ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2273
ซีรั่มครีเอตินินคือค่าที่สำคัญในการวินิจฉัยระดับไตที่ถูกทำลาย
หากค่าซีรั่มครีเอตินินสูงมาก ก็แสดงว่าไตถูกทำลายอยู่ในระดับที่สูง
คนหนุ่มสาวปกติคนหนึ่ง ค่าซีรั่มครีเอตินินปกติจะไม่เกิน133 หากเกินกว่านี้ ก็แสดงว่าไตเกิดสภาวะถูกทำลายแล้ว
หากมีค่าเกิน450 ก็สามารถวินิจฉัยว่าเป็นไตวาย หากเกิน700 โดยพื้นฐานก็คือเข้าข่ายยูเรเมีย
ซึ่งการแสดงผลค่าเลือดของหวังเฉิงหย่วนในช่วงกลางวันของวันนี้ ค่าซีรั่มครีเอตินินของเขา ได้ทะลุ1500ไปแล้ว!
ดังนั้นจึงอยากรู้ว่าตอนนี้เขามีอาการดีขึ้นแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่ ถึงขนาดที่ว่าหายป่วยแล้ว ค่าซีรั่มครีเอตินินก็คือตัวชี้วัดที่สำคัญค่าหนึ่ง
ในเวลาอันรวดเร็ว พยาบาลก็รุดเข้ามา
เห็นว่าหวังเฉิงหย่วนจู่ๆ ก็ดูกระฉับกระเฉงขึ้นมากะทันหัน พยาบาลก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก พักใหญ่ถึงได้สติจากเสียงเตือนของหัวหน้าฝ่ายเฉิน จึงรีบมาทำการเจาะเลือดให้หวังเฉิงหย่วน
เลือดถูกส่งไปยังห้องแลปเพื่อทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ผลอย่างเร็วที่สุดก็ต้องใช้เวลายี่สิบนาที
ขณะที่ทุกคนกำลังรอผลเลือดอย่างกระวนกระวายอยู่นั้น หวังเฉิงหย่วนก็กุมท้อง ถามซุนยู่ฟางภรรยาตนเองอย่างกระอักกระอ่วนว่า “ที่รัก มีของกินบ้างไหม? จู่ๆ ผมก็รู้สึกหิวขึ้นมา…หิวจนแสบกระเพาะหมดแล้ว…”
ซุนยู่ฟางเช็ดน้ำตา สะอึกสะอื้นกล่าวว่า “หลายวันมานี้คุณสลบไป กระเพาะเองก็มีลางว่าจะล้มเหลวไปด้วย หมอบอกว่าแม้แต่วิธีให้อาหารทางจมูกที่สวนท่อเข้าไปในจมูกไม่สามารถใช้ได้ ดังนั้นจึงอาศัยการหยอดอาหารเหลวประคองชีวิตมาตลอด ฉันจึงไม่ได้เตรียมของกินอะไรมา…”
หวังตงเสวี่ยนที่อยู่ด้านข้างรีบร้อนพูดว่า “พ่อคะ พ่ออยากกินอะไร หนูจะไปซื้อมาให้พ่อเดี๋ยวนี้เลย!”
กล่าวจบ ก็รีบร้อนถามหัวหน้าฝ่ายเฉินอีกว่า “หัวหน้าฝ่ายเฉิน ตอนนี้พ่อฉันมีความจำเป็นต้องงดอาหารไหมคะ?”
หัวหน้าฝ่ายเฉินกล่าวว่า “หลายวันมานี้พ่อคุณไม่ได้ทานอะไรมาตลอด สิ้นเปลืองพลังกายค่อนข้างมาก ยังคงต้องใช้อาหารเสริมและอุ่นร้อนที่ดูดซึมได้เร็วเป็นหลัก แต่ห้ามกินอาหารรสจัด”
หวังเฉิงหย่วนรีบกล่าวว่า “หมอเฉิน ผมกินซาลาเปาไส้เป็ดย่างสักสองสามคำได้ไหม? หากมีวุ้นเส้นเลือดเป็ดอีกสักชามก็จะดีมาก!”
หากให้คนจินหลิงเลือกอาหารโปรดมาสิบอย่าง วุ้นเส้นเลือดเป็ดกับซาลาเปาไส้เป็ดย่างจะต้องรวมอยู่ในนั้นแน่
วุ้นเส้นเลือดเป็ด คือการนำเลือดเป็นลด ไส้เป็ด ตับเป็ดกับวุ้นเส้นต้มเข้าด้วยกัน
ซาลาเปาไส้เป็ดย่าง วิธีทำก็เหมือนกับเป็ดย่างของเย่นจิง แต่กลับนำเป็ดย่างมายัดเป็นไส้ซาลาเปา
หวังเฉิงหย่วนเป็นคนจินหลิงที่เกิดและเติบโตอยู่ที่นี่อย่างแท้จริง ดังนั้นหลายวันที่เขาไม่ได้กินข้าวพออยากจะกินขึ้นมา จึงคิดถึงของสองอย่างนี้ทันที
หัวหน้าฝ่ายเฉินฟังจบ ก็พยักหน้า ก่อนจะยิ้มกล่าวว่า “พวกนี้ได้หมด แต่วุ้นเส้นเลือดเป็ดห้ามกินรสเผ็ดเด็ดขาด”
หวังตงเสวี่ยนรีบร้อนพูดว่า “งั้นหนูจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้!”
เย่เฉินที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยปากกล่าวว่า “ตงเสวี่ยน ฉันไปด้วยกันกับเธอแล้วกัน”
หวังตงเสวี่ยนรู้ หากตนไปแล้ว เหลือเย่เฉินเผชิญหน้ากับพ่อแม่อยู่ที่นี่คนเดียว จะมากจะน้อยก็คงอึดอัดอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงเอ่ยปากว่า “งั้นเราสองคนก็ไปด้วยกัน…”
ขณะที่เย่เฉินกำลังเตรียมจะออกไปพร้อมกับหวังตงเสวี่ยนอยู่นั้น ซุนยู่ฟางมารดาของหวังตงเสวี่ยนก็รีบร้อนเอ่ยปากขึ้นว่า “ตายแล้วตงเสวี่ยน คุณเฉินเป็นแขก เป็นผู้มีพระคุณของบ้านเรา ลูกไปซื้อของกินก็อย่าให้คุณเย่ลำบากลำบนตามลูกไปเลย ฝั่งตรงข้ามก็มีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่ง ลูกไปซื้อที่นั่นแล้วกัน ให้คุณเย่พักผ่อนอยู่ที่นี่เถอะ จะได้อยู่คุยเป็นเพื่อนพ่อแกพอดี”
พอหวังตงเสวี่ยนเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ในใจก็พลันเคร่งเครียดขึ้นมา
เธอรู้จักมารดาของตัวเองดี
สองปีมานี้ อายุตนนับวันจะยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ มารดาจึงค่อยเร่งรัดให้ตนรีบหาคู่หมายมาตลอด
อย่างไร ในมุมมองของคนแก่อย่างพวกเขา ผู้หญิงที่อายุเลยยี่สิบห้าปีไปแล้ว ก็สมควรที่จะรีบแต่งงาน ในเวลาเช่นนี้ อาชีพการงาน การศึกษา ล้วนไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการแต่งงาน
แต่หลายปีมานี้หวังตงเสวี่ยนยุ่งอยู่กับงานมาตลอด การเติบโตอย่างรวดเร็วของตี้เหากรุ๊ปก่อนหน้านี้ ทำให้เธอต้องทุ่มเทความพยายามทั้งหมดไปกับมัน
และเพราะว่าใจเอาแต่จดจ่ออยู่กับงาน ดังนั้นแม้หวังตงเสวี่ยนจะอายุยี่สิบแปดปีแล้ว แต่ในด้านความรักจึงยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ นี่ทำให้พ่อแม่ของเธอร้อนใจอย่างมาก