ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 80
บทที่ 80 เข้าใจผิดอย่างรุนแรง
ทีแรกเซียวไห่หลงก็ถือโอกาสอยากจะสานความสัมพันธ์ของเป่าฟู่กุ้ย ทว่าต่อให้ฝันไปก็นึกไม่ถึง เป่าฟู่กุ้ยจู่ๆ กลับแตะตัวเองไปไกล
เขากลิ้งไปหลายรอบ นี่ตัวของเขาถึงจะอยู่อย่างมั่นคงไปได้ แล้วนั่งอยู่บนพื้นด้วยมือไม้ที่อยู่วางอย่างประหม่า “เจ้าของร้าน นี่มันเกิดอะไรขึ้น มีอะไรเข้าใจผิดไปหรือเปล่า…….”
คนอื่นที่อยู่ในสถานการณ์ก็มองจนเอ๋อไป
“นี่เป็นคนของตระกูลเซียวใช่ไหม? ทำไมถึงได้สร้างเรื่องบาดหมางกับเจ้าของเป่าล่ะ? ”
“เดิมทีตระกูลเซียวก็ไม่มีความสามารถอยู่แล้ว ตอนนี้ไปผิดใจกับเจ้าของร้านเป่า วันข้างหน้าก็คงไม่สามารถอยู่รอดในเมืองจินหลิงแล้วมั้ง? ”
ทันใดนั้นผู้คนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์
มีคนไม่น้อยมีท่าทีที่อยากจะรอชมเรื่องสนุกๆ แล้วมองเป่าฟู่กุ้ยลงไม้ลงมือกับเซียวไห่หลง
เวลานี้ เป่าฟู่กุ้ยมองเซียวไห่หลงด้วยความโมโห แล้วพึมพำด้วยเสียงเย็นชา “เข้าใจผิด? เข้าใจผิดห่าแม่งหรอ! ”
พูดไป ก็ใช้ขาข้างหนึ่งถีบเขาอีกครั้ง แล้วถีบจนเขาต้องร้องโอ้ยๆ
เป่ยฟู่กุ้ยยังไม่หายเกลียด จึงเหยียบอยู่บนอกของเขา แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม “ไอ้ชาติมั่ว แกรู้ไหมว่าแกไปผิดใจกับใคร? ”
เซียวไห่หลงทำสีหน้าที่งวยงง “ผมก็ไม่ได้ผิดใจกับเจ้าของร้านเป่านี่ นี่มันเข้าใจผิดกันใหญ่แล้ว……”
เป่าฟู่กุ้ยยกมือแล้วตบหน้าของเขาไปสองที แล้วก่นด่าด้วยความโมโหขีดสุด “ไอ้ชาติหมา คนที่แกผิดใจด้วยสองคน เป็นแขกวีไอพีของคุณหนูซ่ง ฉันฆ่าแกตายก็ยังไม่สามารถทำให้ฉันหายเคียดแค้นได้! ”
พูดจบ เขาจึงรีบสั่งการคนที่อยู่ข้างๆ “ลากไอ้สารเลวนี่ออกไปตีสักยกหนึ่ง! อีกอย่าง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นอกจากแขกคนสำคัญสองท่านนั้น พวกเราเจิงเป่าเก๋อห้ามเซียวไห่หลงและคนอื่นๆ ของตระกูลเซียวเหยียบเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ใครกล้าปล่อยพวกเขาเข้ามา ก็ตีขาให้หักทั้งสองข้างเลย! ”
จากนั้น เซียวไห่หลงก็ถูกบอดี้การ์ดสองสามคนกระทืบ
พอตีไปสักตั้ง คนพวกนี้จึงลากตัวเขาไป แล้วโยนออกไปข้างนอกเจิงเป่าเก๋อ!
จมูกของเขาทั้งเขียวและบวม เรือนร่างสั่นเทา แล้วรู้สึกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เขารู้ว่าตัวเองสร้างปัญหาที่ใหญ่หลวง และทำให้ทั้งตระกูลเซียวพลอยซวยไปด้วย!
ทว่าเขาจะไปรู้ได้ยังไง เย่เฉินกลับเป็นแขกที่ซ่งหวั่นถิงเชิญมา?
เขามีสิทธิ์อะไรไปรู้จักกับคุณหนูใหญ่ตระกูลซ่ง!
ไอ้สวะคนนี้ มีสิทธิ์อะไรได้รับความโปรดปรานจากซ่งหวั่นถิง!
………
หลังจากที่เย่เฉินและพ่อตาออกมา ก็ขับรถไปกลับบ้าน
เซียวฉางควนอยู่บนแล้วถอนหายใจลากยาวบ้างสั้นบ้าง “เย่เฉินหนอ ไม่ใช่ว่าพ่อว่านายนะ ถ้าหาการ์ดเชิญไม่ได้จริงๆ ก็ช่างมันเถอะ ทำไมถึงต้องไปแย่งของคนอื่นด้วย? ”
“พ่อ การ์ดเชิญไม่ได้มีปัญหา พวกเขาต่างหากที่ดูถูกคนอื่น……” เย่เฉินอธิบายด้วยความประหม่า
เซียวฉางควนพูดด้วยความโมโห “ถ้านายได้เรื่องหน่อย มีความสามารถหน่อย พวกเขาจะกล้าทำแบบนี้กับพวกเราหรอ? พูดถึงตอนสุดท้าย ก็เพราะว่านายไม่มีความสามารถเกินไป น่าสมเพชเกินไป! ”
เย่เฉินส่ายหัว แล้วขี้เกียจไปอธิบายอีก
และในตอนนี้ ด้านหลังมีรถโรลส์รอยซ์ขับมาด้วยความเร็วสูงอยู่หนึ่งคัน หลังจากที่ขับผ่านรถของพวกเขาสองคน ถึงจะลดความเร็วลง แล้วจอดอยู่ข้างถนน
เย่เฉินมองฝ่ายตรงข้ามมาหาตัวเอง จึงได้หยุดรถลง
ขาอันสง่างามสองข้างของซ่งหวั่นถิงก้าวลงมาจากรถ แล้วพูดกับเย่เฉินด้วยความรู้สึกผิด “คุณเย่ เมื่อกี้เรื่องของงานประมูล ต้องขอโทษจริงๆ ฉันเองที่จัดการได้ไม่ดี ได้โปรดอย่าใส่ใจไปเลย”
เย่เฉินส่ายหัว แล้วพูดขึ้น “ไม่ได้เกี่ยวกับคุณ แค่เจิงเป่าเก๋อต้องดูแลพนักงานดีๆ หน่อย”
ซ่งหวั่นถิงรีบพูด “คุณเย่ เจิงเป่าเก๋อไล่ผู้จัดการที่ดำเนินเรื่องออกไปแล้ว ตอนนี้พวกเรากลับไปร่วมงานประมูลต่อเถอะ คุณว่ายังไงบ้าง? ”
เย่เฉินปฏิเสธกลับ “ต้องขอโทษคุณหนูซ่งจริงๆ อารมณ์ดีวันนี้กลับถูกแมลงวันสองตัวทำลายไป ไม่กลับไปร่วมงานประมูลแล้ว ครั้งหน้าค่อยว่ากันเถอะ”
ซ่งหวั่นถิงพูดด้วยความรู้สึกผิดมาก “ต้องขอโทษคุณเย่จริงๆ ”
พูดจบ เธอก็เอากล่องไม้หนึ่งกล่องออกจากรถ แล้วยัดไปในมือของเย่เฉิน แล้วพูดขึ้น “คุณเย่ นี่เป็นสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของฉัน เพื่อแทนคำขอโทษ…….”
จังหวะที่เย่เฉินเอากล่องไม้ไว้ แล้วสัมผัสได้ว่าด้านในมีพลังเรกิ ดังนั้นจึงไม่ได้ปฏิเสธกลับ
พอเห็นเย่เฉินรับของขวัญไว้ ซ่งหวั่นถิงก็พูดขึ้นทันที “เอาแบบนี้ งานประมูลวันนี้หยุดไปชั่วคราวก่อน ฉันจะให้เป่าฟู่กุ้ยจัดการกับทีมของเจิงไป๋เก๋อดีๆ ก่อน รอให้เขาจัดการเสร็จ แล้วค่อยจัดงานใหม่ ถึงเวลายังต้องเชิญคุณเย่และคุณน้าเซียวให้เกียรติมาร่วม
เซียวฉางควนจึงตกตะลึงงันไปทันที ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่เผลอทุบขวดโบราณที่จี๋ชิ่งถังหรือไง คุณหนูใหญ่ตระกูลซ่งที่มาเป็นคนสุดท้าย?
เธอกลับเกรงใจขนาดนี้กับลูกเขยของตัวเอง แม้กระทั่งยังต้องล้มเลิกงานประมูลไปชั่วคราวเพื่อเขา แล้วบอกว่าจะจัดใหม่ นี่ก็ให้หน้าให้ตาเกินไปหรือเปล่า?
หรือว่าเป็นเพราะครั้งที่แล้วที่ช่วยซ่อมขวดๆ นั้น?
โธ่ๆ วันข้างหน้าต้องปรับมุมมองต่อลูกเขยคนนี้ของตนเองใหม่แล้ว
เย่เฉินก็มองออกถึงความจริงใจของซ่งหวั่นถิง ดังนั้นจึงพยักหน้าด้วยความนิ่งเฉย แล้วพูดขึ้น “งั้นรอจัดงานใหม่ พวกเราค่อยมาร่วมเถอะ”
พ่อตาจึงรีบพูดเสริม “ใช่ๆๆ ต้องไปแน่นอน”
“พอเถอะ งั้นทั้งสองท่านกลับก่อนเถอะ เรื่องวันนี้ต้องขอโทษจริงๆ! ”
หลังจากซ่งหวั่นถิงขอโทษอีกครั้ง แล้วก็กล่าวคำอำลากับทั้งสอง แล้วหันไปจากไป
รอให้ซ่งหวั่นถิงเดินไป พ่อตารีบชี้ไปยังกล่องไม้ในมือของเย่เฉิน แล้วเอ่ยถาม “เย่เฉิน คุณหนูซ่งส่งอะไรให้นาย? รีบเปิดดูเถอะ! ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วเปิดกล่องไม้
ทันใดนั้น แล้วมีพลังเรกิก็แผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง ทำให้คนรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา
“เอ๊ะ นี่มันอะไรกัน? ” เซียวฉางควนยื่นหัวออกไปดู ทันใดนั้นใบหน้าก็ดูแปลกไป
แค่เห็นในกล่องมีของสีดำ ที่มีขนาดใหญ่เท่ากำปั้น พอมองแล้วเหมือนจะเป็นถ่านหิน ทว่ากลับมีผิวหยาบกร้าน แลัวยังมีขี้ดินติดไว้
ตอนที่เห็นของสิ่งนี้ เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่ตกตะลึง แล้วแอบตกตะลึงว่าซ่งหวั่นถิงเป็นคนที่ใจกว้างมาก
เซียวฉางควนมอง “ตุ่มดำ” หลายๆ ครั้ง มองไม่ออกจริงๆ ว่านี่มันของเล่นอะไร จึงพูดด้วยความเบื่อหน่าย “ก็นึกว่าเป็นของล้ำค่าอะไรสักอีก นึกไม่ถึงว่าเป็นแค่ท่อนไม้”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “พ่อ มันเป็นท่อนไม้จริงๆ ทว่ากลับเป็นของหายาก”
เซียวฉางควนยิ่งรู้สึกแปลกใจ “ลูกเขย นี่มันของอะไรกันแน่? ”
เย่เฉินพูด “นี่มันไม้ฟาดสายฟ้า”
“มันเกินจากตอนเวลาฟ้าผ่าต้นไม้”
เซียวฉางควรกลับเคยได้ยินมาบ้าง จึงรีบพูดขึ้น “แต่ว่าท่อนไม้แบบนี้ เวลาตอนอยู่บนเขาแล้วฟ้าผ่าก็มักจะได้เจอบ่อย จะล้ำค่าอะไรนักหนา? ”
เย่เฉินยิ้ม แล้วพูดขึ้น “พ่อ ไม้ธรรมถูกฟ้าผ่า แน่นอนว่าเห็นง่ายอยู่แล้ว แต่ว่าไม้ฟาดสายฟ้านี้ พ่อดูสิมันกลายเป็นสีดำ มีเพียงว่าต้องใช้อุณหภูมิที่สูงมากถึงจะทำให้มันกลายเป็นถ่านได้ ทำให้เห็นว่าฟ้าผ่านี้มีพลังที่แรงมาก เกรงว่าคงจะเป็นฟ้าผ่าอันมหาศาลที่ผ่านไปหลายร้อยปีก็ได้ไม่ค่อยได้พบได้เจอ”
“อีกอย่าง ไม้ฟาดสายฟ้าท่อนนี้ดูมืดและเปล่งประกายแสง แล้วยังมีลวดลายซ่อนอยู่จางๆ แสดงว่ามันเป็น ‘ไม้เสว่หลง’ ที่เป็นราชาของต้นไม้ นี่มันก็ยิ่งหายากกว่าเดิม”
พอได้ยินแบบนี้ เซียวฉางควนก็พูดอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่เชื่อ แค่ท่อนไม้ที่ถูกฟ้าผ่าจะมีค่ามหาศาลขนาดนี้เลยหรอ? มันเป็นเรื่องโกหกคนทั้งนั้น สิ่งที่มีค่าที่สุดคือวัตถุโบราณ ท่อนไม้นี้ของนายจะได้มายังไง มันก็แค่มีราคาไม่กี่บาทเท่านั้น”
เย่เฉินยิ้ม ของแบบนี้ สำหรับตัวเองแล้ว มีมูลค่าสูงมาก ไม่เพียงแต่มีพลังเรกิ ตามที่ “ตำราเก้าเสวียนเทียน” บันทึกไว้ แม้กระทั่งมันยังสามารถฝึกฝนออกมาได้
ทว่าเซียวฉางควนก็ไม่สามารถเข้าใจอยู่ดี
ดังนั้นเย่เฉินก็ไม่ได้อธิบายอะไรกับเขามากมาย แค่เก็บกล่องไว้