ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2471
บทที่ 2471
เมื่อได้ยินคำพูดของพ่อตา เย่เฉินแปลกใจมาก
“ผมจะไปทานข้าวกับพ่อตาตอนไหนกันครับ”
ขณะที่กำลังงุนงง เซียวฉางควนพยายามส่งซิกให้เขารู้ จากนั้นจึงเอ่ยปากเร่ง “โอ้ เย่เฉิน ทำไมยังใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่เลยเนี่ย รีบไปเปลี่ยน
ชุตเร็ว เราจะไปไม่ทันแล้วนะ!”
หม่าหลันเอ่ยถามขึ้นว่า “เชียวฉางควน คุณเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ทั้งวันทั้งคืน ยังไม่เท่าไร นี่จะมา
เอาลูกเขยไปด้วยเหรอ เขามีเวลาไปเข้าสังคมกับคุณชะที่ไหนกัน”
เชียวฉางควนเบะปากพูดว่า “คุณจะไปรู้อะไร เย่เฉินรู้จักหงห้า หงห้ามีชื่อเสียงในเมืองจินหลิง ประธานเพยของ สมาคมการเขียนพู่กันจีน
และภาพวาด ให้เกียรติเขามาก พอดีกับที่สมาคมของเราใกล้จะเปลี่ยนทีมผู้บริหารแล้ว ครั้งนี้ผมต้องทำให้ประธานเพย ดำเนินการให้ผมเป็น
รองประธาน ถ้าเป็นเช่นนั้น ผมจะได้เป็นผู้รับผิดชอบอันดับสองในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด!”
หม่าหลันพูดด้วยสีหน้าดูถูก “วันๆ เอาแต่ทำสมาคมการเขียนพู่กันนและภาพวาดอะไรนั่น มีประโยชน์อะไรไม่ทราบ ไม่เคยเห็นคุณ
หาเงินกลับบ้านสักนิด!”
เชียวฉางควนพูดอย่างหงุดหงิด “สมาคมการเขียนพู่กันนและภาพวาด ไม่ใช่องค์กรแสวงหาผลกำไรอยู่แล้ว นี่คือความสง่างามระหว่าง
ปัญญาชน คุณจะไปรู้อะไร!”
หม่าหลันส่งเสียงหึ “เชียวคางฉวน ฉันไว้หน้าคุณแล้วนะ ฉันจะบอกให้นะ รีบถอนตัวออกจากสมาคมบำบออะไรนั่น! ต่อไปอยู่แต่ในบ้าน!”
“ฝันไปเถอะ!” เชียวฉางควนโพล่งออกมา “สมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด เป็นงานที่ผมชอบ ในช่วงชีวิตวัยกลางคน ทำไมคุณ
บอกให้ออก ผมก็ต้องออกด้วย!”
หม่าหลันตมโต๊ะ “ไม่ออกใช่ไหม ได้ ว้นนี้ฉันจะไม่ให้คุณออกจากบ้าน! ถ้าคุณกลัาออกไป พรุ่งนี้ฉันไปจัตการถึงสมาคมการเขียนพู่กัน
จีนและภาพวาดแน่!”
เซียวฉางควนเบิกตาโตและรีบพูดว่า “คุณเป็นป้าหรือเปล่า ผมจะทำอะไร มันเกี่ยวอะไรกับคุณไม่ทราบ”
หม่าหลันพูดอย่างเย็นซา “เลิกพูดไร้สาระกับฉัน ตอนนี้ฉันกับคุณ ยังเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าคุณหาเรื่องฉัน ฉันจะไป
บอกที่สมาคมว่าคุณเล่นผู้! ดูสิว่าต่อไป คุณจะมีหน้าอยู่ที่นั่นอีกหรือเปล่า!”
“คุณ…”เซียวฉางควนรู้สึกกลัว จากนั้นจึงรีบพูดว่า “หม่าหลัน คุณจะหาเรื่องให้ลำบากไปทำไม ปกติผมก็ไม่เคยหาเรื่องคุณ แค่ออกไป
คบคำสมาคมกับเพื่อนๆ เป็นครั้งคราว คุณมาขัดแย้งกับผม มีประโยชน์อะไร”
หม่าหลันพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่ได้ขัดแย้งกับคุณ ฉันแค่อยากให้คุณรู้ว่าระหว่างเราสองคน คำพูดของใครเป็นใหญ่กันแน!”
เย่เฉินรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “แม่ครับ หลายปีมานี้พ่อชอบพวกภาพวาดโบราณ ไม่ง่ยเลยกว่าเขาจะหาโอกาสเข้าไปในสมาคมการเขียน
พู่กันจีนและภาพวาด แม่อย่าไปห้ามเขาเลยครับ”
หม่าหลันพูดอย่างจริงจัง “ได้ลูกเขย แม่พูดตามตรงเลยนะ ขาฉันหักมาตั้งนาน แต่ฟอตานายไม่เคยสนใจฉันสักครั้ง! นายว่าคนอย่างเขา
ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วตี้ หลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่า”
“ไม่เพียงแค่นั้น ขาฉันก็เดินลำมาก ทำให้ออกไปข้างนอกน้อยมาก ขนาดซื้อของ ยังต้องใช้มือถือ ส่วนเขาน่ะเหรอ ไปข้างนอกตั้งแต่เช้า
จรดเย็น ไม่เคยอยู่บ้าน ถ้าฉันไม่สนใจเขาอีก ไม่แน่เขาอาจไปกับนั่งจิ้งจอกคนไหนก็ได้!”
เซียวฉางควนสะดังโหยง เขาพูดโพล่งออกมา “หม่าหลัน คุณอย่าพุดไร้สาระ! ผู้บริหารสมาคมการเขียนพู่กันจีนและกาพวาด มีทั้งหมด 8
คน และเป็นผู้ชายทั้งหมด!”
หม่าหลันเบะปากพูดว่า “ฉันไม่สนว่ามีผู้ชายกี่คน หลังจากนี้ห้ามไปอีก!”
เย่เฉินพูดอย่างเหนื่อยใจ “เม่อย่าทะเลาะเรื่องไม่เข้าเรื่องกับฟอเลย ถ้แม่อยู่บ้นจนเบื่อ ต่อไปก็ให้พ่อหาเวลาอยู่กับแม่ทุกวัน พาแม่ออก
ไปเดินเล่น หรือไปกายภาพบำบัดได้ แต่ตัวพ่อก็ต้องมีเวลาส่วนตัวด้วย แม่อย่าก้าวก่ายจนเกินไปเลยครับ”
เมื่อเซียวฉางควนได้ยิน เขารีบพูดว่า “ใช่ๆ! ต่อไปผมจะหาเวลามาอยู่กับคุณ แบบนี้ได้ไหม”
หม่าหลันเริ่มยอมรับได้ เธอพูดกับเซียวฉางควนว่า “เห็นแก่ลูกเขย ฉันไม่ทะเลาะเรื่องไร้สาระกับคุณแล้ว แต่อย่าลืมที่คุณพูดเมื่อกี้!”
เซียวฉางควนรีบพูดว่า “วางใจเถอะ ผมไม่มีวันลืม! เอางี้ พรุ่งนี้ผมพาคุณไปเดินศูนย์การค้า ช่วงนี้คุณไม่มีโอกาสได้เดินชอปปิ้ง คงอยู่
บ้านจนเบื่อแย่”
หม่าหลันหายโกรธ และพูดว่า “คุณพูดอะไร ก็จำเอาไว้ด้วย ถ้าคุณผิดสัญญา ฉันกับคุณไม่จบแน่!”
เซียวฉางควนรีบพูดพร้อมรอยยิ้ม “วางใจได้เลย พรุ่งนี้ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณแน่นอน!”
เย่เฉินเห็นว่าหม่าหลั่นหายโกรธแล้ว จึงใช้โอกาสนี้พูดว่า “แม่ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมขอออกไปกับพ่อก่อนนะ”
หม่าหลันพยักหน้า “ไปเถอะ ขับรถระวังด้วย!”
เซียวฉางควนอดพูดไม่ได้ “เย่เฉิน นายรีบไปเปลี่ยนชุดเร็ว ฉันไปรอนายในรถนะ!”
เย่เฉินตอบรับ และกลับไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้อง เมื่อมาถึงรถ เชียงฉางควนนั่งกระปรี้กระเปร้าอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ
เย่เฉินเข้ามานั่งตรงที่คนขับ และถามว่า “คืนนี้พอไปทานข้าวกับประธานเฬยจริงเหรอ”
เซียวฉางควนโบกมือไปมา “ไม่ใช่ ทำไมฉันต้องทานข้าวกับเขา ตอนนี้ไอ้หมอนั่นเอาแต่ประจบฉัน ฉันไม่อยากแยแสเขาด้วยซ้ำ”