ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 428
บทที่ 428
เซียวฉางเฉียนหน้าเขียว เดินไปด้านหน้า พูดออกไปว่า: “หม่าหลัน อย่ามาหยิ่งผยองที่นี่ ไม่ว่าพวกเราจะแย่แค่ไหน ก็ดีกว่าแก! แกก็ไม่ดูตัวเองว่ามีอะไรบ้าง? สามีเป็นเศษสวะ ลูกเขยก็เป็นเศษสวะ ทั้งบ้านก็คือเศษสวะ!”
หม่าหลันเบิกตากว้าง พูดดูถูกว่า: “ไอ้หยา!พี่ใหญ่พี่ใหญ่ สามีฉันเป็นเศษสวะจริงๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ ผู้ชายตระกูลเซียวทั้งหมดต่างก็เป็นเศษสวะ นี่ในใจแกยังไม่รู้อีกเหรอ?”
“แก…..”เซียวฉางเฉียนกัดฟัน
ดีหม่าหลัน ฉันด่าสามีแก คำพูดนี้ของแก ลากฉันและลูกชายของฉันเข้ามาด้วย?
เวลานี้ หม่าหลันไม่ให้โอกาสเขาพูดต่อ และได้เท้าสะเอวกล่าวอย่างภาคภูมิใจ: “แต่ว่า พวกคุณอย่ามาหาว่าลูกเขยฉันเย่เฉินเป็นเศษสวะไม่ได้ ลูกเขยสุดที่รักของฉันคนนี้ ตอนนี้เก่งมาก!อย่างอื่นไม่เอ่ยถึง คฤหาสน์Tomson Rivieraของลูกเขยฉันนั้น เดือนหน้าก็สามารถเข้าพักได้แล้ว แกมีเหรอ? แกมีเหรอ?”
ที่จริง หม่าหลันก็ไม่ใช่ว่าจะชื่นชมเย่เฉินจริงๆ
แต่ว่า เวลานี้ ใช้เย่เฉินมาพูดประชดเซียวฉางเฉียน เหมาะสมที่สุด!
เซียวฉางเฉียนได้ยินคำพูดนี้ ในใจรู้สึกแย่มากจริงๆ
แม่ง พูดได้ถูกต้อง!
ไอ้สวะเย่เฉิน ไม่คิดว่าจะสามารถหลอกเอาคฤหาสน์Tomson Rivieraมาได้ ตัวเองล่ะ? ตอนนี้วิ่งมาซื้อบ้านมือสองอายุยี่สิบปี บ้านหลังนั้นของเขา สามารถซื้อที่นี่ได้เป็นสิบหลัง!
หม่าหลันเห็นสีหน้าเซียวฉางเฉียนทั้งแย่ทั้งอึดอัด ในใจดีใจอย่างมาก ตื่นเต้นแทบจะเต้นสแควร์แดนซ์
เธอยังคงโจมเซียวฉางเฉียนต่อไป ถอนหายใจพูดว่า: “ไอ้หยา เมื่อก่อนฉันคิดว่าเย่เฉินเป็นไอ้สวะจริงๆ ไม่ว่ายังไงก็ดูถูกเขา ตอนนั้นฉันอิจฉาพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้มาก! เวยเวยของพวกคุณ หาแฟนเป็นนายน้อยตระกูลหวัง หวังเหวินเฟย นี่ไม่ใช่ว่ากลายเป็นหงส์บนฟ้าแล้วเหรอ?”
พูดแล้ว หม่าหลันก็ถอนหายใจอีก สะบัดมือด้วยสีหน้าที่เสียดายแล้วพูดว่า: “โธ่เอ๋ย แต่ว่าใครจะไปรู้ เวยเวยจะถูกหวังเหวินเฟยทิ้ง!แกว่าหวังเหวินเฟย ช่างเป็นผู้ชายเลวในกลุ่มผู้ชายเลวจริงๆ?”
เฉียนหงเย่นและเซียวฉางเฉียนมองหน้ากัน ทั้งสองคนโมโหจนจะฆ่าคนตายแล้ว!
แม่งเอ้ย ผู้หญิงคนนี้กล้าเปิดเผยข้อบกพร่องของตัวเอง สมควรตายจริงๆ!
ในเวลานี้เอง หม่าหลันพูดต่อไปอีกว่า: “แต่ทว่า ฉันยังอิจฉาอพวกแกมาก แม้ว่าหวังเหวินเฟยจะทิ้งเวยเวย แต่ว่าฉันได้ยินมาว่า เวยเวยหาลูกเขยมาให้พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้อีกแล้วนิ!ฉันได้ยินมาว่าคนนั้นเขาก็คือประธานเซียวอี้เชียนของเชียนเฉิงกรุ๊ป แต่ว่าเก่งและดีกว่าหวังเหวินเฟยอีก!”
พูดมาถึงตรงนี้ หม่าหลันก็ได้พูดอย่างน่าเสียดายว่า: “แต่ว่า เซียวอี้เชียนคนนี้ดีหมดทุกอย่าง ก็แค่อายุมากไปหน่อย พี่ใหญ่ เซียวอี้เชียนยังแก่กว่าพี่สองสามปีแน่ะ ฉันสัมภาษณ์พี่ได้ไหม คุณหาลูกเขยที่อายุเยอะกว่าคุณ มีความรู้สึกยังไง?”
เฉียนหงเย่นไหนเลยจะฟังคำพูดประชดนี้ไม่ออก โกรธจนหน้าเขียว ตะโกนออกมาว่า: “หม่าหลัน!แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!ไม่งั้นฉันจะฉีกปากแก!”
“อุ้ย!”หม่าหลันพูดอย่างดูถูกว่า: “พี่สะใภ้ ที่ฉันพูดล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องจริง ทำไมคุณไม่ให้ฉันพูดล่ะ? แทงใจดำเหรอ?ถึงอยากจะฉีกปากของฉัน?”
พูดมาถึงจุดนี้ หม่าหลันพูดจาเยาะเย้ยว่า: “เฉียนหงเย่นฉันจะบอกแกให้ แกอย่าได้คิดว่าตอนนี้มีลูกเขยที่อายุมากกว่าแกแล้ว แกอยากจะรังแกฉัน!อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เซียวอี้เชียนประธานเซียวคนนั้น ได้ทิ้งเวยเวยของแกไปแล้ว!ที่ฉันพูดถูกต้องใช่หรือเปล่า?”
“ยังมีอีก ได้ยินว่าเซียวอี้เชียนยังเอาเวยเวยของพวกแกส่งมอบให้กับเว่ยฉางหมิงแห่งตระกูลเว่ยไปแล้ว?ไอ้หยา ประธานเซียวนี้น่าสนใจจริงๆ เวยเวยเป็นคน และก็ไม่ใช่ของขวัญ ไม่ใช่ลูกหมา ทำไมถึงได้มอบให้ใครก็ได้อย่างนี้นะ?”
“ดูไปดูมา ลูกเขยสุดที่รักเย่เฉินของฉันดี แม้ว่าจะน่าน่าสมเพชไปหน่อย แต่อย่างน้อยก็ไว้ใจได้ ไม่ก่อความวุ่นวายทอดทิ้งเซียวชูหรันของพวกเรา”
เฉียนหงเย่นถูกหม่าหลันดูถูกเสียดสี โกรธจนจะเป็นบ้า!
เธอกัดฟันเบะปากพุ่งเข้ามาจะตีหม่าหลัน ด่าตีโพยตีพายว่า: “หม่าหลัน!วันนี้ฉันจะสู้กับแกให้ตายไปข้างหนึ่ง!”