ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 658 ภารกิจสุดยอดวิชาของสำนัก
ตอนที่ 658 ภารกิจสุดยอดวิชาของสำนัก
เมื่อเดาความคิดของหวงโส่วจุนได้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ถามอย่างตรงไปตรงมาทันที “หวงโส่วจุนเตรียมจะลงมือกับสำนักไหนขอรับ”
หวงโส่วจุนได้ยินแล้วถามกลับ “ไหนลองบอกความคิดของเจ้ามาสิ”
ที่จริงแล้ว ทักษะของน้องดาบแม้ฟังดูโหดร้ายไปบ้าง แต่หากลองคิดให้ละเอียด ก็จะพบว่าเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน
หากใช้ทักษะได้อย่างเหมาะสม ก็อาจไม่ได้ไปกว่าทักษะตัวอักษรฟ้าของเยี่ยเว่ยหมิงเลย
ถึงอย่างไรก็มีสำนักอยู่แล้ว ทั้งยังแฝงตัวเข้าไปอยู่กับสำนักอื่นได้ด้วย แสดงว่านางจะได้ใช้สวัสดิการของสำนักมือปราบเทพไปพร้อมๆ กับสำนักที่โชคร้ายสำนักอื่นอีก
ถึงขั้นว่าตอนที่ปฏิบัติภารกิจ ก็จะได้รับความช่วยเหลือจากสำนักมือปราบเทพในระดับหนึ่งด้วย กล่าวได้ว่าทำงานครึ่งเดียวได้ประโยชน์สองเท่า
และตอนที่นางปฏิบัติภารกิจบางอย่างในสำนักที่โชคร้ายแห่งนั้น ก็ยังกลับมาทำภารกิจของสำนักมือปราบเทพให้สำเร็จได้ด้วย จากนั้นก็เสริม ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’ ของนางให้สมบูรณ์ ถึงขั้นได้รับสุดยอดวิชาสายเดียวกับเก้าอิมที่มากกว่านั้นด้วย
แค่ทักษะของสำนักวิชาเดียว ก็ทำให้นางได้เสพสุขกับสวัสดิการถึงสองส่วน!
เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ!
หากถามว่าจะเลือกสำนักไหนให้เป็นสำนักที่โชคร้ายแห่งนั้น
เยี่ยเว่ยหมิงลังเลนิดหน่อย ก่อนวิเคราะห์อย่างไม่รีบร้อน “ทักษะตัวอักษร ‘ผี’ ของสำนักมือปราบเทพ แม้จะปกปิดตัวตนของน้องดาบได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงขั้นสร้างตัวละครใหม่ที่สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่มีทางปิดบังได้ ยกตัวอย่างเช่นค่าวีรบุรุษที่ต่ำจนน่าสงสารของนาง แล้วก็พวกสุดยอดวิชาที่นางมีอยู่แต่เดิม”
เยี่ยเว่ยหมิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเปลี่ยนมุมมองความคิดใหม่ “อีกทั้งหน้าที่ของสำนักมือปราบเทพก็คือจัดระเบียบยุทธภพ ไม่ให้พวกชาวยุทธ์ที่คุ้นเคยกับการใช้กำลังทำผิดก่อเรื่องอะไรใหญ่โต แต่การจัดระเบียบยุทธภพก็ไม่ใช่การทำลายยุทธภพ ถึงอย่างไรการให้คนในชาติรักษาจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ไว้ก็เกี่ยวข้องกับรากฐานของชาติเหมือนกัน…
…ดังนั้น พวกเราแค่ต้องปล่อยให้ยุทธภพดำเนินต่อไปอย่างดีในสภาพแวดล้อมที่อ่อนโยน หรือพูดได้อีกอย่างว่า สำนักฝ่ายธรรมะที่ค่อนข้างเคารพกฎอย่างอู่ตังกับเส้าหลิน พวกเราควรดึงมาร่วมงานกัน ไม่จำเป็นต้องเพ่งเล็งเกินไป…
…สำนักที่พวกเราควรเพ่งเล็ง ก็คือพวกสำนักฝ่ายอธรรมที่ไม่สนกฎระเบียบ รวมทั้งพวกทะเยอทะยานที่กลัวว่าใต้หล้านี้จะไม่วุ่นวาย…
…หากประกอบกับค่าวีรบุรุษบนตัวน้องดาบ สำนักฝ่ายอธรรมที่ไม่สนกฎระเบียบพวกนั้นถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของนาง!”
เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดแบบนี้ หวงโส่วจุนก็มองน้องดาบปราดหนึ่ง เขาจะสื่อว่า: เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไร ข้าบอกแล้วว่าเจ้าเด็กนี่ความคิดเหมือนกับข้า
น้องดาบเห็นแล้วไม่เถียง เอ่ยถามทันทีว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าคิดว่าในบรรดาสำนักฝ่ายอธรรม สำนักไหนที่เหมาะจะให้ข้าไปเป็นสายลับมากที่สุด”
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นกล่าวอย่างคล่องปาก “ในบรรดาสำนักฝ่ายอธรรมมากมายในยุทธภพ ที่โด่งดังที่สุดก็คือสำนักดาบโลหิต สำนักดาวดึงส์ เขาอูฐขาว พรรคสุริยันจันทรา นิกายเบญจพิษและพรรคจรัส หกสำนักนี้…
…ในจำนวนนี้ สำนักดาบโลหิตเป็นเพียงสำนักขนาดเล็ก อีกทั้งหลังจากปรมาจารย์ดาบโลหิตตายไปแล้ว สถานการณ์และฐานะของสำนักก็เกิดความเปลี่ยนแปลงเยอะมาก เจ้าสำนักรุ่นที่หกของสำนักดาบโลหิตตอนนี้คือคนธรรมดาเดินดิน ยามที่เขาเผชิญหน้ากับน้องดาบ ต่อให้ไม่ถึงขั้นยอมจำนน แต่ก็ไม่กล้าเหิมเกริมเกินไปแน่นอน ดังนั้นตราบใดที่น้องดาบยังอยู่ที่สำนักมือปราบเทพ สำนักดาบโลหิตก็ก่อความวุ่นวายอะไรไม่ได้…
…เขาอูฐขาวแม้จะนับเป็นสำนักในยุทธภพเช่นกัน แต่กลับจัดเป็นประเภทหมู่บ้านภูเขา มีการสืบทอดวิชากันในตระกูล นอกจากโอวหยางเฟิงกับโอวหยางเค่อ ก็ไม่ค่อยมีลูกศิษย์ที่เป็น NPC ในยุทธภพ แม้แต่ลูกศิษย์ที่เป็นผู้เล่นก็น้อยมากเช่นกัน ดังนั้นจึงสร้างภัยคุกคามได้ไม่มาก การจะแทรกซึมเข้าไปข้างในก็เป็นเรื่องยากเหมือนกัน…
…เรียกได้ว่าถ้าเข้าไปเป็นสายลับในเขาอูฐขาว ความคุ้มค่าต่ำมาก! ที่ข้านำเรื่องนี้มาพูด ก็เพราะมีโอวหยางเฟิงที่เป็นหนึ่งในห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้าอยู่ด้วย จึงทำให้สำนักดูมีระดับขึ้นมาก็เท่านั้นเอง…
…ส่วนนิกายเบญจพิษ สำนักดาวดึงส์ สองสำนักนี้เป็นสำนักขนาดเล็กที่เน้นฝึกวิชาพิษเป็นหลัก สำนักหนึ่งอยู่เหนือสุด อีกสำนักอยู่ฝั่งใต้ ไม่ว่าจะพูดถึงขนาดหรือตำแหน่งที่ตั้งของสำนัก ก็ส่งผลต่อยุทธภพภาคกลางค่อนข้างน้อย ประกอบกับวิชาพิษของสองสำนักนี้ไม่สอดคล้องกับแนวทางทักษะยุทธ์เดิมของน้องดาบ ตัดออกได้เหมือนกัน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ชะงักเล็กน้อย จากนั้นก็พูดต่อ “ดังนั้น สุดท้ายก็มีสองทางเลือกที่เหมาะที่สุด พรรคจรัสกับพรรคสุริยันจันทราพี่เหมือนจะมีความเกี่ยวข้องกันมากมายนับไม่ถ้วน…
…สองสำนักนี้ไม่เพียงแค่เคลื่อนไหวที่ภาคกลางบ่อย ทั้งยังเป็นสองสำนักมีศักยภาพสูงสุดและกำพืดลึกที่สุดในบรรดาสำนักฝ่ายอธรรมด้วย หลายสำนักที่เอ่ยถึงก่อนหน้านี้เทียบไม่ติด ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นสายลับ…
…เกี่ยวกับพรรคจรัส ที่จริงข้าน้อยเตรียมการบางอย่างไว้นานแล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นเป็นตอนและชัดเจน สุดท้ายก็ให้คำตอบว่า “ดังนั้น จากมุมมองส่วนตัวของข้า ควรให้น้องดาบไปเป็นสายลับที่พรรคสุริยันจันทรามากกว่า…
…แต่นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น อาจจะไม่ถูกต้อง” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างจริงจังเป็นพิเศษ “รายละเอียดว่าจะเลือกสำนักไหน ข้ารู้สึกว่าควรเคารพความเห็นของน้องดาบเอง…
…ถึงอย่างไร ก็มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้จักตัวเองดีที่สุด รู้ดีที่สุดว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่”
เมื่อฟังเยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์จบ บนใบหน้าน้องดาบกับหวงโส่วจุนกลับเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมาพร้อมกัน
ครู่ต่อมา เยี่ยเว่ยหมิงก็พบว่าเงาร่างของน้องดาบเหมือนจะเกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชั่วพริบตาเดียว
นางยังคงสวมชุดสีแดงตัวนั้น แต่ผมงามสีดำขลับกลับยาวขึ้นเยอะมาก ตอนนี้ยาวถึงเอวแล้ว
เหมือนกับใช้ยาเร่งอะไรสักอย่าง แค่ส่งเสียงนิดเดียวผมก็ยาวขึ้นมากแล้ว!
สิ่งนี้ทำให้หน้าตาและสง่าราศีของนางเกิดความเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย เปลี่ยนจากสาวน้อยน่ารักซุกซนกลายเป็นสาวสวยที่ภูมิฐานสง่างาม ความสดใสลดลงหลายส่วน แต่เสน่ห์เฉพาะตัวของสตรีที่โตเป็นผู้ใหญ่กลับเพิ่มขึ้น
แม้แต่อวัยวะสองจุดพี่ไม่อาจบรรยายได้บนร่างกายนาง ก็เปลี่ยนจากขนาดเล็กเป็นขนาดใหญ่ในชั่วพริบตาเดียว ให้ความรู้สึกเหมือนจะล้นออกมา
มารดาเจ้าเถอะ!
บอกข้าทีว่านี่คือผลลัพธ์ของวิชาแปลงโฉม ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงตัวเองที่บรรยายอยู่ในนิยายแปลกๆ
ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกแปลกใจและกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว น้องดาบกลับกุมหมัดคารวะ “ทำความรู้จักกันใหม่สักหน่อย ศิษย์พรรคสุริยันจันทรา ‘หรูหว่อสั่วซา’ คำนับจอมยุทธ์น้อยเยี่ยจากสำนักมือปราบเทพ”
น้องดาบแค่เอ่ยปากพูดเท่านั้นเอง ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พบว่าไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แม้แต่เสียงพูดก็เปลี่ยนตามหน้าตาด้วยเช่นกัน น้ำเสียงดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว
ขณะเดียวกัน เสียงแจ้งเตือนระบบก็ดังขึ้นข้างหูเยี่ยเว่ยหมิง
[ติ๊ง! ผู้เล่น ‘หรูหว่อสั่วซา’ ส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงคุณ จะรับหรือไม่]
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงกดยอมรับโดยจิตใต้สำนึก จากนั้นกลับพบว่าในรายการชื่อเพื่อนของเขา มีรูปโปรไฟล์ที่เหมือนกันสองคนอยู่ด้วย หนึ่งคนคือ ‘หนึ่งดาบสามเฉือน’ ที่ไร้สำนัก
ส่วนอีกคนคือ ‘หรูหว่อสั่วซา’ จากพรรคสุริยันจันทรา!
นี่ก็คือการสลับตัวตนตามที่ข้อมูลของทักษะแนะนำไว้งั้นเหรอ
สุดยอดจริงๆ ด้วย!
ตอนนี้กลับได้ยินหวงโส่วจุนเอ่ยขึ้นว่า “ในเมื่อเป้าหมายที่พวกเจ้าเลือกตรงกัน เช่นนั้นภารกิจต่อไป พวกเจ้าก็ทำด้วยกันเลยแล้วกัน”
[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจพิเศษของสำนัก ‘สองคนสองคม’]
[สองคนสองคม]
ตอนนี้หนึ่งดาบสามเฉือนใช้ตัวตนที่สองเข้าพรรคสุริยันจันทราแล้ว แต่พรรคสุริยันจันทราเข้มงวดเรื่องเลเวล ลูกศิษย์ทั่วไปในสำนักแทบจะไม่มีศิษย์มีเสียงใดๆ
ในฐานะที่คุณคือผู้ติดต่อของหนึ่งดาบสามเฉือน ควรช่วยนางสร้างฐานะในพรรคสุริยันจันทราโดยเร็วที่สุด สร้างตำแหน่งและฐานะขึ้นมา อย่างน้อยก็ต้องมีสิทธิ์ออกเสียงในกลุ่มบางกลุ่ม
เงื่อนไขภารกิจ: ช่วยให้หรูหว่อสั่วซากลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มบางกลุ่มในพรรคสุริยันจันทรา หรือทำให้นางมีฐานะสูงขึ้น
รางวัลภารกิจ: ส่วนหนึ่งของสุดยอดวิชาสำนัก รายละเอียดรางวัลกำหนดตามระดับความสำเร็จของภารกิจ
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: ไม่มี
ระยะเวลาภารกิจ: ไม่มี
……
หลังจากเห็นภารกิจระดับสุดยอดวิชาของสำนัก เยี่ยเว่ยหมิงก็อดตกตะลึงไม่ได้ จากนั้นก็ถามน้องดาบอีกว่า “เรื่องภายในของพรรคสุริยันจันทรา ความรู้ของข้ามีจำกัดมาก ในเมื่อเจ้าเข้าสำนักสำเร็จแล้ว เช่นนั้นเจ้ารู้หรือเปล่าว่าจะได้รับค่าผลงานสำนักจำนวนมากโดยเร็วที่สุดได้อย่างไร มีวิธีการอะไรที่จะยกฐานะในสำนักของเจ้าให้สูงขึ้นภายในเวลาสั้นๆ”
“ข้าก็ต้องรู้อยู่แล้วสิ” น้องดาบยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ตอนนี้พรรคสุริยันจันทรากำลังทำภารกิจไล่ฆ่า ต้องสังหารศิษย์ทรยศที่ชอบแอบก่อเรื่องคนหนึ่งในพรรคสุริยันจันทรา ขอแค่ทำภารกิจไล่ฆ่าครั้งนี้สำเร็จ ก็จะได้รับค่าผลงานสำนักมหาศาลแน่นอน ถึงขั้นว่ากลายเป็นตัวละครที่มีบทบาทระดับหนึ่งในสำนักด้วย ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น!”
“แค่ฆ่าคนคนเดียวก็ทำภารกิจสำเร็จได้แล้วหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงถามต่ออย่างไม่เข้าใจ “เจ้าต้องการไล่ฆ่าเจ้าคนโชคร้ายคนไหน”
“ทูตขวาพรรคสุริยันจันทรา BOSS เลเวลร้อยยี่สิบห้า เซี่ยงเวิ่นเทียน!”