ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 198
บทที่ 198 รถทั้งสองคันนี้เป็นของผม(1)
เย่เฉินยักไหล่และพูดว่า “รถของฉันเอง ฉันจะขับมันไปโต้ลมไม่ได้เหรอ?”
เกาจวิ้นเว่ยหัวเราะด้วยอารมณ์โกรธ “เย่เฉิน คุณยิ่งเสแสร้งยิ่งติดใจแล้วใช่ไหม? คุณไม่ชะโงกดูเงาตัวเองบ้างเลยเหรอ คุณเป็นใครกัน มีสิทธิ์อะไรมานั่งรถคันนี้”
จางเจวียนที่อยู่ด้านข้างก็พูดเหยียดหยามว่า “ชูหรัน คุณแต่งงานกับไอ้ขยะที่ขี้โม้คุยโวคนนี้ ช่างเวทนาเธอเสียเหลือเกิน”
สีหน้าของเซียวชูหรันทำอะไรไม่ถูก จ้องมองไปที่ดวงตาเย่เฉินก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
พูดจาไม่เข้าเรื่องในโอกาสแบบนี้ ผู้ชายคนนี้คงจะเสียความคิดความอ่านไปแล้วมั้ง?
เย่เฉินก็ขี้เกียจะอธิบาย ยิบกุญแจกำไลข้อมือที่สามารถสวมใส่ได้ออกจากกระเป๋ามาสองดอก กำไว้ในมือเขย่าไปมา พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆกับหลี่โม่ผู้รับผิดชอบงานนิทรรศการรถยนต์ว่า “ของสองสิ่งนี้ คุณรู้จักไหม?”
หลี่โม่เห็นเย่เฉินหยิบกุญแจสร้อยข้อมือแบบสมาร์ทออกมา รู้สึกตกตะลึงไปหมดเลย
เมื่อนึกถึงคำพูดฉินกางในโทรศัพท์ ทันใดนั้นเขาก็คร่ำครวญในใจ
ไอ้เหี้ย!
ชายหนุ่มคนนี้ อย่าบอกนะว่าคือเย่เฉินอาจารย์เย่?
ใช่
ดูเหมือนพวกเขาจะเรียกเขาว่าเย่เฉิน
ดังนั้นเขาจึงรีบโค้งคำนับ พูดอย่างนอบน้อมว่า “สวัสดีค่ะอาจารย์เย่ หลี่โม่ขอแสดงความนับถืออาจารย์เย่ สวัสดีค่ะอาจารย์เย่”
หลังจากพูดจบ ก็รีบแวบไป ชี้ไปที่ซูเปอร์คาร์ทั้งสองคันที่อยู่ข้างหลัง พูดด้วยเคารพว่า “อาจารย์เย่ รถทั้งสองคันของท่านได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ สามารถขับไปได้ตลอดเวลา หากว่าท่านไม่อยากขับ พวกเราสามารถช่วยท่านส่งไปถึงบ้านได้”
คนรอบข้างตะลึงกันไปหมด
ลูกกะตาของเกาจวิ้นเว่ยราวกับจะตกลงไปที่พื้น แต่จางเจวียนกลับใจสั่นไปหมด
คนที่แม้แต่เกาจวิ้นเว่ยยังกล้าตี เห็นเย่เฉินต้องก้มโค้งคำนับทำความเคารพราวกับเป็นเหมือนหลานชาย ยังเรียกเขาว่าอาจารย์เย่?
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นก็คือ ฟังจากคำพูดเขามีความหมายเป็นในว่า รถซูเปอร์คาร์ทั้งสองคันนี้ เป็นของเย่เฉิน?
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เซียวชูหรันก็ตกตะลึงเช่นกัน เพียงครู่เดียวเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนึกถึงหวังเจิ้งกางที่มอบคฤหาสน์หลังใหญ่ให้กับเย่เฉิน ทันใดนั้นเธอก็เดาความในใจได้พอประมาณ
เย่เฉินคนนี้ คงจะไปดูฮวงจุ้ยให้กับคนรวยอีกแน่ หลอกลวงคนอื่นอีกแล้ว
ในตอนนั้น เกาจวิ้นเว่ยรีบพูดกับหลี่โม่ว่า “ผู้จัดการหลี่ คุณคงเข้าใจผิดแล้ว คนคนนี้ชื่อว่าเย่เฉิน คือลูกเขยที่ไม่เอาไหนของตระกูลเซียวที่รู้จักกันดีในจินหลิง ไม่ใช่อาจารย์เย่อะไรนั้นเลย”
จางเจวียนก็ขมวดคิ้วจ้องมองไปที่ผู้จัดการ แล้วพูดว่า “ผู้จัดการคะ คุณดูสิเย่เฉินจนขนาดนี้ ไหนล่ะจะเหมือนคนที่สามารถซื้อรถสปอร์ตราคาแพงขนาดนี้ได้? ฉันว่าเขาอาจจะซื้อMi Bandสองอันนี้มาจากในเถาเป่า ก็ยังจะกล้ามาเสแสร้งในงานนิทรรศการรถยนต์ คุณอย่าไปหลงกลเขาเลยนะ”
เย่เฉินแสยะยิ้มออกมา จูงเซียวชูหรันที่ยืนงงอยู่กับที่ ก้าวเท้าตรงไปยังรถแอสตันมาร์ตินONE77คันนั้น
เมื่อครู่ยังสาบานว่าจะปกป้องรถคันนี้ จะไม่ให้คนอื่นสัมผัสแม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เห็นหลี่โม่สุภาพกับเย่เฉินเช่นนี้ จึงยอมหลีกทางให้โดยดี
เย่เฉินจูงมือเซียวชูหรันไว้ เดินไปถึงตำแหน่งที่นั่งคนขับของแอสตันมาร์ตินONE77 สร้อยข้อมือเพิ่งจะเข้าใกล้ประตูรถ กลับได้ยินเสียงดังตี๊ด……
หลังจากนั้น ไฟรถยนต์ราวกับตาปลาฉลามก็ส่องสว่างขึ้นมาทันที
ในห้องโดยสารที่นั่งคนขับหน้าจอ LCDและไฟรอบห้องโดยสารก็สว่างขึ้นมาพร้อมกัน
ประตูกรรไกรคู่ที่เป็นสัญลักษณ์ของแอสตันมาร์ตินONE77 กลับค่อยๆโผล่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ