ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 467 บุกเดี่ยวอย่างกล้าหาญ มือสังหารหนิวจื้อชุน
ตอนที่ 467 บุกเดี่ยวอย่างกล้าหาญ มือสังหารหนิวจื้อชุน
“ท่านอ๋องต้วน อย่าเพิ่งออกคำสั่ง โปรดฟังผู้น้อยก่อน”
ตอนนี้หนิวจื้อชุนตกที่นั่งลำบาก ถ้าเยี่ยเว่ยหมิงไม่มาเจอก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้ในเมื่อมาเจอแล้ว ย่อมไม่อาจนิ่งดูดายเมื่อเห็นเขากำลังจะถูกคนของต้วนเจิ้งฉุนตัดหัว
ถึงอย่างไรทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน ถ้าช่วยเหลือได้ก็ต้องช่วยแน่นอน
เมื่อเห็นต้วนเจิ้งฉุนมองมาด้วยสายตาสงสัย แต่ไม่ได้เร่งให้องครักษ์ฆ่าหนิวจื้อชุนในทันที เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้แล้วว่าเรื่องนี้ยังมีหวัง จึงก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วบอกว่า “ท่านอ๋องต้วน นักพรตเต๋าท่านนี้ก็เป็นสหายเก่าของผู้น้อยเช่นกัน จากที่ผู้น้อยรู้จักเขา เจ้าหมอนี่เป็นคนหยาบคาย กำเริบเสิบสาน ป่าเถื่อน ทั้งยังต่ำช้า หน้าไม่อาย แต่ก็ยังนับว่าเป็นนักพรตเต๋าที่ดีคนหนึ่ง คงจะไม่เข้าหวังมาลอบสังหารท่านอ๋องในพระราชวัง มีเรื่องเข้าใจผิดกันหรือไม่”
ต้วนเจิ้งฉุนได้ยินแล้วขมวดคิ้วมุ่นทันที
เขาไม่สนใจว่าหนิวจื้อชุนจะถูกใส่ร้ายหรือไม่ แต่กลับไม่อาจละเลยท่าทีของเยี่ยเว่ยหมิง!
อาศัยแค่การแสดงฝีมือที่เหมือนพลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับฝนของเยี่ยเว่ยหมิงในระหว่างที่ทำภารกิจที่หุบเขาว่านเจี๋ยก่อนหน้านี้ ก็ทำให้ต้วนเจิ้งฉุนซาบซึ้งใจแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ระแวงมากด้วย
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงสังหารอวิ๋นจงเฮ่อแล้ว แต่ก็ยังอยู่ร่วมกับอีกสามคนโฉดได้ย่างสันติ ถึงขั้นทำให้คนโฉดชั่วบาปหนักที่คนในยุทธภพได้ยินชื่อแล้วหวาดกลัวอย่างต้วนเหยียนชิ่งเชื่อฟังเขาได้!
นี่คือเรื่องที่คนทั่วไปทำได้อย่างนั้นหรือ
เกรงว่าแม้แต่เฉียวเฟิงเหนือ มู่หรงใต้ก็ไม่มีความสามารถอย่างนี้กระมัง
สำหรับคนแบบนี้ ต่อให้เป็นต้วนเจิ้งหมิงก็ไม่อยากไปล่วงเกินอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ตนเองยังมีจุดอ่อนมากมาย ถ้าถูกนำไปใช้ประโยชน์ขึ้นมา ก็เพียงพอที่จะทำให้ต้วนเจิ้งฉุนเสื่อมเสียชื่อเสียงได้
เพียงแต่เจ้าหนิวจื้อชุนคนนี้ เขามีเหตุผลที่ต้องฆ่าจริงๆ ถ้าปล่อยไปอย่างนี้ เกรงว่าปากพล่อยๆ ของเขา…ไม่ได้!
หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ต้วนเจิ้งฉุนก็ส่งสายตาให้จูตานเฉิน หนึ่งในสี่องครักษ์ทันที อีกฝ่ายเข้าใจโดยพลัน นำเศษผ้าออกมาเส้นหนึ่งแล้วอุดปากหนิวจื้อชุนเอาไว้
ส่วนต้วนเจิ้งฉุนก็กุมหมัดคารวะเยี่ยเว่ยหมิงอย่างสุภาพมาก “มีบางอย่างที่จอมยุทธ์เยี่ยยังไม่รู้ หนิวจื้อชุนมาที่พระราชวังต้าหลี่วันนี้ จุดประสงค์ของเขาก็คือลอบสังหารข้า…
…ข้ามีหลักฐานที่พิสูจน์เรื่องนี้ได้…
…ถ้าจอมยุทธ์เยี่ยไม่เชื่อ ตามข้าไปที่ห้องหนังสือสักรอบก็ได้”
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นว่าต้วนเจิ้งฉุนแค่ให้คนอุดปากหนิวจื้อชุน แต่กลับไม่ได้จี้สกัดจุด จึงรู้สึกทันทีว่าเรื่องนี้มีอะไรในกอไผ่แน่นอน!
ต้องทราบไว้ว่าต่อให้ผู้เล่นถูกอุดปาก แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเลยแม้แต่น้อย ยกตัวอย่างเช่นการส่งข้อความในช่องทีมหรือใช้พิราบสื่อสาร
แต่ถ้าอยากจะระงับการทำงานเหล่านี้ด้วยก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แค่ต้องจี้สกัดจุดผู้เล่นทั้งตัวก็เท่านั้นเอง
ซึ่งสำหรับต้วนเจิ้งฉุนที่ถนัดวิชาดรรชนีเอกสุริยัน อยากจะทำแบบนี้ก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก
แต่เขากลับไม่ทำอย่างนั้น
แบบนี้แสดงว่าต้วนเจิ้งฉุนไม่ถือสาหากเยี่ยเว่ยหมิงกับหนิวจื้อชุนจะสื่อสารกันเป็นการส่วนตัว เพียงแต่ไม่อยากให้หนิวจื้อชุนพูดสิ่งที่ NPC ได้ยินออกมาก็เท่านั้นเอง ใช่หรือเปล่า
พอคิดได้ว่าสมเหตุสมผล เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มทันที กุมหมัดคารวะต้วนเจิ้งฉุนพร้อมบอกว่า “ไม่ใช่ว่าผู้น้อยไม่เชื่อท่านอ๋องต้วน แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสหายข้า ดังนั้น..ต้องรบกวนให้ท่านอ๋องต้วนนำทางแล้ว”
“ไม่เป็นไร”
เหมือนต้วนเจิ้งฉุนตั้งใจเตรียมการให้เป็นอย่างนี้ หนิวจื้อชุนที่กำลังถูกสี่องครักษ์ควบคุมตัวก็ตามพวกเยี่ยเว่ยหมิงไปที่ห้องหนังสือด้วยเช่นกัน
ระหว่างทาง เยี่ยเว่ยหมิงส่งคำขอเข้ากลุ่มให้อีกฝ่าย หลังจากอีกฝ่ายกดยอมรับแล้ว เขาก็ถามในช่องทีมทันที [เรื่องเป็นอย่างไรกันแน่ ทำไมเจ้ากลายเป็นมือสังหารเสียแล้ว]
ในที่สุดก็เจอช่องทางที่สื่อสารกันได้ หนิวจื้อชุนดีใจจนน้ำตาคลอ [สหายเยี่ย เจ้าต้องช่วยข้านะ ข้าถูกเจ้าหลานต้วนเจิ้งฉุนนั่นใส่ร้าย!]
[อย่าพล่ามไปเรื่อย!] เยี่ยเว่ยหมิงขัดจังหวะการทำตัวน่าสงสารของเจ้าหมอนี่อย่างไม่เกรงใจ [มีแค่ข้าเชื่อคนเดียวก็ไร้ประโยชน์ เจ้าต้องทำให้ต้วนเจิ้งฉุนเชื่อว่าเจ้าเป็นคนดีและไม่ใช่มือสังหาร แบบนั้นถึงจะได้]
[ถึงอย่างไรผู้รักษาการณ์แทนฮ่องเต้ของต้าหลี่ก็คือเขา ไม่ใช่ข้า]
หนิวจื้อชุนห่อเหี่ยวทันที [แต่เจ้าหลานนั่นมันใส่ร้ายข้านะ เจ้าก็รู้ดีว่าข้าไม่ใช่มือสังหาร! (?_?)]
เยี่ยเว่ยหมิงขมวดคิ้ว [ข้าบอกแล้วไง ขอรายละเอียด!]
[ก็ได้…] หนิวจื้อชุนจนใจ ทำได้เพียงเล่าสิ่งที่เจอให้เยี่ยเว่ยหมิงรู้อย่างละเอียด
สรุปง่ายๆ ก็คือหนิวจื้อชุนเป็นแพะรับบาปอีกแล้ว!
รายละเอียดของเรื่องราวเป็นอย่างนี้
ในภารกิจเทศกาลตรุษจีน หนิวจื้อชุนสะสมค่าวีรบุรุษได้เพียงพอแล้ว เติมเต็มเงื่อนไขข้อสุดท้ายสำหรับปลดล็อกภารกิจเรียน ‘วิชาฟ้ากำเนิด’ ในที่สุดก็ได้เรียนวิชากำลังภายในที่แกร่งที่สุดของสำนักฉวนเจินอย่าง ‘วิชาฟ้ากำเนิด’
จากนั้น เพื่อที่จะเพิ่มเลเวลของวิชานี้ หนิวจื้อชุนจึงเริ่มทำภารกิจไปทั่วเพื่อเก็บค่าตบะ
เมื่อวานเขาก็ได้รับภารกิจจากวัดเซินเจี้ยให้มาส่งจดหมายที่พระราชวังต้าหลี่ สถานการณ์คร่าวๆ ก็คือ ไต้ซือเสวียนเปยแห่งเส้าหลินที่จะมาช่วยสกุลต้วนต้าหลี่ตอนนี้มรณภาพอยู่ที่วัดเซินเจี้ย หลวงจีนที่เป็นผู้ติดตามของเขาหวังว่าผู้เล่นจะมาส่งข่าวนี้พระราชวังต้าหลี่ บอกให้จักรพรรดิต้าหลี่ต้วนเจิ้งหมิงทราบ
เพราะเจ้าหมอนี่มาถึงพระราชวังต้าหลี่ก่อน แต่ตอนนั้นต้วนเจิ้งหมิงไปที่หุบเขาว่านเจี๋ยแล้ว เขาจึงไล่ตามไปทางหุบเขาว่านเจี๋ย ทว่าระหว่างทางเขาพลันนึกขึ้นได้ว่าหมู่บ้านซีซานที่อยู่ระหว่างสถานที่สองแห่งนั้นมีภารกิจย่อยให้ทำ จึงไปที่หมู่บ้านซีซานเพื่อทำภารกิจย่อยให้เสร็จก่อน เนื่องจากเสียเวลาตรงนั้น จึงทำให้กว่าจะไปถึงหุบเขาว่านเจี๋ยก็ค่ำแล้ว
ซึ่งตอนนั้นการต่อสู้ในหุบเขาว่านเจี๋ยก็จบลงแล้ว คนของสกุลต้วนต้าหลี่กลับมาที่พระราชวังและจัดงานเลี้ยงฉลอง
หนิวจื้อชุนจึงลองเลี้ยวมาใกล้ๆ หุบเขาว่านเจี๋ย เพื่อดูว่ามีภารกิจให้ทำหรือมี BOSS ให้ฆ่าหรือไม่
แล้วเขาก็เห็นกับตาตัวเองว่าต้วนเจิ้งฉุนลักลอบพบชู้และถูกจับได้ จากนั้นก็หนีออกมาจากทางใต้ดินของหุบเขาว่านเจี๋ยอย่างสะบักสะบอม แต่กลับถูกพวกเชิญร่ำสุราดักล้อมโจมตีจนตาย
พอคิดว่าในเมื่อตนจะไปส่งข่าวที่พระราชวังต้าหลี่อยู่แล้ว หนิวจื้อชุนจึงแบกศพต้วนเจิ้งฉุนกลับมาด้วยเสียเลย เตรียมจะถือโอกาสนี้ขอรางวัล เพิ่มระดับความสำเร็จให้ภารกิจของตัวเองสักหน่อย
แต่กลับคาดไม่ถึงว่าต้วนเจิ้งฉุนไม่ทันฟังเขาอธิบายอะไร ก็ตัดสินแล้วว่าเขาเป็นมือสังหาร ทั้งยังร่วมมือกับเตาไป๋เฟิ่งที่เพิ่งมาถึงล้อมสังหารนักพรตเต๋าที่น่าสงสารคนนี้อย่างไร้มนุษยธรรม
พอเห็นหนิวจื้อชุนหนี เขาก็เรียกยอดฝีมือทั้งหมดในวังให้ไล่ตามและดักไว้!
จากนั้นหนิวจื้อชุนก็บังเอิญผ่านเข้ามาในสวนของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างไม่มีทางเลือก แล้วก็เล่าเรื่องราวให้เยี่ยเว่ยหมิงฟัง…
เพราะเรื่องนี้ส่งผลถึงปัญหาที่ว่าจะถูกฆ่าหรือไม่ถูกฆ่า จะเสียค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์หรือไม่ หนิวจื้อชุนจึงเล่าอย่างละเอียดมาก นอกจากตั้งใจจะหลบช่วงฆ่าคนปล้นสมบัติแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็เล่าแบบหมดเปลือก
เมื่อได้ฟังเจ้าหมอนี่บรรยาย เยี่ยเว่ยหมิงก็มองเขาอย่างดูถูกปราดหนึ่ง แล้วบอกว่า [สำหรับเรื่องที่เจ้าเจอ ข้าบอกได้เพียงว่า…
…สมควรแล้ว! เมื่อครู่ต้วนเจิ้งฉุนไม่ใช้วิชาดรรชนีฆ่าเจ้าทันที ก็ถือว่าลงมือยั้งไมตรีเพราะเห็นแก่หน้าข้าแล้ว!]
หนิวจื้อชุนได้ยินแล้วเถียงกลับอย่างหงุดหงิด [สหายเยี่ย เจ้าหมายความว่าอย่างไร]
[หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ] เยี่ยเว่ยหมิงถลึงตามองเขา [ก็เจ้าพูดเองนี่ว่าตอนที่ต้วนเจิ้งฉุนระบุว่าเจ้าเป็นมือสังหาร เตาไป๋เฟิ่งก็ตามมาถึงแล้ว สรุปง่ายๆ ก็คือ…เจ้าพูดเรื่องฉาวโฉ่ที่เมื่อวานเขาหนีออกไปเจอชู้แต่ดันถูกฆ่าต่อหน้าเมียเขาไง ถ้าเจอแบบต้วนเจิ้งฉุน ไม่ว่าใครก็คงไม่รอให้เจ้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้จบก่อนหรอก ใช่ไหมล่ะ]
หนิวจื้อชุนได้ยินแล้วอึ้ง ตอนนี้ถึงตระหนักได้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน จึงรีบถามว่า [สหายเยี่ย…เจ้าว่าข้ายังพอมีทางรอดไหม]
[ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลหรืออารมณ์ น่าจะช่วยไม่ได้แล้ว เตรียมตัวจัดงานศพเถอะ]
หนิวจื้อชุนอยากจะร้องไห้
เยี่ยเว่ยหมิงส่งข้อความอีกครั้ง [แต่เพื่อปกป้องชีวิตของเจ้า และถือโอกาสให้เจ้าได้รับรางวัลภารกิจมากขึ้น ข้าคิดว่าข้าทำได้นะ]
[สหายเยี่ยช่วยข้าด้วย!]
[นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย!] สำหรับปัญหาที่หนิวจื้อชุนเจอ เยี่ยเว่ยหมิงบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร [แต่เจ้าต้องตอบคำถามข้าก่อน ข้อแรก บนตัวเจ้ามียาลูกกลอนหรือวัตถุดิบยาที่ค่อนข้างหากยาก แต่ก็ไม่ถึงกับราคาแพง ต่อให้โยนทิ้งก็ไม่ปวดใจมาก เจ้ามีของประเภทนั้นหรือเปล่า…]