ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 36
บทที่ 36 แข่งขันกันงั้นเหรอ
ร้านอาหารที่เปิดใหม่ของหวังเต้าคุนอยู่ในเขตพัฒนาเมืองจินหลิง
เขตพัฒนาอยู่ห่างไกลจากเขตเมือง และมีประชากรเบาบาง เย่เฉินสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมหวังเต้าคุนเลือกที่จะเปิดร้านอาหารที่นี่
แต่ได้ยินเซียวซูหรันบอกว่า ช่วงนี้ผู้ประกอบการขนาดใหญ่หลายแห่งมาจัดตั้งฐานการผลิตในเขตพัฒนา รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่อย่างเช่น Foxconn ก็ล้วนเข้าร่วมด้วย ในไม่ช้าก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น
ดังนั้นตอนนี้หวังเต้าคุนจึงมาเปิดร้านอาหารที่นี่ จริงๆ แล้วก็ฉลาดอยู่มากเหมือนกัน
ร้านอาหารของหวังเต้าคุน ตั้งอยู่บนถนนสายใหม่ที่กว้างขวาง ดูเหมือนว่ามันจะไม่เล็ก มีสองชั้นบนล่าง
ร้านอาหารมีชื่อว่าเอวี้ยไหลเรสเตอรอง ดูเหมือนจะมีแนวคิดทางศิลปะอยู่หลายส่วน
เมื่อเย่เฉินขับรถไปถึงหน้าประตูร้านอาหาร ตรงประตูมีรถจอดอยู่แล้ว มีสองสามคนกำลังสูบบุหรี่ยืนคุยกันหน้ารถ BMW สีทอง
คนเหล่านี้เย่เฉินรู้จัก ทุกคนเป็นอดีตเพื่อนร่วมคลาสในมหาวิทยาลัย แต่คนเหล่านี้ไม่ได้มีมิตรภาพอะไรกับตน
คนที่เป็นผู้นำนั้นเย่เฉินจำได้ ชื่อหวังเถิงเฟย ตอนนั้นเป็นคนรวยรุ่นสองในคลาสที่มีชื่อเสียง คิดอยากจะแอ้มเซียวซูหรันตลอดมา เพียงแต่เซียวซูหรันก็ไม่ได้สนใจเขาเลย
ขณะนี้หวังเถิงเฟยกำลังยืนพิงรถ BMW สีทอง รับคำเยินยอจากเพื่อนร่วมคลาส เพื่อนร่วมคลาสชายหลายคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ BMW คันใหม่ของเขา โห่ร้องชื่นชมว่า “พี่เฟยคุณนี่เป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจริงๆ เพิ่งเรียนจบมาไม่เท่าไรก็ขับรถ BMW แล้ว! ดูเหมือนว่าจะเป็น BMW540 ใช่ไหม เป็นตัวท็อป series5 ใช่หรือเปล่า”
หวังเถิงเฟยหัวเราะฮ่าฮ่าและพูดว่า “พระเจ้า 540 มันแค่ไม่เกินเจ็ดแปดแสน ไม่สำคัญหรอก”
“เฮ่ย! 540เหรอ นี่คือรถนำเข้าที่แพงที่สุดใน series5 เลยนะ!”
“นี่ ฉันคิดอยากซื้อ BMW series1 คันละสองแสนยังเงินไม่พอเลย เทียบกับพี่เฟยแล้วมันห่างชั้นจริงๆ!”
“พี่เฟย รถคันนี้กำลังต้องแรงมากเลยใช่ไหม”
หวังเถิงเฟยยิ้มกริ่ม “ก็ดีๆ แรงกำลังขับเคลื่อนค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยทั่วไปบนท้องถนนก็ไม่พบใครที่จะเป็นคู่ต่อสู้ได้”
“มันเยี่ยมกว่าใครจริงๆ นั่นแหละ! ฉันหวังว่าจะมีรถ BMW สักคันก็พอแล้ว วันๆ แฟนฉันเอาแต่ฉันบ่นว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อรถ เบื่อจะตายไม่รู้จะเบื่อยังไงแล้ว!”
ณ ตอนนี้ มีคนตาแหลม เห็น BMW อีกคันมา จึงพูดด้วยความประหลาดใจ “พระเจ้า BMW คันนี้เป็นเพื่อนร่วมคลาสของเราด้วยเหรอ”
“เฮ้ยนั่น นั่นไอ้ยาจกเย่เฉินไม่ใช่เหรอ”
“คนที่นั่งข้างคนขับเหมือนจะเป็นเซียวซูหรันนะ! แม่ง ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินก็ขับ BMW ด้วยไม่น่าเชื่อเลย ต้องสัมผัสแสงแรกของเซียวซูหรันไปแล้วแน่ๆ!”
หวังเถิงเฟยเห็นเย่เฉินอยู่ในรถ ก็พูดด้วยสีหน้าค่อนข้างไม่พอใจว่า “ที่แท้ก็ไอ้ขยะนั่น! แม่ง เขาช่างโชคดีจังนะ!”
เวลานี้มีคนถามว่า “นี่ เขาขับ BMW series อะไรน่ะ”
พอดีกับที่ตอนนี้เย่เฉินขับรถเข้ามาใกล้ จากนั้นก็เข้าไปจอดในช่องจอดรถ หวังเถิงเฟยเหลือบมอง 520 ที่ป้ายท้ายแล้วก็หัวเราะอย่างดูถูกทันที “เหอะ 520 เหรอ เป็น series5 รุ่นขอทานที่ต่ำที่สุด มีแค่ไอ้ยาจกที่ทำตัวหน้าใหญ่เท่านั้นแหละถึงจะขับรุ่นนี้!”
คนข้างๆ พยักหน้าทันทีและพูดว่า “พี่เฟย นายเป็น series5 ตัวท็อป เขาเป็น series5 ตัวต่ำสุด แย่กว่านายตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ”
หวังเถิงเฟยส่งเสียงขึ้นจมูกเยาะเย้ย “ฉันสามารถซื้อได้ทั้งสองคัน!”
“ยังเป็นพี่เฟยที่เจ๋งสุด!”
ตอนนี้เย่เฉินจอดรถสนิทดีแล้ว เซียวซูหรันกับต่งรั่งหลินลงไปก่อน
สายตาหลายคนมองตรงไปทันที และพากันกรูไปทักทาย “พระเจ้า สองดอกไม้ทองของเรามาด้วยกัน!”
เซียวซูหรันกับต่งรั่งหลินทักทายทุกคนอย่างสุภาพ หวังเถิงเฟยมองเซียวซูหรันที่ตอนนี้ยิ่งสวยขึ้นกว่าเดิม จิตใจก็สั่นคลอนไม่มั่นคง
แม่ง เพราะอะไร
ตอนเรียนมหาวิทยาลัยตนไล่จีบเซียวซูหรันอย่างหนัก แต่เธอไม่สนใจตนเลย
ตอนนี้เธอแต่งเขยเข้าบ้าน เป็นขยะที่เกาะผู้หญิงกิน! สวรรค์ช่างตาบอดจริงๆ!
คิดถึงตรงนี้ เขาก็หัวเราะเยาะและพูดว่า “โอ้เย่เฉิน นายแต่งเข้าบ้านเซียวซูหรัน ดูจะท่าทางโอเคดีนะ ได้ขับ BMW ด้วย! ทางบ้านซูหรันซื้อให้เหรอ นายเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนรุ่นเราในการใช้ทางลัดนะ!”
เมื่อเซียวซูหรันได้ยินคำนี้ก็แสดงสีหน้าไม่ค่อยพอใจ ต่งรั่งหลินที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้นทันที “หวังเถิงเฟย นายเข้าใจผิดแล้ว รถคันนี้ทางบ้านซูหรันไม่ได้ซื้อให้ เย่เฉินเขาซื้อเอง!”
“โอ้!” หวังเถิงเฟยเบะปาก “ร้ายกาจ เริ่มขับด้วย BMW series5 ซะด้วย!”
เมื่อพูดจบ เขาก็จงใจยั่วเย่เฉินว่า “ฉันว่านะเย่เฉิน ในเขตพัฒนานี่ไม่มีรถ ถนนทางเข้ากว้างและตรง หรือว่าเราทั้งคู่ขับรถแข่งกันเป็นไง”
เย่เฉินขมวดคิ้ว มองหวังเถิงเฟยด้วยใจที่ค่อนข้างหงุดหงิด
ทำไมต้องมาหาเรื่องฉัน ฉันกับนายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรต่อกันนะ
อีกอย่าง รถของฉันก็เร็วกว่าใครอยู่แล้วไหม ของฉันเป็น BMW760 นะ รถ BMW ที่แพงที่สุดและเร็วที่สุด นายแข่งกับฉัน มันก็เหมือนว่าฉันรังแกเด็กน่ะสิ
หวังเถิงเฟยคิดว่าเขากลัว จึงเยาะเย้ยทันที “พระเจ้า ฉันว่านะเย่เฉิน ทำไมนายยังเหมือนตอนที่อยู่หาวิทยาลัย แข่งกันกลัวอะไร นายจะสละน้ำมันสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ ฉันเติมน้ำมันให้นายสักถังก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ”
ต่งรั่งหลินคัดค้านอย่างค่อนข้างไม่พอใจ “นี่ หวังเถิงเฟย นายหมายความว่ายังไง รถของนายคือ BMW540 เย่เฉินเขาเป็น 520 แรงขับเคลื่อนต่างกันหลายระดับ วิ่งเร็วกว่าใคร นายคิดว่ามันยุติธรรมเหรอ”
หวังเถิงเฟยยักไหล่และพูดว่า “รถยนต์ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีเป็นหลัก! รถดีไม่จําเป็นต้องวิ่งเร็ว ขึ้นอยู่กับทักษะและความกล้า ไม่รู้ว่าเย่เฉินมีความกล้าพอจะแข่งกับฉันหรือเปล่า ถ้าท้าแล้วกลัวก็ช่างเถอะ ยังไงตลอดมาเย่เฉินก็ไม่ใช่คนกล้าสู้หน้าใครอยู่แล้วทุกคนก็รู้”
หลายคนที่อยู่ข้างๆ ก็คล้อยตามทันที “จริง กลัวก็บอกตรงๆ ไม่ต้องอาย”
เย่เฉินไม่โกรธแต่ยิ้มแทนและบอกว่า “หวังเถิงเฟย จะแข่งก็แข่งได้ แต่เราไม่สามารถแข่งกันปากเปล่าไหม มีเดิมพันกันหน่อยดีกว่า ไม่งั้นมันจะน่าเบื่อมากว่าไหม”
“เอาสิ!” หวังเถิงเฟยกำลังกังวลว่าเย่เฉินจะไม่หลงกล ทันใดนั้นได้ยินเขาพูดเรื่องการเดิมพันขึ้นมาเอง ตัดสินใจทันทีว่าเขากำลังจะตาย จึงอ้าปากพูดว่า “เอาแบบนี้สิ ถ้าใครแพ้ ต้องคุกเข่ายอมรับความพ่ายแพ้ นายคิดว่าไง”
เย่เฉินส่ายหน้า “ทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว อย่าเล่นเป็นเด็กเลย”
ขณะนี้ หวังเต้าคุนในชุดสูทออกมาพร้อมกับชุดประทัดแผ่นใหญ่ เห็นเย่เฉินมาแล้วก็ก้าวเข้ามาพูดคุยอย่างตื่นเต้นทันที “พระเจ้าเย่เฉิน นายมาแล้ว!”
เย่เฉินพยักหน้ายิ้มให้เขาและพูดว่า “ขอแสดงความยินดีด้วยที่นายเปิดร้านใหม่นะเต้าคุน”
หวังเต้าคุนพูดด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณเพื่อน!”
เวลานี้หวังเถิงเฟยน้ำเสียงเย็นชา “เย่เฉิน นายไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง พูดมา นายคิดจะเดิมพันอะไร”
หวังเถิงเฟยถามอย่างแปลกใจ “มันยังไงกัน พวกนายทำอะไร”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย มองประทัดในอ้อมแขนของเขาและถามเขาว่า “เต้าคุน ประทัดนี่มีกี่นัดเหรอ”
“สามหมื่นนัด!” หวังเต้าคุนยิ้มและพูดว่า “ประทัดนี่ไม่ถูก พื้นเป็นสีแดง มากกว่าหกร้อยแผ่น!”
เย่เฉินพยักหน้าและพูดกับหวังเถิงเฟยว่า “เอาแบบนี้ เราแข่งกัน ใครแพ้ เอาประทัดชุดนี้ใส่ในรถตัวเองแล้วจุดระเบิดมัน นายคิดว่าไง”