ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2083
บทที่ 2083
ในเวลานี้ซ่งเทียนหมิงยังคงจินตนาการว่าสิ่งที่ตัวเองทำยังไม่ถูกเปิดเผย
ในเวลานี้ เธอก็แอบพูดในใจว่า: “ยัยซ่งหวั่นถึงที่สมควรตายกลับมาก็ไม่เห็นต้องกังงล ถึงยังไงตอนนี้ไอ้แก่ก็กลายเป็นโรคอัลไซเมอร์แล้ว
เธออยู่ที่ซ่งซื่อกรุ๊ปก็ไม่ได้มีที่พึ่งพา จากนี้ไปอยากจะฆ่าเธอ ยังมีโอกาสมากมาย!”
ในเวลานี้ ซ่งหวั่นถึงมองไปที่ซ่งเทียนหมิง และถามเสียงดังว่า: “ลุงใหญ่ หนูได้ยินมาว่าคณะกรรมการเป็นเพราะว่าหนูไม่อยู่ ดังนั้นเลย
เสนอให้ลุงใหญ่เป็นประธานคนใหม่เหรอคะ?”
ซ่งเทียนหมิงลูบมืออย่างกระอักกระอ่วน และพูดด้วยรอยยิ้มหวานว่า: “ช่าๆ…เรื่องนี้….ฮ้อ…ทุกคนกัคิดว่าซ่งซื่อกรุ๊ปไม่สามารถขาดผู้นำ
ไปตลอด ดังนั้นเลือกแต่งตั้งให้ลุงมาแทนเธอ”
ซ่งหวั่นถึงพยักหน้า และพูดด้วยความจริงจังว่า: “งั้นก็ขอบคุณลุงใหญ่จริงๆค่ะ ขอบคุณลุงใหญ่ที่มีใจแบ่งเบาความทุกข์แทนหนู”
จากนั้น เธอเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วก็ถามว่า: “ลุงใหญ่ เมื่อกี้นี้ลุงขอกว่า ถ้าหากหนูกลั่บมา ก็จะคืนตำแหน่งประธานให้กับหนูเอง นี่น่าจะ
รักษาคำพูดอยู่มั้ย?”
ซ่งเทียนหมิงมองไปรอบๆอย่างกระอักกระอ่วนหนึ่งรอบ
“แมร่งเอ๊ย ข้างล่างนี้มีนักข่าวสื่อมวลชนอยู่มากมายขนาดนี้ อ้สารเลวเย่เฉินก็อยู่ด้วย ที่ฉันพูดเมื่อกี้นี้ ไม่ว่าพูดอะไรก็ไม่สามารถกลับคำ
ต่อหน้าพวกเขาได้ ไม่งั้นถ้าเกิดสื่อมวลชนรายงานออกไป ฉันก็จะฉาวโฉในทันที”
“อิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่คร่าชีวิตก็คือ ไอ้สารเลวเยเฉินคนนี้รับมือไม่ได้ง่ายๆ!”
“อยู่ในเมืองจินหลิง เขาก็เป็นอาจารย์เที่ผู้คนหลายหมื่นคนเคารพนับถือ มีแฟนๆนับไม่ถ้วนอยู่เบื้องหลัง ซ่งหวั่นถึงเป็นคนที่เขาช่วยกลับ
มา ถ้าหากในเวลานี้ฉันยังคงไม่ยอมปล่อยตำแหน่งประธาน เย่เฉินก็ไม่มีทางปล่อยฉันไป…
“ดูเหมือนว่า ตอนนี้ทำได้เพียงถอยและหลีกทางให้ก่อนแล้ว….
เมื่อคิตถึงตรงนั้ ในใจของซ่งเทียนหมิงกำลังกระอักเลือด เขาอดไม่ใด้ที่จะด่าทอในส่วนลึกหัวใจว่า: “นี่มันแมร่งพูดจาไม่มีแก่นสารเกิน
ไปแล้ว กูทำวิถีทางให้ได้เป็นประธาน ปรากฏว่าขึ้นเวทีอย่างเป็นทางการไม่กี่อึดใจก็จะซาลงแล้ว ตัวเองถึงขนาดยังไม่ได้เข้าไปนั่งในห้องทำงาน
ของประธานแม้แต่วินาทีเตี๋ยวเลย!”
แต่ทว่า แม้ว่าภายในใจของเขาจะมีความไม่พอใจอยู่มากมาย ในเวลานี้เขาก็ไม่กล้าแผลงฤทธิ์อะไรทั้งนั้น
เขาทำได้จำใจเอ่ยปากพูดว่า: “หวั่นถึง เธอวางใจเถอะ ตำแหน่งประธานของซ่งซื่อกรุ๊ปเป็นของเธอ ลุงเพียงแค่ว่าตอนที่เธอยังไม่กลับมา
ช่วยเธอจัดการงานสำคัญบางอย่างเท่นั้นเอง ในเมื่อตอนนี้เธอกลับมาแล้ว ตำแหน่งก็ย่อมต้องคืนให้เธอเป็นธรรมดา”
จากนั้น เขาหยิบไมโครโฟนขึ้นมา และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า: “ตอนนี้ ผมขอประกาศว่า ตำแหน่งประธานซ่งชื่อกรุ๊ป ยังคงมีคุณซ่งหวั่นถึ
งมาทำหน้าที่ต่อไป! เชื่อว่านี่ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดในใจของผู้ถือหุ้นและนักลงทุน มา ทุกคนปรบมือ!”
ข้างล่างเวทีปรบมือเสียงดังกึกก้องในทันที
ในเวลานี้ซ่งหวั่นถึงพยักหน้า หยิบไมโครโฟนขึ้นมา และพูดกับทุกคนในข้างล่างเวที่ว่า: “ขอบคุณทุกท่านที่มาซ่งซื่อกรุ๊ป งานแถลงข่าว
ของวันนี้ก็สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้ ต่อไป ฉันจะเรียกประชุมคณะกรรมการ ตรวจสอบกับสมาชิกคณะกรรมการปัจจุบันถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น
ภายในบริษัทในช่วงที่ฉันไม่อยู่ เพราะว่าในนั้นเกี่ยวพันกับความลับทางการค้มากมาย ดังนั้นเพื่อนๆพี่ๆสื่อมวลชนทุกท่านออกจากในงานก่อน
เถอะค่ะ”
นักข่าวสื่อมวลชนได้ข่าวใหญ่ที่ซ่งหวั่นถึงกลับมาในประเทศแล้ว ในเวลานี้ก็ต่างก็เร่งริบอยากจะกลับไปเขียนเผยแพร่ข่าวด้งกล่าว ดั่ง
นั้นก็เก็บอุปกรณ์ของตัวเองให้เรียบร้อยในทันที และออกจากในงานไปอย่างมีระเบียบ
ซ่งเทียนหมิงและซ่งหรงวี่สบตากัน ในส่วนลึกหัวใจของสองคนพ่อลูกก็มีความกังวลไม่มากก็น้อย
พวกเขาทั้งสองคนไม่เข้าใจ ซ่งหวั่นถึงเรียกประชุมคณะกรรมการในตอนนี้ต้องการทำอะไรกันแน่
ถ้าหากเพียงแค่ประชุมคณะกรรมการเป็นกิจวัตรประจำ นั่นก็ยังดี ที่ทุกคนจะรายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้ให้กับเธอสักหน่อย
โดยพื้นฐานก็พอๆกันแล้ว
แต่ถ้าหากซ่งหวั่นถึงรู้อะไรบางอย่างแล้ว ลงมือกับพวกเขาสองคนพ่อลูกในประชุมคณะกรรมการนี้ นั่นก็ค่อนข้างยุ่งยากแล้ว
ดังนั้น ซ่งเทียนหมิงตั้งใจพูดหยั่งเชิงว่า: “หวั่นถึง เธอเรียกประชุมคณะกรรมการ มีแผนจะทำอะไรเหรอ?”
ซ่งหวั่นถึงยิ้มเล็กน้อย: “ลุงใหญ่ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลย เรื่องราวมากมายเตี๋ยวประชุมหนูจะคอนเฟิร์มกับทุกคนทีหลัง”
ซ่งเทียนหมึงพยักหน้าอย่างวิตกกั๋งวล
ในไม่ช้า นักข่าวสื่อมวลซนทั้งหมดก็ออกจากในงานแล้ว
ห่ามกลางผู้ชมงานแถลงข่าวทั้งหมด มีเพียงเย่เฉินคนเดียวที่นั่งอยู่กับที่