ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอนที่ 926
เขาเอ่ยอย่างร้อนรน “พวกแกจะทำอะไรน่ะ? ลูกสาวของฉันเป็นผู้บริสุทธิ์นะ! อย่าลากเธอเข้ามาเกี่ยวข้อง!”
คนชุดดำยิ้มยะเยือก “ที่สำนักขอทานของแกมีเด็กเล็กมากมายที่ถูกพวกแกล่อลวงมานี่ พวกเขาไม่ผู้บริสุทธิ์เหมือนกันหรอกหรือ? หรือว่าของของแกเซวหนานซานเป็นคน แล้วลูกของคนอื่นไม่ใช่คน?”
เซวหนานซานผงะไปแล้ว!
สติของเขากับภรรยายังไม่ทันกลับคืนมา ก็ถูกคนชุดดำบังคับพาตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์แล้ว
และคนที่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาพร้อมกับพวกเขา ยังมีลูกสาวของพวกเขาด้วย
หนึ่งในบรรดาคนชุดดำหยิบเข็มฉีดยาหลอดหนึ่งออกมา ฉีดยากล่อมประสาทเข็มหนึ่งให้ลูกสาวของเซวหนานซาน
ด้วยยากล่อมประสาทเข็มนี้ จะทำให้ลูกสาวของเซวหนานซานหลับไปไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมง
จากนั้น เครื่องบินก็ทะยานขึ้นอย่างราวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังสะพานสายนั้นที่เย่เฉินอยู่
….
ในเวลานี้เอง บนสะพานหลวง
ครอบครัวหลิ่วจ้าวเฉินหกชีวิต แทบจะหัวใจวายแล้ว
เจี่ยงหมิงตกใจจนสลบไปอยู่หลายครั้ง แล้วก็ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมา
ผู้อาวุโสของสำนักขอทานที่รับผิดชอบเรื่องการซื้อขายตัวคนโดยเฉพาะคนนั้น ตอนนี้กำลังเดินทางมาแล้ว ลูกน้องของเฉินจื๋อข่ายกระจายตัวอยู่บนสะพานปานตาข่ายฟ้าดิน ขอเพียงคนๆ นี้ปรากฏตัวขึ้น ก็จะถูกควบคุมไว้ทันที
ตอนนี้หลิ่วจ้าวเฉินคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเย่เฉิน มองดูเย่เฉิน เอ่ยขอร้อง “พี่ใหญ่ อีกเดี๋ยวถ้าผู้อาวุโสของสำนักขอทานคนนั้นมาถึงแล้ว ขอร้องท่านช่วยปล่อยพวกเราทั้งครอบครัวไปด้วยเถอะ! วันหน้าพวกเราจะกลับตัวแน่นอน จะไม่กระทำเรื่องเลวทรามชั่วช้าแบบนี้อีกแล้ว!”
เย่เฉินยิ้มหยัน “ถ้าหากแกสามารถปรับสันดานได้จริงๆ ตอนแกไรท์หนังซูม ถูกคนตัดมือขวาทิ้ง แกก็คงปรับสันดานใหม่แล้ว คนอื่นทำงานเหนื่อยยากเพื่อสร้างภาพยนตร์สักเรื่องขึ้น เตรียมปล่อยฉายในโรงภาพยนตร์ รอรับเงินค่าบอกซ์ออฟฟิศ ผลคือมีไอ้ชั่วอย่างแกกลับขโมยงานของคนอื่นไปอย่างหน้าด้านๆ ไอ้สวะที่ละเมิดลิขสิทธิ์แบบแก ไอ้โง่เง่าที่หน้าหนาไร้ยางอาย สมควรตายอย่างไร้หลุมกลบฝังกันทั้งตระกูล! แกทำหนังซูมก็แล้วไปเถอะ นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าจะกล่างฟพุ่งเป้ามาที่เด็กๆ ด้วย แกนี่มันก่อคดีซ้ำแล้วซ้ำอีก!”
หลิ่วจ้าวเฉินร้องไห้โฮทันที เขายกมือขวาที่ขาดด่วนของตนขึ้นมา เอ่ยอ้อนวอน “พี่ใหญ่ ผมทำหนังซูมเป็นตัวสารเลวจริงๆ สมควรตายจริงๆ แต่ผมก็จ่ายค่าตอบแทนไปแล้วไง! คุณดูสิผมยังหนุ่มยังแน่นแต่มือกลับด่วนไปแล้ว หลายปีมานี้ชีวิตของผมลำบากมากเลยนะ!”
เย่เฉินเอ่ยเสียงเย็น “มือขวาของแกเป็นแค่ราคาที่แกต้องชดใช้สำหรับการทำหนังซูม ตอนนี้แกมาฆ่ามนุษย์ ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่ลักพาตัวเด็กมา!”
หลิ่วจ้าวเฉินเอ่ยทั้งน้ำตา “พี่ใหญ่ ไม่งั้นคุณตัดขาของผมไปข้างหนึ่งเถอะ ตัดขาของผมไปข้างหนึ่ง แล้วชั่วชีวิตนี้ผมจะเป็นคนดีแน่นอน!”
เย่เฉินเอ่ยยิ้มๆ “แกช่างเจรจาต่อรองกับคนอื่นเสียเหลือเกินนะ ตัดขาแกข้างหนึ่งก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่เธอลักพาตัวเด็กมาสิบคน ฉันจะตัดขาแกหนึ่งข้าง ตามจำนวนเด็กทุกคน แกมีสิบขาพอให้ฉันตัดไหมล่ะ?”
หลิ่วจ้าวเฉินทึ่มทื่อไปแล้ว
เขามองสีหน้าที่เปี่ยมด้วยเจตนาสังหารของหลิ่วจ้าวเฉิน ราวกับวันนี้เตรียมจะมาเอาชีวิตตนแล้ว พลันตัดสินใจเอ่ยโพล่งออกไป “พี่ใหญ่ ถึงแม้ฉันจะไม่มีสิบขา แต่พวกเราทั้งหมดมีกันเจ็ดคน! ก็เป็นสิบสี่ขาแล้วนะ…”
เย่เฉินยิ้มแล้ว กล่าวขึ้นว่า “แกเก่งวิชาคำนวณเหมือนกันนี่ เพียงแต่ในสถานการณ์แบบนี้ พวกแกทั้งเจ็ดคนไม่อาจหักลบกลบหนี้กันได้หรอกนะ เพราะว่าผลลัพธ์ที่รอพวกแกเจ็ดคนอยู่ล้วนเหมือนกันหมด”
ขณะที่กล่าวอยู่ รถลากคันหนึ่งก็ได้ขับลากรถเบนซ์ S คลาสคันหนึ่งเข้ามาจากหัวสะพาน!
เสียงของเฉินจื๋อข่ายแว่วผ่านอินเตอร์คอมมา “คุณชายครับผู้อาวุโสของสำนักขอทานคนนั้นถูกพาตัวมาแล้ว อยู่ในรถเบนซ์ S คลาสคันนั้น รถคันนั้นเป็นรุ่นกันกระสุน เป็นตายอย่างไรเขาก็ไม่ยอมลงจากรถ ผมเลยให้คนลากเขาเข้ามาเสียเลยครับ!”
__________