ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2293
“เจ้าหญิงไดอานา?!”
ซูโสว่เต๋อนึกถึงชะตากรรมอันแสนประหลาดของเจ้าหญิงในตำนาน ใบหน้าของเขาตกใจเป็นอย่างมาก เขาเข้าใจความหมายของผู้เป็นพ่อในทันที แล้วพูดอย่างตกใจไปว่า“พ่อ พะ……พ่อไม่ได้ล้อเล่นกับผมใช่ไหมครับ?”
ซูเฉิงเฟิงกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“เรื่องนี้เกี่ยวกับเกียรติยศศักดิ์ศรีของตระกูลซู จะปล่อยให้มีเรื่องน่าขายหน้าแบบนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะยังไง ฉันจะไม่ยอมให้ศักดิ์ศรีของตระกูลซูถูกทำลายในมือของผู้หญิงแซ่อื่น!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูเฉิงเฟิงกัดฟันกรอดแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ถึงแม้ตระกูลซูจะไม่ใช่ราชวงศ์ในยุโรป แต่ศักดิ์ศรีของเรา ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนชั้นสูงราชวงศ์ยุโรปเหล่านั้น!ถ้าหากมีใครกล้าหยามศักดิ์ศรีของตระกูลซู อย่าโทษที่ฉันไร้ความปรานี!เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตระกูลซู ฉันทำได้ทุกอย่าง!”
ซูโสว่เต๋อพยักหน้าเบาๆ
เขารู้ดี ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์ ชนชั้นสูง หรือตระกูลที่อยู่สูงสุด ศักดิ์ศรีแทบจะเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดสำหรับพวกเขา
ตอนนี้พ่อของตัวเองใช้วิธีการจู่โจมคนอื่นเพื่อหาทางรอด ให้การประมูลจัดออฟไลน์ขึ้น นี่จึงเท่ากับว่าให้ตู้ไห่ชิงพิจารณาดีๆ ถ้าหากเธอกล้ากำเริบเสิบสานเข้าร่วมงานประมูล งั้นก็อย่าโทษที่ตระกูลซูไม่ไว้หน้า!
บางครั้ง ก็เพื่อให้อีกฝ่ายตัดสินใจครั้งใหญ่
มันเหมือนเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างคนสองคน คนหนึ่งทนความเจ็บปวดของฆาตกรไม่ได้ในขณะนี้ แต่ก็ไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายไป และจะใช้อีกวิธี ยื่นมีดให้อีกฝ่ายไป
ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามไม่รับความหวังดี หยิบมีดเล่มนี้ขึ้นมา อย่างนั้นก็เท่ากับว่าช่วยตัวเองตัดสินใจในครั้งสุดท้าย
ซูเฉิงเฟิงอยากให้งานประมูลย้ายจากออนไลน์ไปจัดแบบออฟไลน์ ก็เพื่อเป้าหมายแบบนี้
……
พ่อบ้านของตระกูลตู้ที่อยู่เมืองจินหลิง ได้รับข่าวของงานประมูลที่จะเปลี่ยนจากการจัดแบบออนไลน์เป็นออฟไลน์ จึงรีบนำข่าวไปรายงานให้กับตู้ไห่ชิง
ตู้ไห่ชิงแปลกใจเป็นอย่างมาก“ไม่ได้หมายความว่ามีการประมูลแบบเดียวกันนี้ทางออนไลน์ในช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่ใช่หรอ?ทำไมครั้งนี้ถึงย้ายกลับไปจัดแบบออฟไลน์ล่ะ?”
พ่อบ้านส่ายหัวไปมา แล้วพูดว่า“คุณหนูรองครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรครับ จากที่ผมไปสืบมา เหมือนการจัดประมูลแบบออฟไลน์จะชัดเจนกว่าครับ”
ตู้ไห่ชิงไม่ได้คิดมากอะไร เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“ออฟไลน์ก็ออฟไลน์สิ ได้ตั้งเวลากับสถานที่รึยัง?”
“จองแล้วครับ!”พ่อบ้านรีบพูดว่า“วันจันทร์เวลา10โมงเช้าครับ จัดประมูลที่หอเพชรนิลจินดา!”
“หอเพชรนิลจินดา?”ตู้ไห่ชิงถามอย่างสงสัย“เบื้องหลังของหอเพชรนิลจินดาคืออะไร?”
พ่อบ้านพูดแนะนำ“หอเพชรนิลจินดานี้ เป็นสโมสรที่อยู่ภายใต้การร่วมมือกับสมาคมการละเล่นของเมืองจินหลิง ส่วนใหญ่ขายของเก่าทุกชนิด รวมถึงจัดและดำเนินการประมูลต่างๆ เถ้าแก่ชื่อเป่าฝู้กุ้ย”
ตู้ไห่ชิงพยักหน้า แล้วพูดว่า“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเช้าวันจันทร์ก็ตรงไปที่หอเพชรนิลจินดาเลยแล้วกัน”
พ่อบ้านรีบพูดขึ้นมาว่า“คุณหนูรองครับ จากที่กระผมดูแล้ว คุณหนูอย่าไปร่วมงานเลยครับ”
ตู้ไห่ชิงถามอย่างแปลกใจ“ทำไมหรอ?”
พ่อบ้านกระแอมอย่างอึดอัดใจ แล้วพูดอธิบายไปว่า“แค้กๆ……คุณหนูรอง เรื่องที่คุณหนูมาที่เมืองจินหลิง ทั่วทั้งเย่นจิงต่างโจษจันกันไปทั่ว ถ้าคุณหนูยังยืนกรานจะไปร่วมงานประมูล ถึงเวลานั้นต้องดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์แน่ครับ……”
ตู้ไห่ชิงยิ้มอย่างเรียบเฉย แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“การวิจารณ์ที่ว่าน่ะ มันก็เป็นแค่การพูดว่าฉันยังไม่ได้หย่ากับซูโสว่เต้า ถึงแม้ว่าฉันจะยังไม่ได้หย่ากับเขา แต่ฉันกับเขาแต่งงานกันมา20กว่าปี ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายหน้าไหนมาก่อน หรือแม้แต่คำพูดที่คลุมเครือก็ไม่เคยมี แต่กลับกันซูโสว่เต้า เขาพร่ำบอกว่ารักฉันรักหนา แต่สุดท้ายก็ไปมีลูกนอกสมรสข้างนอกคนหนึ่งกับคนอื่น ทำไมพฤติกรรมของเขาถูกอนุญาต แต่การกระทำของฉันกลับต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ล่ะ?”
พ่อบ้านพูดอย่างช่วยอะไรไม่ได้“คุณหนูรองครับ ถึงแม้ตอนนี้สังคมจะพูดกันถึงเรื่องการเสมอเท่าเทียมระหว่างชายหญิง แต่บางเรื่อง ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงก็ยังต่างกันอยู่ดี ในปรัชญาศีลธรรมของคนชั้นสูง จะมีการอภัยให้กับ การนอกใจของฝ่ายชายมากกว่า กระทั่งคู่ครองส่วนมากยังยอมที่จะลืมตาข้างหนึ่งปิดตาข้างหนึ่ง และผู้คนก็เห็นกันบ่อยจนเป็นเรื่องที่ไม่ได้แปลกอะไร”