ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 504 การต่อสู้แบบ 1 VS 54 !
ตอนที่ 504 การต่อสู้แบบ 1 VS 54 !
ไป๋วั่นเจี้ยนวิเคราะห์แต่ละประโยคอย่างมีเหตุผล ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่รู้ว่าจะโต้เถียงอย่างไร
แต่ความจริงก็เป็นเหมือนที่ไป๋วั่นเจี้ยนบอก
เยี่ยเว่ยหมิงเป็นศัตรูที่ฆ่าลูกชายของสือชิง อีกทั้งสือชิงยังรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ แต่ทั้งสองคนดันร่วมมือกันมาช่วยคนแล้ว
คำพูดนี้จริงเสียยิ่งกว่าจริง แต่เวลาพูดออกมาก็ต้องมีคนเชื่อด้วย!
แต่สำหรับเรื่องที่ตนถูกคนอื่นเข้าใจผิด คนใจกว้างดั่งมหาสมุทรอย่างเยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่โกรธ
ถ้าเรื่องนี้ใช้ปากแก้ปัญหาได้จริง แล้วค่าประสบการณ์กับค่าตบะของเขาจะมาจากที่ไหน
ก่อนหน้านี้สาเหตุที่ใช้ปากแก้ปัญหา ก็แค่ปูทางให้ภารกิจหลังจากนี้ก็เท่านั้นเอง
ที่จริงเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้หวังว่าไป๋วั่นเจี้ยนจะเชื่อตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่หวังเช่นกัน
ต้องมีการต่อสู้กัน ถึงจะมีรางวัลให้เก็บเกี่ยว!
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงถูกไป๋วั่นเจี้ยนว่าจนเถียงไม่ออก สือชิงที่อยู่ข้างๆ ก็ก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ชักกระบี่ล้ำค่าสีดำทั้งเล่มออกมาขวางระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับไป๋วั่นเจี้ยนแล้วบอกว่า “จอมยุทธ์น้อยเยี่ย รบกวนท่านขัดขวางศิษย์สำนักภูเขาหิมะคนอื่นๆ ให้ข้าที ให้ข้าสือชิงขอคำชี้แนะ ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ จากศิษย์พี่ไป๋สักหน่อย”
ไป๋วั่นเจี้ยนเห็นดังนั้นก็หันหัวหอกไปทางสือชิงทันที กล่าวเสียงต่ำว่า “ดี ไป๋ผู้นี้ก็อยากขอคำชี้แนะกระบวนท่าอันสูงส่งของเจ้าบ้านสือเช่นกัน!”
ระหว่างที่ทั้งสองถามตอบกัน สือชิงก็ไปสู้กับไป๋วั่นเจี้ยนอยู่อีกที่แล้ว!
ทั้งสองล้วนเป็นยอดฝีมือกระบี่ ตอนนี้เริ่มสู้กันแล้ว เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือพอๆ กัน ก็เรียกได้ว่าตัดสินแพ้ชนะยากมาก
ส่วนกลุ่มศิษย์สำนักภูเขาหิมะที่อยู่ข้างๆ นอกจากมองด้วยความสิ้นหวังแล้ว ก็ได้แต่หรี่ตาสลับถลึงตาจ้องเยี่ยเว่ยหมิง
การต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือใหญ่สองคน ไม่มีที่เหลือให้พวกเขาสอดมือเข้าไปยุ่งเลย!
สายตาเยี่ยเว่ยหมิงชำเลืองบนตัวสือชิงกับไป๋วั่นเจี้ยนสองครั้ง แต่กลับพบว่าฝีมือของพี่ใหญ่สองท่านนี้เป็นครึ่งชั่งกับแปดตำลึง[1] แยกไม่ออกเลยว่าใครแข็งแกร่งใครอ่อนแอ
ถ้าเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ของผู้เล่นสองคนที่ฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แม้จะตัดสินแพ้ชนะไม่ได้ แต่เวลาการต่อสู้ก็ไม่ยืดเยื้อนานเกินไปแน่นอน แต่การที่ NPC ฝีมือสูสีสองคนนี้สู้กัน…
จากประสบการณ์โชกโชนในการทำภารกิจของเยี่ยเว่ยหมิง พวกเขามีความสามารถที่จะสู้กันต่อไปโดยตัดสินแพ้ชนะไม่ได้แน่นอน สู้ให้เสมอกันจนกระทั่งเยี่ยเว่ยหมิงสู้ศึกตัดสินกับศิษย์สำนักภูเขาหิมะคนอื่นๆ เสร็จแล้ว!
หรือพูดได้อีกอย่างว่า กุญแจสำคัญในการช่วยคนให้สำเร็จ ก็ต้องดูที่การกระทำของผู้เล่นทั้งสองฝ่าย?
ระบบคุ้นเคยกับการใช้วิธีนี้จริงๆ!
แต่พอเป็นแบบนี้ ก็แสดงว่าถ้าตัดไป๋วั่นเจี้ยนออก ค่าประสบการณ์และค่าตบะที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าก็เป็นของตนหมดเลยน่ะสิ
ถึงขั้นว่ารอให้ตนแก้ไขปัญหาการต่อสู้ทางนี้แล้ว ค่าประสบการณ์และค่าตบะของไป๋วั่นเจี้ยนก็เป็นของตนเหมือนกัน!
ในใจเยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกดีมากกับสถานการณ์แบบนี้ แต่บนใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มไร้เดียงสา กวาดตามองผู้เล่นและ NPC ขอสำนักภูเขาหิมะทีละคน พร้อมถามว่า “ท่านไหนจะมาขอคำชี้แนะก่อน”
“ท่านไหน?” เมื่อได้ยินคำถามของเยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นหนึ่งในกระบวนทัพของสำนักภูเขาหิมะก็แสยะยิ้ม “เจ้าฝันไปเถอะ!…
…พวกเรามีกันเยอะขนาดนี้ ทำไมต้องมาคุยเรื่องคุณธรรมวีรบุรุษกับเจ้าด้วย ทุกคนเคียงบ่าเคียงไหล่ ลุยพร้อมกัน!”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วก็แค่ยักไหล่ “เป็นการกล่าวเปิดงานตามสูตรจริงๆ พวกเจ้าไร้ยางอายยิ่งกว่า NPC พวกนั้นเสียอีก แม้กระทั่งเหตุผลที่เป็นธรรมก็ขี้เกียจจะหาแล้ว ตรงไปตรงมาดีนี่”
ขณะที่พูด มือขวาก็กุมบางอย่างกลางอากาศ กระบี่ชิงชัยปรากฏอยู่ในมือเขาแล้ว เขาชี้ปลายกระบี่ลงในแนวเฉียง เตรียมตัวรับศึกใหญ่เรียบร้อยแล้ว
กระบี่ระดับอาวุธล้ำค่าทั้งหมดบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ในจำนวนนั้นกระบี่ทองปัวสวินและกระบี่มังกรคำรามมีบทบาทค่อนข้างพิเศษ ที่ใช้บ่อยยังคงเป็นกระบี่แสงทองกับกระบี่ชิงชัย
สองเล่มแรกเหมาะจะใช้ท้าทาย BOSS มากกว่า ส่วนสองเล่มหลังเหมาะกับการใช้ตัดวัชพืช
ซึ่งพวกผู้เล่นและ NPC สำนักภูเขาหิมะตรงหน้า นอกจากไป๋วั่นเจี้ยนที่ฝีมือพอๆ กับสือชิงแล้ว ในสายตาของเยี่ยเว่ยหมิง ที่เหลือก็เป็นวัชพืชหมด!
วัชพืชที่ฟันทิ้งได้ตามอำเภอใจ!
เมื่อกระบี่อยู่ในมือ เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันพุ่งออกมา กระบี่ชิงชัยในมือกระพือลมกระบี่ออกมาสายหนึ่งยามพุ่งตรงไปข้างหน้ายังจุดที่มีผู้เล่นสำนักภูเขาหิมะรวมตัวกันหนาแน่น
สภาพบนสนามต่อสู้ตอนนี้ก็คือ สือชิง VS ไป๋วั่นเจี้ยน เยี่ยเว่ยหมิง VS ผู้เล่นและ NPC สำนักภูเขาหิมะห้าสิบสี่คน!
นอกจากยอดฝีมือสองฝ่ายที่สู้กันสูสีแล้ว สายตาทุกคนของสำนักภูเขาหิมะที่อยู่ตรงนั้นก็มารวมอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิงคนเดียว
เมื่อเขาเคลื่อนไหว ก็ทำให้ผู้เล่นและ NPC สำนักภูเขาหิมะเคลื่อนไหวตามไปด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่าดึงขนเส้นเดียวสะเทือนทั้งตัว
พวกผู้เล่นเรียกอาวุธของตัวเองออกมากลางอากาศ ส่วน NPC ก็ชักกระบี่ออกมาจากเอวพร้อมกัน ทุกคนเริ่มลงมือด้วยท่าที่ตัวเองถนัดจากมุมที่แตกต่างกัน ร่วมมือกันโจมตีอย่างดุดันใส่เยี่ยเว่ยหมิง!
ดูจากท่าทางของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าเตรียมจะกำจัดเยี่ยเว่ยหมิงทิ้งในคราเดียว เตรียมจะทำให้เขาจมหายไปในแสงกระบี่ห้าสิบสี่เล่มภายในการโจมตียกแรก
ซึ่งความจริงก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน
เยี่ยเว่ยหมิงแม้จะเก่งขนาดไหน แต่ก็เป็นเพียงผู้เล่นคนหนึ่งเท่านั้น ยามเผชิญหน้ากับการโจมตีหมู่ของผู้เล่นและ NPC จำนวนมากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ BOSS เลเวลหนึ่งร้อยขึ้นไปที่ค่าสเตตัสที่ต้านทานเก่ง ไม่ว่าผู้เล่นคนไหนที่เจอการโจมตีแบบนี้ ก็มีแต่จะทำให้ตัวเองจนตรอกเท่านั้น
แล้วเยี่ยเว่ยหมิงเป็น BOSS ที่เลเวลเกินหนึ่งร้อยอย่างนั้นหรือ
ไม่ใช่!
ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ เขาไม่กล้าดันทุรังต้านทาน
ตอนที่ศัตรูทุกคนลงมือพร้อมกัน เยี่ยเว่ยหมิงที่พุ่งไปข้างหน้าก็หยุดกะทันหัน ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน เขาเปลี่ยนจากพุ่งไปข้างหน้าเป็นย้ายไปด้านข้าง แม้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่กลับดูเป็นธรรมชาติมาก
ที่บอกว่ากะทันหัน ก็เพราะความเปลี่ยนแปลงนี้เหนือความคาดหมายของทุกคน ถึงขั้นมีคนคิดว่าไม่มีทางจะเปลี่ยนทิศทางสำเร็จ
ที่บอกว่าเป็นธรรมชาติ ก็เพราะท่าทางตอนเยี่ยเว่ยหมิงเลี้ยวนั้นไหลลื่นเหมือนเหมือนเมฆเหินน้ำไหล ราวกับว่าเดิมทีก็จะใช้ท่านี้อยู่แล้ว ไม่รู้สึกขัดตาเลยสักนิด
ตอนที่เปลี่ยนทิศทางนี้เอง ท่าร่างของเยี่ยเว่ยหมิงก็เร็วขึ้นสองเท่า!
ตัวเดินตามกระบี่ไป ใช้ท่า ‘พเนจรสุดขอบฟ้า’ โจมตีตรงไปยังฮวาวั่นจื่อ NPC สำนักภูเขาหิมะที่ยืนค่อนข้างห่างจากกลุ่ม
การเปลี่ยนแปลงนี้มาเร็วเกินไปจริงๆ เร็วจนทำให้ทุกคนไหวตัวไม่ทัน กระบี่ล้ำค่าในมือพวกเขายังทักทายอยู่ตรงจุดที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยยืนก่อนหน้านี้อยู่เลย ปลายกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงกลับโจมตีมาถึงตรงหน้าฮวาวั่นจื่อแล้ว
ชั่วขณะนั้นทุกคนช่วยไม่ทัน ฮวาวั่นจื่อที่เป็นหนังหน้าไฟตกใจจนใบหน้างามดุจดอกไม้ถอดสี นางกวาดกระบี่ล้ำค่าในมือออกมาโดยจิตใต้สำนึก ใช้ ‘ลมทรายไร้ขอบเขต’ หนึ่งในกระบวนท่าของ ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ หวังจะต้านกระบี่ที่มาอย่างกะทันหันของเยี่ยเว่ยหมิง
ทว่าเยี่ยเว่ยหมิงราวกับคาดเดาการเปลี่ยนแปลงของนางได้ ตอนที่ฮวาวั่นจื่อลงมือ กลับเห็นเขาพลิกข้อมือ ไม่น่าเชื่อว่าจะเปลี่ยนท่าสำเร็จในระหว่างที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด จากนั้นก็พุ่งตัวตามกระบี่ไป กระบี่ชิงชัยตวัดจากข้างล่างขึ้นข้างบน ออกท่า ‘ลมทรายไร้ขอบเขต’ แทงตรงไปยังคอของฮวาวั่นจื่อในมุมประหลาดที่เหนือจินตนาการของทุกคน!
ท่าปลุกปั่นกระบี่!
-65910!
พอฮวาวั่นจื่อถูกโจมตี นางก็กรีดร้องออกมาทันที แต่กลับไม่ลืมที่ใช้ท่า ‘ร่มไม้หอมเย็น’ ของ ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ โจมตีกลับไปที่หัวใจของเยี่ยเว่ยหมิง หวังจะบีบให้เขาถอยไป
แต่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมตัวแล้วว่าจะสู้ไปพร้อมกับหลบ มีหรือที่จะปล่อยให้นางหนีรอดไปได้ง่ายๆ
พอเห็นดังนั้นก็ใช้แค่ท่า ‘กวาดหิมะต้มชา’ อาศัยค่าสเตตัสที่สูงกว่าของตัวเอง โต้กลับจนกระบี่ยาวของฮวาวั่นจื่อกระเด็นออกไป
จากนั้นเลี้ยวปลายกระบี่กลับมา แล้วแทงเข้าหัวใจของฮวาวั่นจื่อโดยตรง
ไซซีกุมดวงใจ!
-53455!
เกิดคริติคอลดาเมจที่รวดเร็วฉับไวอีกครั้ง ฮวาวั่นจื่อส่งเสียงร้องออกมาเงียบๆ ร่างกลายเป็นแสงสีขาวทันที ถูกย้ายออกไปอยู่ห่างจากใจกลางสนามรบห้าจั้ง
บนตัวนางมีแสงสีขาวอ่อนจางลอยขึ้นมาหนึ่งชั้น ครอบร่างกายงดงามที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งของนางไว้ทั้งหมด
แสงสีขาวเหล่านี้ก็คือพันธนาการ ขณะเดียวกันก็เป็นการคุ้มครองด้วย
ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป การต่อสู้ที่เอาเป็นเอาตายของทั้งสองฝ่ายจะไม่เกี่ยวกับแม่นางฮวาคนนี้แล้ว
[1] ครึ่งชั่งกับแปดตำลึง 半斤八两 หมายถึงไม่ต่างกัน