ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2329
เมื่อได้ยินข้อสันนิษฐานของเย่เฉิน เฉินจื๋อข่ายก็อุทานออกมาอย่างแปลกใจ “คุณชาย แล้วคุณคิดว่า ใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เหรอ?”
เย่เฉินครุ่นคิด แล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันคิดว่า ความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนของตระกูลซูมีมากที่สุด”
“คนของตระกูลซู?!” เฉินจื๋อข่ายเบิกตาอ้าปากค้าง “คุณชาย ทำไมคนของตระกูลซูต้องเล่นงานพวกเธอด้วยล่ะครับ? มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย…”
เย่เฉินเอ่ยพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าพูดถึงความสมเหตุสมผล ฉันว่ามีเยอะนะ การที่น้าตู้ยื่นคำขาดขอหย่ากับซูโส่วเต้า ถือเป็นการทำลายหน้าตาของตระกูลซู ซูโส่วเต้าคงไม่พอใจ และคุณท่านใหญ่ซูก็คงเหมือนกัน”
เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าแล้วพูดว่า “สำหรับตระกูลที่มีหน้ามีตา การที่ภรรยาหรือว่าลูกสะใภ้ต้องการหย่า คงเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่หน้าตาของวงศ์ตระกูล แต่ก็ไม่จำเป็นต้องโหดร้ายขนาดนี้ก็ได้ไหม?”
เย่เฉินเอ่ยพูดว่า “ถึงยังไงก็เป็นตระกูลใหญ่ บางทีพวกเขาอาจจะรู้สึกว่าหน้าตาของตระกูลอยู่เหนือกว่าทุกสิ่ง อีกอย่าง น้าตู้กับซูโส่วเต้าไม่ได้แค่หย่ากันธรรมดา การที่เธอหนีมาที่เมืองจินหลิงที่อยู่ไกลแสนไกลไปเพื่ออะไรนั้น นายรู้ ฉันรู้ แน่นอนว่าคนในตระกูลใหญ่ๆที่เย่นจิงก็รู้เหมือนกัน”
เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าอย่างห้ามไม่ได้ ทอดถอนหายใจแล้วพูดว่า “เป็นอย่างนี้จริงๆด้วย…ตอนนั้นเรื่องที่คุณหนูรองตระกูลตู้ชอบพ่อของคุณ เป็นที่รู้กันไปทั่วในเย่นจิง การที่เธอมาที่เมืองจินหลิง และเข้าร่วมประมูลซื้อบ้านที่พ่อคุณเคยอยู่อาศัยด้วยราคาสูงๆแบบนี้ ก็ยิ่งประจักษ์ต่อสายตาทุกคน ว่าเธอยังไม่ลืมพ่อของคุณ….”
เย่เฉินถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ “ฉันทึ่งในความรู้สึกที่เธอมีต่อพ่อของฉันมาก แต่ว่า ยิ่งฉันรู้สึกทึ่งมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอดที่จะมองปัญหาจากอีกมุมหนึ่งไม่ได้”
เฉินจื๋อข่ายเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณชาย อีกมุมที่คุณว่า คือมุมไหน? สมองผมค่อนข้างทึบ ผมคิดไม่ออกจริงๆ”
เย่เฉินเอ่ยพูดนิ่งๆว่า “อีกมุมหนึ่งก็คือซูโส่วเต้าไง ถ้าตลอดเวลาที่ผ่านมาน้าตู้ไม่เคยลืมพ่อฉันได้เลย งั้นตลอดหลายปีที่เธอแต่งงานกับซูโส่วเต้า ก็แปลว่าเธอไม่เคยรู้สึกอะไรกับซูโส่วเต้าเลยน่ะสิ”
“เรื่องนี้…” เฉินจื๋อข่ายเงียบลงในทันที
ผ่านไปสักพัก จู่ๆเขาก็พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง “ผมเข้าใจแล้ว! การที่คุณหนูรองตระกูลตู้มารำลึกถึงพ่อของคุณที่เมืองจินหลิง ทั้งยังเข้าร่วมประมูลซื้อบ้านที่พ่อของคุณเคยอยู่อย่างเปิดเผย เท่ากับกำลังบอกคนอื่นเป็นนัยๆว่า หลายปีที่ผ่านมาเธอยังคงรักพ่อของคุณมาตลอด เมื่อเป็นอย่างนี้ แสดงว่าเธอไม่เคยรักซูโส่วเต้าเลย! ซึ่งสำหรับซูโส่วเต้าแล้ว คงเป็นเรื่องที่อัปยศและหยามเกียรติมากๆ!”
“ถูกต้อง” เย่เฉินถอนหายใจออกมา “เพราะงั้นฉันเลยสงสัยว่า คนที่บงการเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง มีความเป็นไปได้สูงว่าอาจจะเป็นซูโส่วเต้า”
หัวคิ้วของเฉินจื๋อข่ายขมวดแน่น จากนั้นก็เอ่ยพูดว่า “คุณชาย ซูจือหยูคือเลือดเนื้อเชื้อไขของซูโส่วเต้านะ ต่อให้เขาจะโกรธเคืองคุณหนูรองตระกูลตู้มากแค่ไหน แต่ก็คงไม่ทำร้ายซูจือหยูไปด้วยหรอกมั้งครับ?”
“ใช่” เย่เฉินเอ่ยพูด “เสือไม่มีทางกินลูกตัวเอง ซูโส่วเต้าไม่น่าจะลงมือกับซูจือหยู บางทีซูจือหยูอาจจะเป็นแค่เครื่องมือเบี่ยงเบนความสนใจก็ได้”
เฉินจื๋อข่ายพูดอย่างทำอะไรไม่ได้ “อย่างที่รู้ตระกูลซูไร้คุณธรรมมาตลอด เลวร้ายเข้าหน่อยเรื่องที่คุณพูดมาอาจจะเป็นความจริงทั้งหมด”
เย่เฉินเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ถ้าคนตระกูลซูต้องการให้น้าตู้ตายจริงๆ ฉันก็คงให้พวกเขาสมหวังไม่ได้!”
พูดจบ เย่เฉินก็หันมาพูดกับเฉินจื๋อข่ายว่า “เหล่าเฉิน ทำการตรวจสอบตำแหน่งของรถคันนั้นให้ละเอียดเดี๋ยวนี้ แล้วก็เตรียมฮอล์ไว้ให้ฉันด้วย!”
เมื่อเฉินจื๋อข่ายได้ยินแบบนี้ ก็รีบถามว่า “คุณชาย คุณจะไปช่วยสองแม่ลูกนั่นเหรอครับ?”
เย่เฉินตอบอืม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา “ศัตรูของศัตรูคือมิตร ขนาดซูรั่วหลีฉันยังช่วยเอาไว้ได้ เพิ่มตู้ไห่ชิงกับซูจือหยูอีกคนจะเป็นอะไรไป!”
เฉินจื๋อข่ายเอ่ยพูดในทันทีว่า “ได้ครับคุณชาย! ผมจะให้คนตรวจสอบตำแหน่งของรถคันนั้นเดี๋ยวนี้ แล้วก็จะไปเตรียมฮอล์เอาไว้ด้วยครับ!”
สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวไกลอย่างรวดเร็ว รถหลายคันล้วนแล้วแต่มีการติดตั้งฟังค์ชันระยะทางไกลที่แน่นอน
รุ่นทั่วไปสามารถตรวจสอบตำแหน่ง ปริมาณน้ำมัน การเปิดปิดประตูและกระจกรถได้จากระยะไกล
รุ่นดีขึ้นมาหน่อย สามารถเปิดปิดประตูรถ สตาร์ทรถและปรับอุณหภูมิในรถได้จากระยะไกล
ถ้าเป็นรถออโต้ที่มีฟังก์ชันใหม่ๆ จะสามารถเรียกรถได้จากทางไกล แค่ใช้งานผ่านโทรศัพท์ แค่นี้ก็สามารถทำให้รถขับเข้ามาหาคนขับ โดยที่คนขับไม่ต้องเดินไปหารถ