ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 116
บทที่ 116 ขอคุณเย่ช่วยชีวิต
ซ่งหวั่นถิงคิดไม่ตกว่า ทำไมทั้งที่อาจารย์ล่ายเพิ่งจะปรับโชคชะตาให้กับตนเอง แล้วก็ยังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้?
ในขณะนี้คนที่พูดโทรศัพท์ฝ่ายนั้นพูดว่า: “ไม่มีวิธีอื่นแล้วคุณผู้หญิง ตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามเรียกร้องอย่างหนักว่าจะต้องชดเชยสามเท่า พวกเราถูกเล่นงานหนักเลย! ”
ซ่งหวั่นถิงรีบถามต่อทันที: “มีผิดพลาดอะไรเหรอเปล่า? ได้ให้พวกเขาตรวจเช็คอีกครั้งแล้วหรือยัง! ”
ฝ่ายตรงข้ามพูดว่า: “ฉันได้พูดกับพวกเขาไปแล้ว แต่ว่าพวกเขาบอกว่าตรวจเช็คแล้วสองรอบ ก็ยังคงไม่ได้มาตรฐาน! ”
ซ่งหวั่นถิงพูดต่อว่า: รีบตรวจเช็คตั้งแต่จุดเริ่มต้น ดูบันทึกการส่งออกของพวกเรา สินค้าล็อตนี้ผลิตขึ้นเมื่อไหร่ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ หาคนนั้นให้เจอแล้วถามรายละเอียดให้ชัดเจน! ”
พูดเสร็จ แล้วเธอก็พูดอีกว่า: “ฝ่ายอเมริกานั้นหากเธอสามารถยื้อเวลาไว้ได้ก็ยื้อเวลาไว้ จากนั้นค่อยส่งคนไปตรวจสอบยังสถานที่จริงอีกที! ”
“ ตกลง! ”
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว ซ่งหวั่นถิงมีท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์
เธอมองไปที่อาจารย์ล่ายแล้วถามว่า: “ท่านอาจารย์ ฉันประสบกับปัญหาที่แก้ไขยากมากเรื่องหนึ่ง ถ้าหากแก้ไขไม่ได้ จะต้องขาดทุนเสียหายเป็นจำนวนเงินมากกว่าห้าร้อยล้านเลยทีเดียว เธอไม่ใช่ปรับโชคชะตาให้ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ? ! ”
อาจารย์ล่ายหลบสายตาของซ่งหวั่นถิง แล้วพูดอย่างตะกุกตะกักว่า “การปรับโชคชะตาก็ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าจะปรับแล้วก็เห็นผลเลย……”
ซ่งหวั่นถิงย้อนถามอีกว่า: “แม้ว่าจะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ไม่ถึงขั้นพบเจอเรื่องร้ายเรื่องใหม่ทันทีเลยเหรอเปล่า! ”
เวลานี้ ซ่งหวั่นถิงก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณชายคนโตตระกูลหลี่จากฮ่องกง! ”
เธอรีบรับสายโทรศัพท์ ยิ้มและพูดว่า: “สวัสดีคุณชายหลี่! ”
“คุณซ่ง” ฝ่ายตรงข้ามพูดด้วยน้ำเสียงอย่างเย็นชาว่า: “พวกเราพิจารณาแล้ว คิดว่าตระกูลซ่งคงยังไม่ใช่หุ้นส่วนความร่วมมือที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับพวกเรา ดังนั้นพวกเราเกรงว่าจะต้องยุติความร่วมมือเพียงฝ่ายเดียวแล้ว”
“ยุติความร่วมมือ? !” ซ่งหวั่นถิงโมโหในทันที แล้วพูดว่า: “คุณชายหลี่ คุณคงมองออกนะว่า หากเปรียบเทียบระหว่างพวกเรากับอีกฝ่ายหนึ่ง แน่นอนว่าพวกเรามีความได้เปรียบกว่าในทุกด้าน! ตระกูลหลี่ร่วมมือกับพวกเราตระกูลซ่ง คือทางเลือกที่ดีที่สุด……”
ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะแล้วพูดว่า: “พูดตามความจริง อาจารย์ข้างกายคุณพ่อท่านหนึ่งกำลังคำนวณฮวงจุ้ย เขาบอกว่าสถานภาพของตระกูลซ่งเหมือนว่าจะไม่ค่อยเข้ากับตระกูลหลี่สักเท่าไหร่ หากยังคงร่วมมือกับทางพวกคุณต่อไป มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะส่งผลกระทบกับโชคชะตาของตระกูลหลี่ ดังนั้น ต้องขอโทษคุณซ่งด้วย”
เมื่อพูดจบ ฝ่ายตรงข้ามก็วางสายโทรศัพท์
นี่มัน……
ซ่งหวั่นถิงเดิมทีคิดว่าจะอาศัยโอกาสนี้ทำให้ตระกูลซ่งก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น คิดไม่ถึงว่ากลับกลายเป็นคว้าน้ำเหลว ในใจรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
ขณะนี้อาจารย์ล่ายเริ่มจะลุกลี้ลุกลนแล้ว เดิมทีเขาคิดว่าจะหลอกเงินเธอสักก้อนแล้วก็รีบหนีไป คิดไม่ถึงว่าทำไมหลังจากที่ตนเองทำพิธีแล้วนั้น ซ่งหวั่นถิงจึงโชคร้ายดวงซวยหนักขึ้นกว่าเดิมอีก?
เขารู้สึกว่าอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว ครั้นแล้วก็รีบพูดไปว่า: “คุณซ่ง การเปลี่ยนแปลงของโชคชะตา ฮวงจุ้ยนั้นต้องใช้เวลา ดังนั้นคุณต้องอดทนใจเย็นเอาไว้ เชื่อว่าเมื่อถึงพรุ่งนี้แล้ว ทุกอย่างจะกลับกลายเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี ฉันอาจารย์ล่ายต้องขอลาไปก่อนแล้ว! ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ก้าวเท้าเพื่อที่จะเดินออกไป
ซ่งหวั่นถิงพูดว่า: “เดี๋ยวก่อน! อาจารย์ล่าย สถานการณ์แบบนี้คงมีปัญหาอะไรเป็นแน่! ทำไมเมื่อคุณเพิ่งทำพิธีเสร็จ ฉันก็พบเจอกับเรื่องยุ่งยากตั้งสองเรื่องเลยในทันที! ? ยังไงคุณก็ต้องชี้แจงเหตุผลฉันให้ฟังสักหน่อย! ”
เมื่อพูดจบ ซ่งหวั่นถิงก็เกิดรู้สึกเจ็บปวดช่วงบริเวณช่องท้อง เจ็บจนเธอต้องร้องโอดอวย ยืนเกือบจะไม่ได้
เธอประคองตัวโดยเอามือค้ำที่โทรทัศน์ที่แขวนบนฝาผนังจึงยืนได้อย่างมั่นคง ความเจ็บปวดทำให้เธอเหงื่อไหลออกมาอย่างมาก!
เธอคิดสงสัยในใจ แปลกมาก! ตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงที่มีประจำเดือน ฉันทำไมจึงเป็นอย่างนี้……
ยังคงคิดไม่ออก และภายในช่องท้องของเธอก็มีอาการเจ็บเหมือนถูกมีดแทงอีกครั้ง ความเจ็บปวดนี้ทำให้ขาทั้งสองข้างของเธอไม่มีแรง ต้องใช้มือค้ำยันที่โทรทัศน์จึงทำให้ยืนตรงได้
ทันใดนั้น ที่แขวนโทรทัศน์ที่ฝาผนังเกิดเสียงดังโครมขึ้น ที่แขวนโลหะหักพังตกลงมาแล้ว!
เห็นโทรทัศน์เครื่องขนาดใหญ่หกสิบกว่านิ้วกำลังจะตกใส่ลงบนเท้าของเธอ เย่เฉินรีบก้าวไปคว้ามือของเธอเอาไว้ เพื่อดึงเธอออกมา และก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของตนเอง
เสียงดังกึกกักกึกกัก โทรทัศน์ก็หล่นลงมา ตกลงมาสู่พื้นอย่างแรง
กรอบโทรทัศน์ จอภาพตกแตกละเอียด ชิ้นส่วนพลาสติกแข็งชิ้นหนึ่งที่แตกกระจายออกมานั้น กระเด็นออกไปโดนขาที่ขาวสวยและเรียวยาวของซ่งหวั่นถิง
“หา! ” ซ่งหวั่นถิงรู้สึกเจ็บที่บริเวณขามาก ก้มหน้าลงไปดู พบว่าถูกบาดเป็นรอยแผลยาวสองสามเซนติเมตร และมีเลือดไหลหยดออกมา
เย่เฉินรีบนำกระดาษทิชชูออกมาจากในกระเป๋าทันที และนั่งยองลงไปเพื่อปิดบริเวณบาดแผล แล้วถามว่า: “คุณผู้หญิง บ้านของคุณมีทิงเจอร์ไอโอดีนยาฆ่าเชื้อพวกนี้ไหม?”
ซ่งหวั่นถิงโดนเย่เฉินลูบคลำที่ขา จึงเกิดความโมโหขึ้น แต่กำลังที่จะแสดงความโกรธ ก็คิดได้ว่าเมื่อสักครู่นี้เย่เฉินเป็นผู้ที่ช่วยตน จึงเก็บอารมณ์ความโกรธนั้นไว้
เธอหันไปมองที่ล่ายปู้อีทันที และถามด้วยอารมณ์ความโกรธอันรุนแรงว่า: อาจารย์ล่าย หากว่าวันนี้คุณไม่ให้คำชี้แจงที่สมเหตุสมผลกับฉันหล่ะก็ ก็อย่าได้คิดที่จะออกไปจากที่นี่! ”
ท่านหงห้าเห็นเหตุการณ์ดังนั้นแล้ว ก็รีบบีบจับคอของอาจารย์ล่ายผู้นั้น และถามด้วยน้ำเสียง เย็นชาว่า: พูดออกมานะว่า คุณทำอะไรกับคุณผู้หญิงของพวกเรา? !”
อาจารย์ล่ายร้องสะอึกสะอื้นแล้วพูดว่า: “ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย! ฉันก็แค่ทำพิธีกรรม เพื่อช่วยปรับโชคชะตาของเธอให้ดีขึ้นเท่านั้นเอง……”
“คุณอย่ามาขู่ใส่ฉัน! ” ท่านหงห้าดุด่าออกไปด้วยความโมโห: “คุณปรับโชคชะตาไปในทางที่แย่ลงใช่ไหม? ”
ขณะพูดอยู่นั้น ท่านหงห้ากัดฟันด้วยความแค้นและถามว่า: “คุณรับเงินของใครมาใช่ไหม เพื่อตั้งใจจะมาทำร้านคุณผู้หญิงของพวกเรา? ”
อาจารย์ล่ายตกใจกลัวร่างกายสั่นไปทั้งตัว พูดว่า: พี่ใหญ่ ไม่ใช่อย่างนั้น! ฉันไม่ได้ถูกใครบงการมา…..”
ท่านหงห้ายิ้มเยาะและพูดว่า: ไม่พูดความจริงใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นฉันจะสับเธอเป็นชิ้น ๆ และไปโยนให้สุนัขกิน! ”
เมื่อพูดจบ เขาก็หันไปพูดกับซ่งหวั่นถิง: “คุณผู้หญิง คนชั่วผู้นี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันจัดการ ฉันจะทำให้เขาหายสาบสูญไปเลย! ”
ซ่งหวั่นถิงก็โมโหเช่นเดียวกัน พูดอย่างเย็นชาว่า: “อาจารย์ล่าย หากว่าคุณยังคงไม่ให้คำอธิบายแก่ฉัน ฉันก็จะสั่งให้ลูกน้องจัดการกับคุณแล้ว! ”
อาจารย์ล่ายรีบคุกเข่าลงบนพื้น ร้องไห้และพูดว่า: “คุณผู้หญิง ฉันก็เพียงแค่จะหลอกลวงเงินของคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้ต้องการที่จะให้ร้ายอะไรคุณเลยจริง ๆ! ”
ซ่งหวั่นถิงใบหน้าเย็นชาและถามว่า: “ที่คุณทำเมื่อสักครู่นี้ ล้วนเป็นเพียงการลวงฉันงั้นเหรอ? ”
“ก็ใช่สิ……” อาจารย์ล่ายรีบล้วงเช็คเงินสดออกมา ขอร้องว่า: “ฉันคืนเงินให้กับเธอ ขอให้เธอปล่อยฉันไปเถอะ……”
ซ่งหวั่นถิงจ้องมองไปที่เขาสักพักหนึ่ง ดูแล้วเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดโกหก ในใจก็ยิ่งหมดหวังมากขึ้น
ตกลงยังไงกันแน่? หรือว่าโชคชะตาของตนเองจะยิ่งแย่ลงจริง ๆ งั้นเหรอ?
เพราะว่าเพียงชั่วครู่เดียวก็ขาดทุนอย่างหนัก หากเป็นอย่างนี้ต่อไป กลัวว่ากิจการของตระกูลจะต้องมาพังครืนในตอนที่ตนเองเป็นคนบริหารงั้นเหรอ……
ขณะนั้น เย่เฉินที่กำลังอยู่เงียบ ก็พูดขึ้นในทันทีว่า: “คุณผู้หญิง ที่จริงแล้วอาจารย์ล่ายผู้นี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ทำอะไรเลย”
ซ่งหวั่นถิงมองไปทางเขา แล้วถามว่า: “ที่เธอพูดหมายความว่าอย่างไร? ”
เย่เฉินพูดแบบไม่สะทกสะท้านว่า: “ลักษณะรูปแบบห้องของคุณ เมื่อพาผนวกเข้ากับธาตุทั้งห้าของคุณ ก็จะกลายเป็นฮวงจุ้ยที่เรียกกันว่าค่ายล็อคมังกร! ”
“ค่ายล็อคมังกรจะทำให้โชคชะตาทั้งหมดของเธอนั้นถูกล็อคอยู่ภายในค่าย ที่ยังคงเหลือโชคชะตาที่ดีบ้างบางส่วนนั้น ก็เป็นเพราะพืชใบเขียวกระถางนั้นทำให้ค่ายล็อคมังกรเหลือช่อง ‘ประตูเป็น’ เอาไว้”
ขณะที่พูด เย่เฉินก็หันมองไปทางอาจารย์ล่ายผู้นั้น หัวเราะแล้วพูดว่า: “น่าเสียดาย ที่เขาดันนำพืชใบเขียวออกแล้วเปลี่ยนเป็นก้อนหินแทน ก้อนหินคือธาตุทอง จึงทำให้ประตูปิดล็อคทันที หากตอนนี้เคลื่อนย้ายก็คงไม่เกิดผลใด ๆ ดังนั้นโชคชะตาของเธอจึงหายไปในทันที และจะยิ่งแย่ลงแย่ไปลงเรื่อย ๆ……”
ซ่งหวั่นถิงรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมาทันที รีบเก็บอาการที่เคยดูถูกเขาไว้ในตอนแรก กุมมือคารวะแสดงท่าทีอ้อนวอนแล้วพูดว่า: คุณเย่ ได้โปรดช่วยเหลือฉันด้วย! ”