ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) - บทที่53 พล็อตเรื่องผกผัน!(2)
ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) บทที่53 พล็อตเรื่องผกผัน!(2)
เห็นสีหน้าของโจวฉ่ายเวยเปลี่ยนไป หัวใจของซุนเย่าเหวินจมดิ่งโดยสิ้นเชิงแล้ว
ความหวังเพียงเล็กน้อยที่อยู่ในใจ ก็สูญสลายโดยสิ้นเชิง
เมื่อกี้ฉินเฟยให้แค่ข้อมูลเช่นนี้กับเขา บอกว่าโจวฉ่ายเวยแอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอย่างลับๆกับน้องชายมาหลายปี ถึงที่ว่าแอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกันมาตลอด
และผู้ช่วยพิเศษหลิวได้ทราบข่าวจากทางบอดี้การ์ดว่า เมื่อวานตอนบ่ายโจวฉ่ายเวยไปวิลล่าเหยียนหยุนมาแล้ว พวกเขาแค่คุ้มกันอยู่ล่างตึก
สุดท้ายแล้วโจวฉ่ายเวยไปทำอะไรที่ชั้นบน พวกเขาก็ไม่รู้
ซุนเย่าเหวินช่างฉลาดเหลือเกิน นี่กำลังใช้กลอุบายทำให้เธอหวาดกลัว!
จริงๆแล้วซุนเย่าเหวินไม่ได้คิดที่จะเชื่อคำพูดของฉินเฟยและบอดี้การ์ดเลยด้วยซ้ำ และก็ไม่เต็มใจที่จะเชื่อด้วย
เพราะว่าเขาไม่รู้เรื่องว่าฉินเฟยคือใครและทำไมถึงรู้เรื่องความลับมากมายขนาดนี้ ตัวเองก็มีความน่าสงสัยมาก
แต่ตอนนี้ สิ่งที่ซุนเย่าเหวินยิ่งเป็นกังวล ยังคงเป็นเรื่องครอบครัวของตัวเอง
เรื่องเหล่านี้ที่ฉินเฟยพูดกับตัวเอง สำหรับเขาแล้วมันสำคัญมาก!
เขาอยากจะไปพิสูจน์สักหน่อย
“ห๊ะ……งั้น งั้นเหรอ?เพื่อนของคุณมองผิดแล้วหรือเปล่า?”
แม้ว่าซุนเย่าเหวินไม่พูดว่าเรื่องอะไร แต่โจวฉ่ายเวยลนลานแล้วจริงๆ เธอไม่รู้ว่าแอบออกไปมีความสัมพันธ์กับโจวต้าเฉียงกว่ากี่ครั้งแล้ว เจ็ดปีที่ผ่านมาพวกเขาเป็นพยานเท็จให้กันและกัน ไม่เคยเกิดเรื่องอะไรเลย
นี่ก็ทำให้พวกเขากล้ามากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเวลานานเข้าก็ไม่สลับกันเป็นพยานเท็จให้กันอีก เมื่อวานเธอแค่ได้ยินว่าโจวต้าเฉียงจองสถานที่ที่วิลล่าเหยียนหยุนไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ตัวเองแอบไปหาเขา โจวฉ่ายเวยถึงขั้นที่ว่าไม่รู้เลยว่าโจวต้าเฉียงไปคุยกับลูกค้า
เพราะว่าซุนเย่าเหวินไม่เคยสงสัยสถานะพี่น้องของพวกเขามาก่อนเลย เพราะงั้นยิ่งกำเริบเสิบสาน
“เพื่อนของผมมองผิดไป?แม้แต่ภรรยาของผมก็มองผิดได้?งั้นผมจะโทรศัพท์เดี๋ยวนี้เลย” ซุนเย่าเหวินพูดกล่าว
“ห๊ะ จริงสิ ฉันคิดขึ้นได้แล้ว เมื่อวานตอนบ่ายฉันไปวิลล่าเหยียนหยุนมาจริงๆ ก็อุดอู้อยู่ในบ้านเป็นเวลานานแล้วอยากจะออกไปเดินเตร่ แต่ว่าประมาณสี่โมงกว่าก็ไปรับลูกชายเลิกเรียนแล้ว……”โจวฉ่ายเวยตกใจจนรีบกลับคำพูดอธิบาย ถ้าหากกล้องวงจรปิดถ่ายเธอติดแล้ว ในเวลานี้โกหกจะยิ่งแย่มากขึ้นเท่านั้น
แต่เธอเชื่อ ถ่ายบันทึกคลิปวิดีโอของเธอและโจวต้าเฉียงไม่ติดแน่นอน วิลล่าเหยียนหยุนไม่ใช่โรงแรมเล็กๆเหล่านั้น ที่ห้องถูกติดตั้งกล้องวงจรปิด ยิ่งไปกว่านั้น ในเรื่องแบบนี้ โจวต้าเฉียงก็จัดการอย่างระมัดระวังอย่างมากมาตลอด
ซุนเย่าเหวินมองโจวฉ่ายเวยอย่างนิ่งๆ ใต้ชายแขนเสื้อสูท กำหมัดไว้แน่น เส้นเลือดดำปูดขึ้น
“ที่รักทำไมจู่ๆคุณถามเรื่องเหล่านี้กับฉันทำไมเหรอ?ไอ้เศษสวะนี้เขาด่าฉัน คุณก็ไม่สนใจ?”โจวฉ่ายเวยจับแขนของซุนเย่าเหวินทันที ชี้ไปยังฉินเฟยอย่างตื่นเต้น พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของเขา เริ่มใช้กลอุบายเหมือนเดิมอีก พาลไม่ยอมฟังเหตุผล
เปรี๊ยะ!
เสียงตบหน้าดังขึ้นมาอย่างชัดเจน
ดังก้องทั้งร้านอาหารแล้ว!
ซุนเย่าเหวินตบสะบัดออกไปด้วยความโกรธ โจวฉ่ายเวยกรีดร้อง คนทั้งคนกระเด็นลอยออกไปเลย!
และกระแทกมุมโต๊ะอาหาร หน้าผากกระแทกจนเลือดออกแล้ว
แก้มที่งดงามและประณีตข้างหนึ่งบวมเป่งเกิดรอยฝ่ามือห้านิ้วสีแดงสดทันที ถึงขั้นมุมปากก็มีเลือดสดๆไหลออกเห็นได้ว่าซุนเย่าเหวินตบอย่างหนักหน่วง!
โจวฉ่ายเวยถูกตบจนมึนแล้ว!
คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดก็มึนแล้วเช่นกัน!
ซุนเย่าเหวินมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องรักภรรยาอย่างสุดซึ้ง ทำไมจู่ๆถึงตบหน้าเธอต่อหน้าผู้คนมากมายแล้ว แถมยังลงมือหนักขนาดนี้อีกด้วย?
แม้แต่หนังตาของเจียงเยว่ถงก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกครู่หนึ่งแล้ว
เธอหันหน้า มองไปยังฉินเฟยทันที
เรื่องราวต่างๆบอกเธอว่า ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของฉินเฟยทั้งนั้น ตั้งแต่ที่เขาพูดว่าอยากลองเสี่ยงดู จนถึงโจวฉ่ายเวยปรากฏตัวออกมาและฉินเฟยก็เหมือนรนหาที่ตายกระตุ้นให้โจวฉ่ายเวยโมโห แถมยังหลอกล่อให้ซุนเย่าเหวินมา……
แต่ว่า ฉินเฟยพูดอะไรกับซุนเย่าเหวินบ้างกันแน่?
“พวกนายพาคุณหญิงกลับไปก่อน”ซุนเย่าเหวินพูดสั่งบอดี้การ์ดสองคนข้างๆด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์: “เฝ้าดูให้ดี อย่าให้เธอออกไปสร้างปัญหาอีก”
“ครับ”
บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว เหมือนว่าตกใจกับตบของซุนเย่าเหวินจนบื้อไปแล้ว ในเวลานี้ได้ยินเสียงสั่งของซุนเย่าเหวิน รีบตอบกลับทันที ประคองโจวฉ่ายเวยที่ถูกตบจะบื้อขึ้นมา พาตัวออกไปแล้ว
ซุนเย่าเหวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหลังจากนั้นก็หันหน้ามองไปยังรอบๆแวบหนึ่งแล้ว ใบหน้าเผยคำขอโทษ : “ทำให้ทุกท่านเห็นเรื่องน่าขำแล้ว ขอโทษทุกท่านด้วยนะ ภรรยาถูกผมตามใจจนเสียนิสัยแล้ว ทำลายความงดงามของมื้ออาหารค่ำของทุกท่านแล้ว ขอโทษทุกท่านด้วย”
ซุนเย่าเหวินพูดไปพลาง ประสานมือ ถึงขึ้นพยักหน้าแสดงคำขอโทษทุกโต๊ะ กิริยาท่าทางเหมาะสมอย่างมาก
“เถ้าแก่ซุนเกรงใจกันแล้ว”
“เถ้าแก่ซุนคุณไปยุ่งธุระเถอะ ไม่มีปัญหา”
มีคนในร้านอาหารตอบซุนเย่าเหวินกลับทันที มีเถ้าแก่สามสี่คนลุกขึ้นยืนพูดอย่างสุภาพแล้ว
“เหอะๆ ไม่ว่าจะพูดยังไง วันนี้ก็เป็นความผิดของภรรยา ค่าอาหารของทุกท่านที่นั่งอยู่ในวันนี้ คิดเงินกับผมซุนเย่าเหวิน ทุกท่านทานให้อร่อย ถือว่าผมซุนเย่าเหวินขอโทษต่อทุกท่าน”
นี่ก็คือท่าทางของบุคคลยิ่งใหญ่!
แม้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ค่อนข้างน่าอับอาย ถึงขั้นไม่ต่างอะไรกับข่าวด่วน ทำให้คนคิดเชื่อมโยงกับเรื่องราวได้มากมาย แต่ท่าทางของซุนเย่าเหวินไม่ทำให้คนเขาเกิดความไม่พอใจเลยสักนิด ในทางกลับกันยังชื่นชมอีกด้วย
“เถ้าแก่ซุนเกรงใจเกินไปแล้ว……”มีคนสามสี่ลุกขึ้นยืนแล้ว
“นั่งๆ ทุกคนรีบนั่งนะ พวกคุณทานให้อร่อย วันนี้ขอโทษทุกท่านจริงๆนะ ขอโทษๆ ” ซุนเย่าเหวินยื่นมือออกไปทำไม้ทำมือ ขอโทษคนรอบๆตัวอีกครั้ง
เห็นคนที่ร้านอาหารนั่งลงแล้ว ซุนเย่าเหวินถึงได้รับกลับมายังข้างกายของลูกค้า
ผู้นำคือชายที่ใส่เสื้อขนสัตว์บางๆสีเทาดำ อายุประมาณ60กว่าปี มองดูแล้วเหมือนว่าจะเป็นชายชราธรรมดาที่เกษียณ
“พี่ชาย ขอโทษนะ ให้ทุกคนเห็นเรื่องน่าขำแล้ว……”ซุนเย่าเหวินขอโทษก่อน น้ำเสียงค่อนข้างขื่นขม
“เหล่าซุน นี่นาย……”ชายชราเสื้อขนสัตว์สีเทาใกล้เข้ามาครึ่งก้าว พูดถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“โธ่เอ๊ย เรื่องนี้ไม่พูดถึงให้แปดเปื้อนหูของพี่ชายแล้ว……”ซุนเย่าเหวินโบกไม้โบกมือ ไม่อยากพูดอะไรมากมาย
แม้ว่าพวกเขาเห็นทั้งหมดแล้ว แต่คาดเดาในบทสนทนาของซุนเย่าเหวินและโจวฉ่ายเวยไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ว่ามีหมายความว่ายังไง เพราะว่าเรื่องที่พูดคือเรื่องที่โจวฉ่ายเวยไปวิลล่าเหยียนหยุนกับน้องชายของเธอเมื่อวานนี้
พวกเขาต่างก็รู้ว่าเป็นน้องชายแท้ๆของโจวฉ่ายเวย ไม่มีทางคิดไปทางด้านของคนรักโดยปริยาย ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ได้ทางคาดเดารายละเอียดหลักๆของเรื่องราวได้
เพราะว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ความลับที่ปิดไว้ทั้งหมด ฉินเฟยได้ใช้โทรศัพท์ส่งข้อความให้ซุนเย่าเหวิน นี่ก็หลีกเลี่ยงไม่ให้มีใครมาแอบฟังได้
นี่ก็เป็นความรอบคอบของฉินเฟย ในฐานะที่ตอนนั้นเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลฉิน เขาถูกตั้งความหวังไว้สูงตั้งแต่เด็ก และอบรมเลี้ยงดูอย่างสุดใจ ตอนอายุ13ปีก็รับช่วงต่อบริษัทแห่งหนึ่งแล้ว ถือว่าครอบครัวให้ฝึกประสบการณ์ ไม่ว่าคนแบบไหนเขาก็ได้เคยสัมผัสมาหมด ยิ่งไปกว่านั้นก็รู้ว่าบางเรื่องใช้วิธีการแบบไหน ผลลัพธ์ที่ได้จะดียิ่งกว่า
ฉินเฟยไม่ได้เลือกที่จะพูดตรงหน้าผู้คน ในเมื่อเป็นแบบนี้โทษที่โจวฉ่ายเวยได้รับจะใหญ่มากยิ่งขึ้น ถึงขั้นลดอันดับเป็นตัวตลกของทั้งซงไห่ แต่ซุนเย่าเหวินล่ะ?
นี่ไม่ต่างอะไรกับตั้งใจทำเรื่องชั่วแล้ว
ในมุมมองของฉินเฟย ซุนเย่าเหวินเป็นบุคคลที่คู่ควรที่จะคบหาเป็นเพื่อน นอกจากนี้ นี่ก็ขัดต่อความตั้งใจเดิมของเขา เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดในวันนี้ของเขาคือจัดการข้อพิพาทของตระกูลเจียงและตระกูลซุน แต่ไม่ได้มาเพื่อล่วงเกินซุนเย่าเหวิน
ลูกค้าที่ซุนเย่าเหวินเชิญมาก็ไม่มีใครเป็นคนโง่ ใครๆต่างก็มองออกว่าตอนนี้ซุนเย่าเหวินอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก ไม่มีทางถามอะไรมากมายไปโดยปริยาย
“พี่ชายพวกคุณขึ้นไปดื่มชาที่ชั้นบน ฉันยังมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องจัดการนิดหน่อย ขอโทษทุกท่านด้วย อีกเดี๋ยวฉันตามไป”ซุนเย่าเหวินทำไม้ทำมือ ควักเรียกให้ผู้ช่วยเดินมา ปากพูดกำชับให้เขาดูแลลูกค้ของตัวเองให้ดี
“ไม่เป็นไร พวกเราก็ไม่ได้รีบร้อน เหล่าซุนคุณไปทำธุระก่อน”ชายชราที่ใส่เสื้อขนสัตว์สีเทาโบกไม้โบกมือ
ซุนเย่าเหวินจับมือของเขา ทั้งสองคนพูดไปพลาง เดินขึ้นด้านบนไปพลาง
……
หลังจากที่เจียงเยว่ถงพูดแย้งซุนเย่าเหวิน ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลย มองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด ท้ายที่สุดสายตาก็ทอดมองไปยังฉินเฟยอย่างเงียบๆ
เผชิญหน้ากับคำถามและสายตาที่สงสัยของเจียงเยว่ถง ฉินเฟยทำได้เพียงฝืนยิ้มกลับไป
ตอนนี้โอกาสไม่เหมาะ เขาพูดไม่ได้จริงๆ
อีกอย่าง เรื่องราวนี้มันช่างยาวเหลือเกินจริงๆ……
“เหอะๆ เยว่ถง พี่ขอโทษแกนะ พี่ว่าเธอไปหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ไม่เชื่อฟัง ครั้งนี้มาก่อกวนแกอีก พี่ขอโทษแกด้วยนะ”
ซุนเย่าเหวินที่ไปส่งแขกก็กลับมาแล้ว ขอโทษเจียงเยว่ถงเลย เขายังถือว่าคุ้นเคยกับเจียงเฟิ่งหยุน เจียงเยว่ถงเป็นคนรุ่นหลังของเขา ก็ไม่ได้อะไร
แต่ประเด็นคือ ซุนเย่าเหวินริเริ่มขอโทษเจียงเยว่ถง?
ทุกคนต่างก็ตาเบิกกว้างแล้ว ถึงขั้นมีคนสามสี่คนอดไม่ได้ที่จะยื่นมือล้วงในหู สงสัยว่าตัวเองฟังผิดแล้ว
วันนี้ เกิดอาเพศอะไรขึ้นแล้วเหรอ?
ในเวลานี้มีผู้คนมากมายคิดโยงไปถึงคำพูดในเมื่อก่อนที่เจียงเยว่ถงโต้แย้งกับซุนเย่าเหวิน สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นสดใสมากยิ่งขึ้นแล้ว
คนบนโต๊ะอาหารต่างก็มองหน้ากัน หรือว่าอำนาจที่แข็งแกร่งของตระกูลเจียงผงาดขึ้นแล้วงั้นเหรอ?แม้แต่ซุนเย่าเหวินก็จะต้องยอมอ่อนข้อให้?
ทุกคนอยู่ที่ซงไห่กันทั้งนั้น ทำไมพวกเขาไม่ได้รับข่าวคราวนี้?
เห็นได้ชัดว่า ซุนเย่าเหวินจงใจที่จะพูดเช่นนี้ เพราะว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คาดว่าคนที่นั่งอยู่บนที่นั่งในตอนนี้แม้ว่าปากจะไม่พูดอะไรก็ตาม แต่ในใจต่างก็คาดเดาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างเขาและโจวฉ่ายเวยสองสามีภรรยาคู่นี้กันแน่
แม้ว่าเขาขอโทษเด็กน้อยของตระกูลเจียงค่อนข้างเสียหน้า แต่ดีกว่าให้เขารู้ว่าเขาถูกสวมเขา อีกอย่างถูกสวมเขามา7ปีแล้ว!
“คุณลุงซุนเกรงใจกันแล้ว ฉันยังคิดว่าคุณจะโกรธฉันเสียอีกนะ”เจียงเยว่ถงมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรวดเร็ว ยิ้มอย่างไม่แคร์
“ไม่มีทางแน่นอน แกเป็นหลานสาวของฉันนะ ฉันเป็นเพื่อนเก่าแก่กับพ่อของแก”ซุนเย่าเหวินหัวเราะเหอๆ
“เสี่ยวถง ยืมใช้สามีของแกหน่อยเป็นยังไง?”ซุนเย่าเหวินถึงได้มองไปยังฉินเฟยที่นั่งอยู่ข้างๆเจียงเยว่ถง
เจียงเยว่ถงพูดในใจว่าเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ แต่ว่าเธอไม่ใช่หญิงปากร้ายอย่างโจวฉ่ายเวยแบบนั้น เอียงศีรษะมอง เผยคำถามนัยน์ตา ฉินเฟย : “ที่รัก ฉันรอคุณอยู่ในนี้ก่อน?”
ซุนเย่าเหวินตะลึงเล็กน้อย เปล่งเสียงในใจว่าเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆเช่นกัน!
ข่าวลือลืออยู่ตลอดว่า เจียงเยว่ถงแต่งงานกับสามีเศษสวะคนหนึ่ง แต่ว่าวันนี้เขาเห็นฉินเฟยครั้งแรก ก็รู้สึกว่าวัยรุ่นคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่รู้สึกสะทกสะท้านจากการข่มขู่ของตัวเองได้ ไม่ใช่วัยรุ่นใครคนไหนก็ทำได้
“อยากที่จะทำความรู้จักกับเถ้าแก่ซุนตั้งนานแล้ว” ฉินเฟยลุกขึ้นยืน ยิ้มเล็กน้อย
“ไปห้องวีไอพีกันดีกว่า เชิญ” ซุนเย่าเหวินมองฉินเฟยอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ทำท่าทำทางสื่อความหมายแล้ว
“โอเค”