ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 550 กำลังหนุนที่แข็งแกร่งเกินคาด
ตอนที่ 550 กำลังหนุนที่แข็งแกร่งเกินคาด
ถาม ดาวอริที่ใหญ่ที่สุดของทักษะยุทธ์คืออะไร
หนึ่งจอมพลังคนที่เอาชนะคนมีทักษะสิบคนได้ หรือหนึ่งกลยุทธ์ทำลายได้พันชั่ง?
ไม่ใช่!
ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง!
ถ้าอยากจะเอาชนะทักษะยุทธ์ได้ วิธีการที่ได้ผลที่สุดก็ง่ายมาก อีกทั้งกฎข้อนี้ใช้งานได้จริงกับทุกทักษะยุทธ์ด้วย
นั่นก็คือเชี่ยวชาญสิ่งที่มันถนัดมากกว่ามัน!
เจ้าเร็ว ข้าเร็วกว่าเจ้า!
เจ้าแข็งแกร่ง ข้าแข็งแกร่งกว่าเจ้า!
เจ้าเฉียบแหลม ข้าแยบยลกว่าเจ้า!
เจ้าประหลาด ข้าปลิ้นปล้อนยิ่งกว่า!
ขอได้เพียงทำได้ถึงจุดนี้ ทักษะยุทธ์ใดๆ ในใต้หล้าเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้าก็รับการโจมตีของเจ้าไม่ไหวแม้แต่ครั้งเดียว
เงื่อนไขคือหากเจ้าทำได้
เพราะบนบนโลกนี้ ตามความหมายที่แท้จริงไม่มีคำว่าใช้ความอ่อนแอเอาชนะความแข็งแกร่ง ต่อให้มี แต่นั่นก็เพราะวิธีการ หรือไม่ก็กลยุทธ์ที่แยบยล จนทำได้ถึงขั้นเน้นจุดแข็ง เลี่ยงจุดอ่อน สุดท้ายแล้วพูดให้ชัดก็คือใช้ความแข็งแกร่งชนะความอ่อนแออยู่ดี
หากเจ้าเหนือกว่าอีกฝ่ายในด้านที่อีกฝ่ายเชี่ยวชาญที่สุด เช่นนั้นอีกฝ่ายก็ไม่มีจุดแข็งให้ใช้ ไม่มีจุดอ่อนที่เลี่ยงได้เช่นกัน!
ตอนนี้เงาใจภูตก็กำลังเผชิญสถานการณ์อย่างนี้
‘เคล็ดกระบี่งูทอง’ ที่เป็นทักษะโจมตีหลักของนางแปลกประหลาดเกินคาดเดา แต่หากเทียบกับ ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ ที่ประหลาดและดุดันยิ่งกว่า จุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดก็จะกลายเป็นจุดอ่อนที่แน่นอนทันที
ประกอบกับก่อนหน้านี้นางรีบโจมตีอย่างต่อเนื่อง เยี่ยเว่ยหมิงมองแนวทางกระบวนท่าของนางออกเจ็ดแปดส่วนแล้ว การโจมตีกลับของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ก็คือพุ่งเป้าไปที่จุดบอดของกระบวนท่าของนาง
เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ที่ประหลาดเกินคาดเดา รวดเร็วทั้งยังพุ่งเป้าไปที่จุดเดียวเช่นนี้ เงาใจภูตตกใจกลัวทันทีเพราะพบว่านางต้านเยี่ยเว่ยหมิงไม่ไหวแม้แต่กระบี่เดียว!
กระบี่นี้นอกจากนางจะไม่มีทางต้านไหวแล้ว ถึงขั้นแม้แต่จะอาศัยแรงเฉื่อยจากกระบวนท่าหลบไม่ให้กระบี่แทงมาที่คอก็ยังทำไม่ได้เลย!
อย่าบอกนะว่าที่นางกระหืดกระหอบกระโดดออกมาแบบนี้ ผลลัพธ์ก็คือถูกอีกฝ่ายปลิดชีพคาที่ด้วยกระบี่เดียว
ทว่าตอนที่นางเกือบตกอยู่ในความผิดหวัง กลับเห็นเงากระบี่สายหนึ่งแทงเฉียงออกจากร่างกายนาง แทงตรงไปยังบ่าขวาของเยี่ยเว่ยหมิง
ความเร็วของกระบี่นี้ก็รวดเร็วสุดๆ เช่นกัน อีกทั้งพอลงมือ ก็ล็อกเป้าหมายโจมตีไปตรงจุดที่เยี่ยเว่ยหมิงต้องป้องกันแน่นอน
เพราะถ้าปล่อยผ่านโดยไม่สนใจ อีกฝ่ายจะต้องแทงถูกบ่าของเขาก่อนที่เขาจะปลิดชีพเงาใจภูตแน่นอน ทั้งยังโจมตีจนติดสถานะเส้นเอ็นขาดด้วย และกระบี่ของเขาที่เดิมทีต้องโจมตีเกิดผลปลิดชีพ ก็จะเปลี่ยนเป็นกระบี่ที่ไร้ภัยคุกคามเช่นกัน
ช่างเป็นกลยุทธ์ล้อมเว่ยช่วยจ้าว[1]ที่ดี!
เคล็ดกระบี่ยอดเยี่ยมมาก!
ส่วนผู้ที่ลงมือก็คือผู้นำของหกคนนั้น ศิษย์สำนักหัวซาน เลี้ยงบาสลงห่วง!
ขณะที่กำลังตกตะลึง เยี่ยเว่ยหมิงพลันเก็บกระบี่และถอยหลัง พอปลายกระบี่แตะพื้นหนึ่งที ร่างก็ถือโอกาสทะยานขึ้นฟ้า กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงวาดผ่านจนเกิดแสงกระบี่ที่น่าตื่นตระหนกสายหนึ่ง ปาดคอเลี้ยงบาสลงห่วงและเงาใจภูตอย่างยอดเยี่ยม艾琳小說
ท่ากระเพื่อมกระบี่!
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ เลี้ยงบาสลงห่วงกลับก้าวขึ้นมาข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อย เหยียดกระบี่ล้ำค่าในมือออกมาอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าแทงบนคมกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงอย่างแม่นยำ
ต้องทราบไว้ว่าไม่ว่าจะเป็น ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ หรือ ‘ท่ากระเพื่อมกระบี่’ การเปลี่ยนแปลงของท่าล้วนเดายาก แต่สายตาของคนตรงหน้าโหดมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะแก้ท่ากระบี่ของเขาสองท่าต่อเนื่องกันได้สบายๆ!
แกร๊ง!
ชั่วพริบตาที่กระบี่สองเล่มปะทะกัน บนใบหน้าของเลี้ยงบาสลงห่วงก็มีแสงสีม่วงแวบผ่าน แต่ก็ยังถูกกำลังภายในที่ดุดันของเยี่ยเว่ยหมิงทำให้สะเทือนถอยไปข้างหลังต่อเนื่องสามก้าว
ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ได้รับแรงสะเทือนนี้เช่นกัน ร่างลอยไปข้างหลังอย่างสง่างาม ขณะเดียวกันก็อดชมไม่ได้ว่า “เจ้าใช้เคล็ดกระบี่อะไรกันแน่ ยอดเยี่ยมตระการตามาก!”
เลี้ยงบาสลงห่วงจงใจไล่โจมตีต่อ แต่ก่อนหน้านี้สะเทือนเพราะกำลังภายในของเยี่ยเว่ยหมิง ชั่วขณะนั้นอาการยังไม่บรรเทา ได้แต่แสยะยิ้มตอบว่า “เจ้าเดาสิ” ถือว่าเป็นการโจมตีกลับแล้ว
กำลังถูกกำลังภายในของเยี่ยเว่ยหมิงควบคุม เงาใจภูตกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ พอเห็นเยี่ยเว่ยหมิงถูกเลี้ยงบาสลงห่วงโจมตีถอยนางก็พลันชูมือซ้ายขึ้นมา ลำแสงสามจุดแบ่งยิงไปทางคอ บ่าขวาและซี่โครงซ้ายของเยี่ยเว่ยหมิง ฉวยโอกาสตอนเยี่ยเว่ยหมิงเคลื่อนไหวไม่สะดวกเพราะลอยอยู่กลางอากาศ ปิดตายเส้นทางหลบทุกทางที่เป็นไปได้ของเขา
เยี่ยเว่ยหมิงที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่มีทางหลบได้ ในใจกดไลก์ให้วิธีการ ‘ต้อนรับแขกหน้าประตูสามครั้ง’ ของสาวนิกายเบญจพิษคนนี้แล้วโบกฝ่ามือซ้ายออกมาหนึ่งที จากนั้นเสียงมังกรคำรามที่ไพเราะก็ดังขึ้น กำแพงที่ก่อตัวขึ้นจากกำลังภายในปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาทันที ปัดอาวุธลับสามชิ้นกระเด็นหมดแล้ว
แต่ถึงแม้เขาจะแก้การโจมตีของฝ่ายตรงข้ามสำเร็จแล้ว แต่กลับตกตะลึงเพราะแรงเจาะทะลวงของอาวุธลับนี้ยอยู่ดี
ด้วยระดับความแข็งแกร่งกำลังภายในของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ เขาปูกำลังภายในให้กลายเป็นกำแพงปราณได้แล้ว ระดับความหนาประมาณหนึ่งชุ่น แต่อาวุธลับสามชิ้นที่อีกฝ่ายยิงออกมา กลับมีสองในสามชิ้นที่ทะลุก่อนที่จะกระเด็นออกไป
หรือพูดได้อีกอย่างก็คือ หากเลเวลกำลังภายใน ทักษะยุทธ์หรือคุณภาพของอาวุธลับที่ใช้สูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ ก็อาจจะทะลุกำแพงกำลังภายใน ‘มังกรผงาดกลางทุ่ง’ ของเขาแล้วหรือเปล่า
เมื่ออาวุธลับสามชิ้นกระเด็นตกพื้น เยี่ยเว่ยหมิงก็จ้องไปตามพื้น กลับเห็นอาวุธคมรูปงูกะพริบแสงสีเงิน ความยาวประมาณสามจั้ง บนคมกะพริบแสงสีเขียวอ่อนๆ
นึกไม่ถึงว่าอาวุธลับที่ดูไม่สะดุดตาจะมีเอฟเฟ็กต์ที่น่ากลัวอย่างเจาะทะลุเกราะปราณแท้ได้!
แต่ในเมื่อศัตรูมีกองหนุน เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้สู้อย่างโดดเดี่ยวเช่นกัน!
เยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่ทางฝั่งนี้เพิ่งจะแก้การโจมตีด้วยอาวุธลับของเงาใจภูตได้ ถังซานไฉ่ก็พุ่งออกมาจากถ้ำชิงอินแล้ว เขาฉวยโอกาสตอนที่เงาใจภูตเพิ่งปล่อยอาวุธลับหมด บนตัวเผยจุดอ่อนที่หลีกเลี่ยงได้ยาก สาดอาวุธลับต่างชนิดหลายสิบชิ้นออกมา ไม่สนด้วยว่าจะถูกจุดสำคัญหรือจุดอ่อนหรือไม่ สนใจแต่ถล่มใส่หน้าสาวนิกายเบญจพิษ
แต่กลับคาดไม่ถึงว่าฝั่งตรงข้ามจะมีเงาร่างสีเขียวพุ่งออกมา ในมือโบกขลุ่ยที่ทำจากทองคำขึ้นลงไปมา เป็นท่วงท่าที่สง่างาม
ขณะเดียวกัน บนขลุ่ยในมือเขากลับเหมือนมีกาว ขอเพียงเข้าใกล้อาวุธลับที่อยู่รอบๆ ประมาณหนึ่งชุ่น ก็ราวกับได้รับแรงดูดบางอย่าง พวกมันเลี้ยวมากระแทกบนขลุ่ยทองในมือเขาเอง จากนั้นก็ร่วงลงอย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นผู้เล่นชุดเขียวคนนี้ ถังซานไฉ่ก็สีหน้าแย่ลงนิดหน่อย
ในการปะทะก่อนหน้านี้ เขาตายด้วยน้ำมือของคนคนนี้ ถูกขลุ่ยที่ดูไร้พิษภัยของอีกฝ่ายแทงตาย!
ทักษะยุทธ์ของอีกฝ่ายเป็นอริกับอาวุธลับของเขามาก
ตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงลอยลงมาเหยียบอยู่ข้างกายถังซานไฉ่แล้ว สายตาจ้องไปยังหกคนที่ล้อมเข้ามา พร้อมกล่าวเสียงต่ำ “จากที่หยั่งเชิงเมื่อครู่นี้ หลายคนข้างหน้าล้วนเป็นยอดฝีมือ ข้าว่าสู้กับคนสองคนยังมั่นใจว่าจะชนะ แต่ถ้าคนเยอะเกินไป…
“ฮ่าๆ!” ได้ยินคำพูดของเยี่ยเว่ยหมิง เลี้ยงบาสลงห่วงก็เอ่ยปากด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “เจ้าวางใจเถอะ พวกเราไม่ได้คิดจะหมาหมู่ แต่จะต่อสู้กับพวกเจ้าอย่างยุติธรรม”…ดังนั้น รบกวนทั้งสองท่านถอยเข้าไปในถ้ำชิงอินแต่โดยดี พวกเราสองคนรับรองว่าจะไม่ไล่ฆ่าทั้งสอง เอาอย่างนี้ดีไหม”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายท่าทางมั่นใจว่าจะชนะ เยี่ยเว่ยหมิงก็หลุดขำ “หากสู้กันซึ่งๆ หน้า ข้าไม่มีความสามารถสู้แบบหนึ่งต่อหก แต่ถ้าข้าคิดจะหนีขึ้นมา พวกเจ้าแน่ใจนะว่าจะขวางข้าได้”
เพิ่งจะสิ้นเสียงเยี่ยเว่ยหมิง ทุกคนก็ได้ยินเสียงตะโกนฆ่าดังมาจากกลุ่มผู้เล่นที่กำลังล้อมถ้ำชิงอิน ไม่น่าเชื่อว่าว่ามีคนตีฝ่าเข้ามาจากนอกกลุ่มคนที่กำลังล้อมถ้ำชิงอินในเวลานี้!
ถังซานไฉ่เห็นสถานการณ์แล้วดีใจมาก ยกนิ้วหัวแม่มือให้เยี่ยเว่ยหมิง “สหายเยี่ย ที่แท้เจ้าก็วางแผนทุกอย่างไว้แล้ว ก่อนหน้านี้ข้าไม่น่ากังวลเลย เจ้าปิดบังได้เนียนมาก!”
เยี่ยเว่ยหมิงเอามือลูบจมูก ในใจเต็มไปด้วยความงงงวยเช่นกัน
ที่เขาบอกว่ามั่นใจว่าจะฝ่าวงล้อมได้ก่อนหน้านี้ แม้จะไม่ได้คุยโอ้อวดก็ตาม แต่ที่จู่ๆ มีกำลังหนุนจากภายนอกโผล่มา เขากลับไม่รู้จริงๆ!
เขาถลันตัวกระโดดขึ้นมาบนหินก้อนใหญ่ข้างถ้ำชิงอิน มองภายนอกจากข้างบน แต่กลับเห็นทีมของผู้เล่นร้อยกว่าคนเริ่มสู้กับคนของเลี้ยงบาสลงห่วงแล้ว สามคนที่นำหน้ามาฝีมือแกร่งกล้ามาก สองในนั้นเป็นคนที่เยี่ยเว่ยหมิงรู้จัก
โดยเฉพาะเงาร่างสีแดงที่คุ้นตานั่น ก็ยิ่งทำให้เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกทอดถอนใจในความไม่แน่นอนของโลกนี้
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่เจ้าหมอนี่กระโดดออกมาช่วยตน
[1] กลยุทธ์ล้อมเว่ยช่วยจ้าว 围魏救赵 หมายถึงกลยุทธ์ที่ดึงกำลังพลให้กระจัดกระจาย ทำให้ศัตรูห่วงหน้าพะวงหลัง