ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2024
บทที่ 2024
สำหรับคนธรรมดา สองสามพันล้านหยวนนั้นเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้า แต่สำหรับวาตานาเบะ ชินอิจิ แต่ว่านี่ก็เป็นทรัพย์สินเพียงร้อยละหนึ่ง หรือสองเปอร์เซ็นต์ของทรัพย์สินทั้งหมดของเขา
ทำให้ใครคนหนึ่งสูญเสียความเป็นชายไป ใช้รัพย์สินทั้งหมดไปหนึ่งเปร์เซ็นต์หรือสองเปอร์เซ็นต์ไปมีความปรารถนาอย่างยิ่งของสมรรถภาพอย่างนั้นอีกครั้ง เชื่อว่าไม่มีผู้ชายคนไหนใน
โลกจะปฏิเสธ
ในเวลานี้วาตานาเบะ ชินอิจิก็รู้สึกตื่นเต้นมาก และอ้าปากถามว่า: “คุณเ ไม่รู้ว่าสมรรถภาพอย่างนี้ของผมจะรักษาให้คงอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน?”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย: “รักษาให้คงอยู่ต่อไปยี่สิบปีคงจะเพียงพอแล้ว ถึงเวลานั้นคุณก็อายุเกือบเจ็ดสิบปี ก็ถือได้ว่าอายุมากแต่ก็ยังแข็งแรง หากตัวของคุณเองดูแลอย่างถูกต้อง รักษาให้คงอยู่
ต่อไปเจ็ดสิบปีกว่าก็จะทำไมเป็นไปไม่ได้”
วาตานาเบะ ชินอิจิตื่นเต้นจนใบหน้าแดงก่ำ กำปั้นทั้งสองจับแน่น พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาว่า : “…ยี่สิบปีเหรอ?! นี่…นี่ฝันก็ยังไม่กล้าคิด! เยี่ยมมาก…เยี่ยมมากจริงๆ!”
นางฮิโกะ อิโตะที่อยู่ข้างๆเอ่ยปากพูดว่า: “ชินอิจิ ในเมื่อคุณเย่ช่วยนายชดเชยข้อบกพร่องแล้ว งั้นก็ให้นานาโกะพาคุณซ่งกลับมา พวกนายเซ็นสัญญากันก่อนเถอะ!”
“ใช่ๆๆๆ!”วาตานาเบะ ชินอิจิพูดโดยลังเลแม้แต่น้อยว่า: “เซ็น! ต้องเซ็นอย่างแน่นอน!”
นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้า หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรอิโตะ นานาโกะ และเอ่ยปากพูดว่า: “นานาโกะ ลูกกับคุณซ่งกลับมาเถอะ ทานอาหารแล้ว”
“ได้ค่ะท่านพ่อ!”
หลังจากนั้นไม่นาน อิตะ นานาโกะก็พาซ่งหวั่นถึงกลับมาด้วยกัน
ในอ้อมแขนของซ่งหวั่นถิงในเวลานี้ ยังอุ้มสุนัขสีกากีตัวน้อยๆหนึ่งตัวไว้
ในเวลานี้สุนัขตัวเล็กกำลังคลานไปมาในอ้อมแขน เห็นได้ชัดว่าสนิทสนมกับเธอมาก
อิโตะ นานาโกะพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ยูกิกับพี่หวั่นถิงถูกชะตากันมาก ติดเธออยู่ตลอดไม่ยอมปล่อย ดังนั้นพี่หวั่นถึงอยากจะเอามันกลับไปเลี้ยงดูที่เมืองจินหลิง”
ซ่งหวั่นถึงลูบไล้สุนัขตัวน้อยๆในอ้อมแขนด้วยความรักไปด้วย พูดกับเย่เฉินไปด้วยว่า: “อาจารย์เ กิเป็นตัวเมีย เหมือนกับว่าจะชื่นชอบฉัน ฉันก็ชอบเธอเหมือนกัน ดังนั้นอยากจะพามัน
กลับไปในประเทศ ไม่ทราบว่าจะสะดวกหรือเปล่า?”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “มีอะไรที่ไม่สะดวก พวกเราสองคนที่มีชีวิตอยู่ก็ยังสามารถลักลอบกลับไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสุนัขตัวน้อยๆตัวหนึ่ง บนเรือมีที่ว่างมากมาย เกรงว่าสุนัขหนึ่งร้อยตัวก็
ใส่ไว้ได้”
นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้ารัวๆ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “เรือที่ผมเตรียมไว้สำหรับพวกคุณสองคนนั้นใหญ่มากจริงๆ และเหลือเอสำหรับผู้คนหลายสิบคน”
ซ่งหวั่นถึงมีความสุขมาก และพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน: “งั้นฉันก็จะพายูกิกลับไปแล้วนะ!”
นางาฮิโกะ อิโตะรีบพูดว่า: “พี่หวั่นถิง เดี๋ยวฉันจะให้คนเตรียมอาหารสุนัขให้พี่ ในตอนกลางคืนพี่และเย่เฉินซังพามันขึ้นเรือก็ได้แล้ว!”
ซ่งหวั่นถึงพยักหน้า และพูดขอบคุณ: “ขอบคุณมากๆนะนานาโกะ!”
อิโตะ นานาโกะกะพริบตา และพูดด้วยยิ้มว่า : “พี่หวั่นถิงอย่าได้เกรงใจฉันขนาดนี้!”
ซ่งหวั่นถึงพูดว่า: “ยูกิไปกับฉันแล้ว คุณจะคิดถึงมันมั้ย?”
อิโตะ นานาโกะเหลือบมองใบหน้าของเย่เฉินแวบหนึ่ง และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ถ้าฉันคิดถึงมัน ฉันก็จะไปหามันที่เมืองจินหลิง ก็สามารถไปเจอพี่และเย่เฉินซ้งได้พอดี!”
อันที่จริงแล้ว คนที่อิโตะ นานาโกะอยากเจอมากที่สุด ก็ย่อมเป็นเย่เฉินเป็นธรรมดา
เพียงแต่ว่า ในใจของเธอรู้ดีว่า เย่เฉินเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ตัวเองเดินทางมาไกลมากไปหาเขา ไม่สมควรไม่เหมาะสม
ด้งนั้น รอซ่งหวั่นถิงนำสุนัขตัวนี้กลับไปที่เมืองจินหลิง อย่างน้อยตัวเองก็สามารถอ้างเหตุผลมาหาลูกสุนัข ไปหาเย่เฉินที่เมืองจินหลิงได้
แม้ว่าถ้อยคำนี้ก็ค่อนข้างไม่จริงจังไม่มากก็น้อย แต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียง
ในเวลานี้ซ่งหวั่นถิงก็รับรู้เช่นกัน ในใจก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนหายใจ: “เด็กผู้หญิงนุ่มนวลดุจสายน้ำอย่างอิโตะ นานาโกะ ก็ถูกเย่เฉินได้หัวใจไปทั้งหมด ไม่รู้จริงว่าอาจารย์เย่เตรียมจะคืน
หนี้ความรักเหล่านี้อย่างไรในอนาคต!”
ในเวลานี้ เธอรู้สึกสงสารอิโตะ นานโกะเล็กน้อย ในเวลาเดียวก็ค่นข้างสงสารตัวเอง แม้ว่าทั้งสองจะรู้จักกันไม่นาน แต่ในส่วนลึกของหัวใจ กลับเป็นหัวอกเดียวกันอย่างจริงใจชัดเจน…