ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - ตอน 231
ทที่ 231 คำบัญชาสังหาร(1)
แรงจูงใจที่แท้จริงของนายหญิงใหญ่เซียวถูกเย่เฉินเปิดโปงเสียแล้ว เธอก็เริ่มลุกลี้ลุกลน
เดิมที่เธอคิดว่า ตนเองจะใช้แผนนิดหน่อย ก็สามารถจัดการกับพวกเซียวชูหรันทั้ง4คนได้อย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะไอ้คนไม่เอาไหน
อย่างเย่เฉิน ยิ่งไม่ยากอะไรเลย ขอเพียงให้เซียวไห่หลงและเซียวเวยเวยไปขอโทษเขา ปฏิบัติกับเขาดีๆ เขาก็จะซาบซึ้งจนน้ำหูน้ำตา
ไหลแล้ว
แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงว่า เย่เฉินจะเป็นคนเดียวที่ไม่คล้อยตามแผนของเธอ
เห็นว่าแผนของตนเองถูกเปิดโปง นายหญิงใหญ่เซียวก็บ่นๆ ว่า “ก็เป็นคนบ้านเดียวกัน ร่วมแรงร่วมใจกัน ตระกูลหนึ่งเปิดสองบริษัท ถ้าเรื่องมันแพร่ออกไป จะไปเป็นที่น่าขบขันหรือ?”
เย่แนพูดยิ้มเย็นๆ ว่า “หลี่เจียเฉิง มหาเศรษฐีของฮ่องกง ลูกชายของเขายังไม่ได้อยู่บริษัทเดียวกับเขาเลย มันจะแปลกอะไร? ผมคิดว่าคุณย่ามีแผนอะไรมากกว่า แกล้งทำเป็นเสียใจ แต่อยากจะหลอกให้ชูหรันกลับบริษัทเซียวซื่อ เพื่อช่วยวิกฤติของบริษัท
มากกว่า!”
“นี่แก…….นี่แก…….” นายหญิงใหญ่เซียวโกรธจนพูดไม่ออก เซียวฉางเฉียนทางด้านข้างก็รีบตวาดว่า “เย่เฉิน พูดจาระวังหน่อย ในตระกูลใน นายก็เป็นเพียงคนนอก!”
เย่เฉินไม่ได้สนใจเขา แต่หันมาพูดกับเซียวชูหรันผู้เป็นภรรยาว่า “ชูหรัน คุณจะต้องเช็ดตาแล้วมองให้ชัดเจนนะ มีบางคนอยากจะหลอกใช้คุณ พอใช้คุณเสร็จ ก็จะเฉดหัวคุณทิ้งไป คุณลืมไปแล้วหรือว่า ตอนที่คุณช่วยจัดการสัญญาจำนวนเงิน
หกแสนหยวนให้กับตี้เหากรุ๊ป แล้วพวกเขาทำอย่างไรกับคุณ? ปากบอกว่าจะยกคุณเป็นผู้อำนวยการ แล้วความจริงละ? ตอนที่อยู่ในงานเลี้ยง ถึงกับต้องประกาศเลยว่า จะยกเซียวไห่หลงเป็นผู้อำนวยการ เรื่องแบบนี้ หรือว่าคุณอยากจะให้มันเกิดซ้ำรอย
เป็นครั้งที่สอง?”
เซียวชูหรันก็มีสีหน้าที่เข้าใจอะไรขึ้นมาทันที
ในตอนนั้น เธอเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว
โชคด๊ที่ได้เย่เฉินผู้เป็นสามีคอยเตือนไว้ ไม่เช่นนั้น ตนเองก็อาจจะติดกับดักของพวกเขาไปแล้ว
ในตอนนั้น เซียวไห่หลงเห็นว่าแผนถูกเปิดโปงแล้ว แล้วก็ชี้นิ้วด่าไปทางเย่เฉินว่า “ไอ้เย่เฉิน มึงนี่นะ ที่นี่มึงมีสิทธิ์พูดอะไรด้วยหรือ? มึงมาสั่งการเรื่องของตระกูลกู มึงไม่อยากมีชีวิตรอดอยู่แล้วหรือ?”
เย่เฉินมองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วถามว่า “เป็นไงละ? แสดงต่อไปไม่ไหวแล้วสิ? ผมจะบอกคุณให้นะเซียวไห่หลง ต่อจากนี้เวลาเจอผม คุณจะต้องเกรงใจผม ไม่เช่นนั้น ตอนนี้ผมจะโทรหาหงห้า แล้วจะให้เขาเปิดคำบัญชาสังหารแก่คุณ ให้คุณทนอยู่ที่เมืองจินหลิงต่อไปไม่ได้”
“แม่มึงเอ้ย!” เซียวไห่หลงโกรธหนัก แล้วตวาดเสียงดังว่า “มึงขู่กูหรือ? อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงมันเป็นตัวอะไร มึงก็เป็นพวกที่ชอบหลอกลวงคนอื่นเขาไปทั่ว ไม่ใช่หรือ? รอพวกเขาจับผิดมึงได้ มึงคงไม่รู้แน่ว่าตัวเองจะตายอย่างไร”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า “อย่างน้อย ตอนนี้พวกเขาก็ยังจับผิดผมไม่ได้นะ อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาก็ยังเรียกผมว่า อาจารย์ อยู่เลยนะ!”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดดูถูกว่า “คุณยังจะแสดงละครต่อไปอีกไหม? ดี ผมจะได้โทรหาหงห้า”
จากนั้น เย่เฉินก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาหงห้าไป แล้วยังเปิดลำโพงโทรศัพท์ด้วย
เซียวไห่หลงก็ตกใจจนหน้าซีดขาว เหงื่อนี่ไหลตกเท่าเม็ดถั่ว อย่างไม่หยุด
ไอ้คนนี้ มันโทรหาท่านหงห้าจริงๆ อย่างนั้นหรือนี่?!
ถ้าหากว่าท่านหงห้าเปิดคำบัญชาสังหารกับตนเองจริงๆ ละก็ เช่นนั้นตนเองก็จบเห่แน่?!
พอคิดถึงจุดนี้ เขาก็รีบอ่อนข้อขึ้นมาทันที แล้วพูดว่า “เย่เฉิน เย่เฉิน ผมล้อเล่นกับคุณเท่านั้นเอง คุณอย่าจริงจังไปเลย คุณเป็นน้องเขยของผม พวกเราเป็นคนบ้านเดียวกันนะ”
เย่เฉินพูดหัวเราะว่า “ผมไม่ได้เป็นคนบ้านเดียวกับคุณ”
กำลังพูดไป โทรศัพท์ก็ต่อสายสำเร็จ
หงห้าถามอย่างเคารพว่า “อาจารย์เย่ครับ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?”
เย่เฉินก็มองเซียวไห่หลงที่สั่นเหมือนตะแกรงร่อนแกลบ แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “หงห้า ถ้าผมอยากจะให้คุณเปิดคำบัญชาสังหารสักหน่อย คุณมีลูกน้องที่ฟังคำสั่งอีกเท่าไร?”