ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 1869
ได้รับการพยักหน้าเห็นด้วยจากเย่เฉิน หงห้าก็เอ่ยเสียงดังต่อไปว่า “ท่านซ่งจี่โม่ มอบเรือยอทช์หรูSanlorenzo ผลิตจากประเทศอิตาลีให้กับอาจารย์เย่หนึ่งลำ!”
“เรือยอทช์?!” หม่าหลันโพล่งถามออกมาเป็นคนแรก “เรือยอทช์แบบไหนน่ะ? เรือกลไฟตามแหล่งชมวิวท่องเที่ยวแบบนั้น?”
คุณท่านซ่งหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “คุณผู้หญิงหม่าเข้าใจผิดแล้วSanlorenzoเป็นผู้ผลิตเรือยอทช์หรูยี่ห้อเก่าแก่ของทางยุโรป เรือลำนี้มีความยาวถึงยี่สิบกว่าเมตร มีดาดฟ้าทั้งหมดสามชั้น เหมาะสมมากกับการเดินทางท่องเที่ยวทั้งครอบครัว”
หม่าหลันเอ่ยอย่างตกตะลึงจนตาค้างว่า “เรือแบบนี้ จะต้องจำนวนเงินไม่น้อยล่ะมั้งคะ?”
ซ่งหรงวี่ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากว่า “รวมภาษีอยู่ข้างใน อยู่ที่ประมาณเจ็ดสิบล้านครับ”
“ทะ…เท่าไรนะครับ?!”
หม่าหลันทั้งคนตะลึงงันไปเลย “เรือลำเดียวก็เจ็ดสิบล้าน?!นี่ก็น่ากลัวเกินไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง?!”
เซียวชูหรันอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “ท่านซ่งคะ ของขวัญชิ้นนี้ของท่านก็ล้ำค่ามากเกินไป พวกเราไม่สามารถ…”
เย่เฉินในเวลานี้ยิ้มขึ้นมา ทำสัญลักษณ์มือ ขัดจังหวะคำพูดของเซียวชูหรัน เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ที่รัก น้ำใจนี้ของคุณท่านซ่ง คุณก็อย่าปัดออกเลย”
พูดจบ เขาก็มองไปทางซ่งจี่โม่ ทำมือคารวะเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ย “คุณท่านซ่ง เย่เฉินขอบพระคุณไว้ณ ที่นี้ด้วย!”
คุณท่านซ่งรีบเอ่ย “ไอ้หยาอาจารย์เย่ รับไว้ไม่ได้ครับรับไว้ไม่ได้!คุณสามารถชอบได้ ผู้น้อยก็วางใจแล้ว!”
จากนั้น เขาก็เอ่ยกับเย่เฉินขึ้นมาอีกว่า “กุญแจเรือยอทช์รวมไปถึงใบรับรองที่เกี่ยวข้องต่างก็อยู่ในกล่องของขวัญ เพียงแต่เรือยอทช์ตอนนี้จอดอยู่ที่ท่าเรือของสมาคมเรือยอทช์แห่งเมืองจินหลิง ผมได้ซื้อตำแหน่งเทียบเรือโดยเฉพาะไว้ให้กับคุณแล้ว ต่อไปหากคุณอยากขับเรือยอทช์ออกเดินทางท่องเที่ยว ถึงขั้นขับตามแม่น้ำยาวออกสู่ทะเล ติดต่อโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมเรือยอทช์ก็พอ”
เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “คาดว่าคงจะไม่ได้ใช้ไปสักพัก ผมก็ไม่มีใบอนุญาตขับเรือยอทช์ด้วย รอมีเวลาไปสอบแล้วค่อยว่ากันแล้วกันครับ”
คุณท่านซ่งรีบเอ่ย “อาจารย์เย่ หากคุณต้องการใช้เรือยอทช์ล่ะก็ สามารถให้หวั่นถิง หรือว่าให้หรงวี่ช่วยคุณขับก็ได้ พวกเขาทั้งสองต่างก็มีใบอนุญาตขับเรือยอทช์”
ซ่งหวั่นถิงเอ่ยอย่างค่อนข้างที่จะเขินอายว่า “นั่นสิคะอาจารย์เย่ หากคุณมีความต้องการใช้เรือยอทช์ บอกกับฉันมาโดยตรงก็พอแล้ว”
พูดจบ เธอก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยขึ้นอีกว่า “อ้อใช่แล้ว หลังจากฉลองวันตรุษจีนเสร็จช่วงระยะเวลานี้ หากคุณจะใช้เรือยอทช์ล่ะก็ สามารถติดต่อกับพี่ชายฉัน ฉันฉลองวันตรุษจีนเสร็จต้องไปญี่ปุ่นสักรอบ คงจะต้องระยะเวลาหนึ่งถึงจะสามารถกลับมาได้”
“อ๋อ?” เย่เฉินเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณซ่งไปญี่ปุ่นคือไปเที่ยวหรือว่า?”
ซ่งหวั่นถิงรีบเอ่ย “ไปคุยธุรกิจเล็กน้อยค่ะ ตระกูลซ่งตอนนี้เตรียมเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก อยากจะพูดคุยถามหาความร่วมมือเล็กน้อยจากบริษัทนิปปอนสตีจากประเทศญี่ปุ่น”
“บริษัทนิปปอนสตี?” เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยถามเธอว่า “พละกำลังขององค์กรแห่งนี้แข็งแกร่งมากหรอครับ?”
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้า เอ่ยว่า “บริษัทนิปปอนสตีคือหนึ่งในธุรกิจเหล็กชั้นนำของโลก และก็เป็นหนึ่งในบริษัทเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก”
เย่เฉินเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย “เจ้าของผู้อยู่เบื้องหลังของธุรกิจเหล็กแห่งนี้เป็นใครครับ?”
ซ่งหวั่นถิงเอ่ย “บอสใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังบริษัทนิปปอนสตีคือบริษัทซูมิโตโมค่ะ”
“บริษัทซูมิโตโม?” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “ยังไม่เคยได้ยินจริงๆครับ”
ซ่งหวั่นถิงหัวเราะพร้อมกับเอ่ย “บริษัทซูมิโตโมที่จริงแล้วธุรกิจกว้างมากเลยค่ะ เพียงแต่ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ที่เขตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมหนัก การเชื่อมต่อกับชีวิตประจำวันทั่วไปไม่ค่อยใกล้ชิดจริงๆ”
เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ เอ่ยว่า “หากถึงญี่ปุ่นแล้วมีอะไรต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อผมได้ ที่ญี่ปุ่นผมก็มีคนคุ้นเคยอยู่หลายคน”
เย่เฉินไม่ได้เอ่ยตรงๆว่า ตนเองรู้จักกับนางาฮิโกะ อิโตะรวมไปถึงอิโตะ นานาโกะแห่งตระกูลอิโตะ
เขาไม่ได้อยากให้คนรู้เรื่องที่ตนเองทำทั้งหมดที่ญี่ปุ่นในช่วงก่อนหน้านี้ ดังนั้นก็ยังคงพยายามทำตัวไม่เป็นจุดสนใจอย่างเต็มที่
ซ่งหวั่นถิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ค่ะอาจารย์เย่ หากมีความต้องการล่ะก็ ฉันติดต่อกับคุณ!”
เวลานี้ หงห้าอ่านรายการของขวัญต่อไป
“หมอเทพซือ ซือเทียนฉี มอบแจกันสองหูลายมังกรสมัยราชวงศ์หยวนให้กับอาจารย์เย่หนึ่งคู่!”