอให้ถึงวันที่ทักษะยุทธ์ของเขาเยอะขึ้นจนต้องลืมวิทยายุทธ์ไปหนึ่งวิชาเพื่อเว้นที่ว่างให้ทักษะยุทธ์อื่น ค่าตบะเล็กน้อยที่ต้องใช้ฝึก ‘เคล็ดชำระปราณ’ ก็คงไม่อยู่ในสายตาของเขาแล้วกระมัง
“ตอนนี้ประกาศรางวัลภารกิจเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าสองคนก็ไสหัวไปได้แล้วเหมือนกัน” เซี่ยซุนโบกมือ จากนั้นกล่าวเสริมว่า “สุดท้ายยังต้องเตือนพวกเจ้าอีกสักหน่อย ผ่านการทดสอบของข้าได้ ไม่ได้แปลว่าจะราบรื่นทุกอย่าง ก่อนที่พวกเจ้าจะแยกย้ายกันกลับไปส่งภารกิจที่สำนักตัวเอง ภารกิจนี้ก็ถือว่ายังไม่สิ้นสุด…
…ถ้าพวกเจ้าตายก่อนได้ส่งภารกิจ ตำราลับที่เพิ่งได้มาไว้ในมือ ผู้เล่นคนอื่นก็มีโอกาสดรอปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เชียวนะ”
เซี่ยซุนพูดจบแล้วโบกมือ เยี่ยเว่ยหมิงกับอินปู้คุยถูกส่งออกจากดันเจี้ยนพร้อมกัน ปรากฏร่างอยู่ใต้เวทีไม้อีกครั้ง ส่วนตรงหน้าก็เป็นฉากเซี่ยซุนถือดาบฆ่ามังกรล้ำค่าสังหารหมู่อยู่บนเวที
เยี่ยเว่ยหมิงมองแถบพลังชีวิตตัวเอง แล้วรีบกินยาเม็ดเสริมพลังชีวิตเม็ดหนึ่ง ตอนนี้เขาถึงได้ฟื้นฟูค่าพลังชีวิตไปด้วย กดสังเกตเรียนรู้ฉากอันยอดเยี่ยมที่เซี่ยซุนสู้กับกลุ่มวีรบุรุษไปด้วยได้อย่างสงบใจ
[ติ๊ง! คุณสังเกตเรียนรู้การต่อสู้ของยอดฝีมือ ได้ความรู้มากมาย ค่าประสบการณ์ +10!]
[ติ๊ง! คุณสังเกตเรียนรู้…]
ทุกหนึ่งนาที ระบบยังเด้งข้อความแจ้งเตือนออกมาหนึ่งแถว แม้ค่าประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นจะไม่เยอะ แต่ก็เป็นเหมือนสินเบี้ยใกล้มือ
เป็นอย่างนี้อยู่สิบนาทีกว่า คู่สามีภรรยาอย่างจางชุ่ยซานกับอินซู่ซู่ถึงได้เดินเนิบนาบออกมา หลังจากนั้นก็มีฉากตามโครงเรื่องอันน่าตื่นตาตามมาอีกเป็นพรวน ค่าประสบการณ์ที่เพิ่มทุกนาทีในระหว่างนั้นก็เพิ่มขึ้นจากของเดิมสิบแต้มแล้วเช่นกัน กลายเป็นหนึ่งพันแต้มแล้ว ต่อให้เทียบกับการโจมตีมอนสเตอร์แบบต่อเนื่อง ก็ไม่ถือว่าเพิ่มช้าเลยสักนิด
ฉากตามโครงเรื่องก็ประมาณว่า จางชุ่ยซานทนเห็นคนในยุทธภพเหล่านี้ถูกเซี่ยซุนสังหารโดยไร้ความผิดไม่ไหว จึงออกหน้าท้าสู้เซี่ยซุน จากนั้นก็ทิ้งตัวอักษรยี่สิบสี่ตัวเอาไว้
ราชันยุทธภพ ดาบล้ำค่าฆ่ามังกร
บัญชาใต้หล้า มิกล้าขัดขืน
อิงฟ้าไม่ปรากฏ ใครหาญต่อกร
เนื้อหาของอักษรที่เขียนเหมือนกับที่เสวียนเสี่ยวปี่เขียนก่อนหน้านี้ไม่มีผิด แต่เมื่อจางชุ่ยซานเขียนออกมา ตัวอักษรทุกตัวกลับแฝงวิทยายุทธ์ที่สูงส่งลึกล้ำ ขนาดเซี่ยซุนได้เห็นแล้วก็มีแต่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างจริงใจ
เพียงแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ เซี่ยซุนก็ยังไม่คิดจะปล่อยคนอื่นที่อยู่ตรงนี้ไป แม้จางชุ่ยซานจะชนะแล้ว แต่ก็ช่วยชีวิตได้เพียงเขากับอินซู่ซู่สองคนเท่านั้น
พอเซี่ยซุนส่งเสียงราชสีห์คำราม NPC ทั้งหมดก็ล้มกลิ้งบนพื้น ยิ่งไปกว่านั้น บางส่วนก็ตายเพราะแรงสะเทือนโดยตรง ผู้เล่นที่อยู่ในนั้นกลายเป็นแสงสีขาวไปแล้ว ส่วน NPC ก็กลายเป็นศพ
ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงกับอินปู้คุย…
[ติ๊ง! เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณผ่านการทดสอบของเซี่ยซุน ทำให้หลบดาเมจของวิชาราชสีห์คำรามในครั้งนี้ไปได้]
ดูจากการแจ้งเตือนนี้ของระบบก็รู้แล้ว ว่าคนที่ตายเพราะวิชาราชสีห์คำราม ล้วนเป็นผู้เล่นที่ไม่ยอมเข้าดันเจี้ยนฝึกฝน แต่หวังจะปะปนผ่านด่านไป
หลังจากอาศัยวิชาคลื่นเสียงทำภารกิจเคลียร์สนามสำเร็จ เซี่ยซุนก็หนีบจางชุ่ยซานกับอินซู่ซู่ออกจากเกาะเขาหวังผานไป อีกทั้งเรือลำอื่นก็ถูกเขาทำลายไว้ก่อนแล้ว ล้วนถูกทำลายพังก่อนที่เขาจะลงมือเสียอีก
เกาะเขาหวังผานในตอนนี้ กลายเป็นเกาะร้างโดดเดี่ยวแล้ว!
ตอนพวกผู้เล่นที่โชคดีรอดชีวิตทำสีหน้าเหม่อลอยมึนงง ประกาศเขตพื้นที่ก็ดังขึ้นในหูของผู้เล่นทุกคนบนเขาหวังผาน
[ประกาศเขตพื้นที่: แจ้งเตือนพิเศษแก่ผู้เล่นทุกคนบนเกาะเขาหวังผาน ท่าเรือของเกาะจะกลับมามีเรือผ่านในอีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้ ในระหว่างนี้ขอให้ผู้เล่นทุกคนรักษาตัวเองให้ดี]
“เชอะ!” เมื่อได้ยินประกาศเขตพื้นที่จากระบบ ผู้เล่นคนหนึ่งที่โชคดีรอดชีวิตก็ยิ้มเย้ยดูถูก “ขนาดเซี่ยซุนยังหนีไปแล้ว ตอนนี้เกาะเขาหวังผานเรี่ยราดไปหมด ยังจะมีอันตรายอะไรได้อีก มาบอกให้รักษาตัวเองให้ดีอย่างนั้นหรือ ช่างสิ้นเปลือง…อุบ!”
ผู้เล่นคนนั้นยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็ถูกคราดเหล็กด้ามหนึ่งแทงบนจุดสำคัญข้างหลังอย่างระบุเจาะจงไม่ได้
-256
โจมตีคริติคอล!
ผู้เล่นคนนั้นหันกลับมามองด้วยความตกตะลึง แต่กลับเห็นกลุ่มคนพรรคปลาวาฬที่เลือดออกจากรูทวารทั้งเจ็ดกำลังโจมตีมาทางเขาราวกับเป็นบ้าไปแล้ว
[กลุ่มคนพรรคปลาวาฬที่คลุ้มคลั่ง
เลเวล: 20
พลังชีวิต: 1200/1200
กำลังภายใน: 400/400
ทักษะยุทธ์: สังหารพันปี]