ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2199
บทที่ 2199
ตู้เจิ้นหัวได้ยินเช่นนี้ แม้จะแปลกใจ แต่ในใจก็นึกยินดีอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
เขายิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ “อจารย์ล่าย วันก้นว่าคนคนนี้อาศักำลังตัวคนเดียว สามารถสังหารนินจาชั้นยอดมากมายของญี่ปุ่นได้
ความสามารถของเขาไม่เหมือนกับคนทั่วไปจริงๆ ชะตาแข็งอยู่บ้าง คงจะเป็นคนธรรมดาสินะ?”
ล่ายชิงหวาพูดอย่างเคร่งขรึมเป็นพิเศษ “เจิ้นหัว คนที่ซะตาแข็งมีมากมาย เรื่องอื่นไม่พูดถึง แต่แม่หม้ายดวงกินผัวทุกคน ซะตาล้วนแข็ง
ราวกับเหล็ก แต่ชะตาของเทพมังกรตัวจริง กลับพบเห็นได้ยากยิ่ง หากเป็นสมัยโบราณ ไม่กล้าฟันธงว่าจะได้เป็นผู้ครองราชบัลลังก์ แต่อย่าง
น้อยก็ต้องได้เป็นอ่อง โหว แม่ทัพ หรืออัครมหาเสนาบตี้ ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน!”
ตู้เจิ้นหัวเงียบไปชั่วครู่ กล่าวอย่างจริงจัง “อาจารย์ล่าย หลานสาวคนนั้นของผมอยากพบคนผู้นี้อย่างมาก ไม่รู้ว่าคุณจะชี้ทางให้เธอได้
ไหม?”
ล่ายชิงหวาทอดถอนใจ “คนผู้นี้ชะตาสูงกว่าฉันระดับหนึ่ง ฉัน มองเห็นไม่ชัดนัก….
ตู้เจิ้นหัวอุทานว่า “อาจารย์ล่าย ยังมีดวงชะตาที่คุณดูไม่ได้อีกหรือ?!”
ล่ายชิงหวาหัวเราะเสียงขึ้น กล่าวอย่างจริงจังว่า “ของอย่างดวงซะานี้ ก็เหมือนกับตำแหน่งขุนนางในสมัยโบราณ ตั้งแต่โบราณมา
ขุนนางใหญ่กว่าหนึ่งขั้นกดคนตายได้ ใหญ่กว่าฉันหนึ่งขั้น ก็เป็นการอยู่นอกเหนื่อขอบเขตความสามารถของฉัน ไม่ว่าอย่างไร ก็มองเห็นไม่ชัด”
ตู้เจิ้นหัวถามอย่างประหลาดใจ “หากว่าคุณมองไม่ซัด อย่างนั้นคุณรู้ได้อย่างไรว่าเขามีชะตาของเทพมังกรตัวจริง?”
ล่ายชิงหวายิ้มกล่าวว่า “ดวงชะตาของฉันก็คือดวงชะตาหมาง อยู่ในกฎตายตัวของดวงชะตาฮวงจุ้ย หม่างด้อยกว่ามังกร ดังนั้นที่อยู่
เหนือกว่าฉัน จึงมีเพียงดวงชะตามังกร ก็เหมือนกับอัครเสนาบดีของราชสำนักหนึ่ง ผู้ที่สามารถอยู่เหนือศีรษะเขาได้ ก็มีเพียงผู้ครองบัลลังก์
เท่านั้น ตราบใดที่ฉันมองดวงซะตาเขาไม่ชัด ก็ต้องเป็นดวงซะตาเทพมังกรตัวจริงอย่างแน่นอส”
พูดเสร็จ ในสมองเขาก็หวนนึกไปถึงหน้าตาของเย่เฉิน พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคารพ “ฉันเคยมีวาสนาเคยพบคนที่มิดวงซะตา
เทพมังกรตัวจริงอยู่คนหนึ่ง ความสามารถที่อยู่ในตัของคนผู้นั้น เกินกว่าที่คนธรรมดาจะนึกภาพออก แม้ฉันจะไม่รู้ว่าคนผู้นี้ที่หลานสาวคุณได้
พบ แท้จริงแล้วมีความสามารถมากแค่ไหน แต่คิดดูแล้วก็คงจะไม่ต่าง…
กับเย่เฉิน ในใจล่ายชิงหวาเต็มไปด้วยความเคารพนับถือมาตลอด
ตอนนั้น เขาคิดได้ว่าตนเองจวนเจียนจะตายแล้ว ขณะเดียวกันก็คิดออกว่าทางตะวันออกมีโอกาสที่ตนจะรอดชีวิตอยู่ต่อ ดังนั้นจึง
รับปากคำขอร้องของเย่โจงฉวน มุ่งหน้าไปยังเย่นจิง ค้นหาสถานที่ตรงตามหลั่กฮวงจุ้ยผื่นหนึ่งให้ตระกูลเย่
และเมื่อมาถึงตระกูลเย่ เขาถึงมองออกว่าเย่เฉิกำลังอยู่ในสภาวะมังกรที่หมดอำนาจ
ในเวลานั้น ทั้งตัวเยเฉินอยู่ในสถานการณ์ที่ชีวิตและดวงชะตาขาลงมากที่สุด เป็นดวงชะตาที่เทียบเขาไม่ติด
ดังนั้น เขาถึงสามารถมองเห็นโชคลากของเย่เฉิน
นับตั้งแต่ที่เขาทำลายสภาวะมังกรที่หมดอำนาจลงเป็นต้นมา ดวงซะตาของเย่เฉินก็พุ่งสูงเทียมฟ้ ชั่วขณะที่ขึ้นมานั้น เขาก็มองดวงซะ
ตาของเย่เฉินไม่ซัดอีกเลย
เวลานี้ เขาคิดไม่ออกว่าคนที่ซูจือหยูต้องการตามหาเป็นใครกันแน่ ดังนั้นเขาจึงสามารถแน่ใจว่าคนผู้นี้ที่ซูจื่อหยูต้องการตามหา ก็คือดวง
ซะตาของเทพมังกรตั๋วจริง
ตู้เจิ้นหัวฟังมาถึงตรงนี้ ก็ทอดถอนใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วกล่วว่า “เช่นนี้ดูทำหากหลานสามคนนี้ของผมอยากหาคนผู้นี้ให้เจอล่ะ
ก็ เกรงว่าคงต้องสิ้นเปลืองเวลาอย่างมาก!”
ล่ายชิงหวาพูดอย่างเคร่งเครียด “เจิ้นหัว ฉันไม่แนะนำที่หลานสาวของคุณจะหาต่อไป”
ตู้เจิ้นหัวถามอย่างแปลกใจว่า “เพราะอะไร? อาจารย์ล่าย ทำไมถึงพูดเช่นนี้ล่ะ?”
ล่ายชิงหวากล่าวอย่างจริงจัง “แผ่นภาพเสี่ยงทายบ่งชี้ว่ หลานสาวคนนี้ของคุณกับคนผู้นี้ที่เธอต้องการตามหามิดวงชะาชงกัน ซึ่งอีก
ฝ่ายเป็นดวงชะตามังกรที่ทั้งสูงส่งทั้งแข็งแกร่ง นี่ก็เหมือนกับรถจักรยานคันหนึ่ง กับรถไฟบรรทุกของหนักที่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงขบวน
หนึ่ง หากทั้งสองไม่ชนกัน ย่อมจะปลอดภัยไร้เรื่องราว แต่หากชนกันเข้าจริงๆ รถจักรยานจะต้องพ่ายแพ้ยับเยินอย่างแน่นอน”
ตู้เจิ้นหัวฟังมาถึงตรงนี้ เจ้าตัวก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ
เขาเชื่อถือล่ายซิงหวาอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงรีบร้อนพูดว่า “อาจารย์ล่าย ขอบคุณในคำเตือนของคุณ ผมจะโทรหาหลานสาวของผมเดี๋ยวนี้ อกให้เธออย่าตามหา
อีก”