ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2498
บทที่ 2498
ไหม้เฉิงซินพูดอย่างยิ้มๆ”ผมใช้รถอยู่ภายในเมืองนั่นแหละครับ วันๆหนึ่ง อย่างมากน่าจะประมาณร้อยสองร้อยกิโลเมตร”
คนขับรถโดยสารจึงโพล่งออกไปว่า”งั้นคุณก็ให้สองพันหยวนแล้วกัน! ”
“สองพัน? ! “ไมค์ที่อยู่ข้างอุทานขึ้นมาอย่างตกใจ”คุณคิดราคาโหดไปรึเปล่า? คุณจะกรรโชกเรา เพียงเพราะเห็นเราออกมาจากสถานี
รถไฟแบบนี้ไม่ได้นะ!
คนขับรถโดยสารหน้าเหี่ยวแดงก่ำด้วยความอับอาย จึงรีบพูดขึ้นมาว่า”งั้นพ้นห้าก็แล้วกัน? ”
ไมค์ยังอยากพูดอะไรบางอย่าง เวลานี้เองหม้เฉิงซินจึงมือตัดบทสนทนาเขา แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า”สองพันนั่นแหละ ไมค์ เอาเงินให้
เขาไป”
ไมค์พูดอย่างไม่รู้ตัวว่า”คุณทวดครับ เมื่อกี้เขาพึ่งบอกว่าพันห้านะครับ……”
ไหม้เฉิงซินพูดอย่างเด็ดขาดว่า”ลืมสิ่งที่ฉันพูดกับแกไปเมื่อกี้แล้วหรอ? สองพัน เอาเงินให้เขาไปซะ”
ทันใดนั้นเขารู้สึกเย็นวาบ รีบพยักหน้า แล้วหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนออกมานับยี่สิบใบแล้วยื่นส่งให้คนขับไป
อันที่จริงเขาไม่ได้ขี้หนียว และไม่ใช่ว่าไม่มีปัญญาจ่ายเงินสองพันหยวนนี้ เพียงแต่การที่คนอื่นกรรโชกตัวนี้อย่างซึ่งๆหน้าแบบนี้ทำให้
เขารู้สึกรับไม่ได้
แต่ทว่า เมื่อนึกถึงคำพูดของคุณทวด บอกว่าให้ตัวเองลดการโต้เถียงกับผู้อื่น เขาจึงรู้สึกตัวขึ้นมาทันที หลังจากนั้นก็ควักเงินออกมา
อย่างเต็มใจ
คนขับรับเงินอย่างดีใจ แล้วนับอย่างละเอียด พลางรีบพูดขึ้นมาว่า”เชิญทั้งสองท่านขึ้นรถครับ! ”
ไมค์พยุงไหม้เฉิงซินเข้ามานั่งในรถ แล้วเขาก็อ้อมไปนั่งอีกฝั่ง
คนขับรถขับรถมุ่งไปข้างหน้าไปด้วย พลางถามไปด้วยว่า”ท่สองท่านน่าจะพึ่งกลับมาจากต่างประเทศใช่ไหมครับ? ”
ไมค์ถามอย่างแปลกใจ”คุณรู้ได้ยังไง? ”
คนขับรถพูดอย่างยิ้มๆ”คนในประเทศมีไม่กี่คนหรอกครับที่พกเงินสดหลายพ้นออกจากบ้าน ที่นี่เราใช้จ่ายผ่านอิเล็กทรอนิกส์กันทั้งนั้น
แหละครับ มันปลอดภัยและประหยัดเวลา”
ไมค์พยักหน้า แล้วพูดขึ้นมาว่า”นี่เป็นเรื่องจริงนั่นแหละครับ การใช้จ่ายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ของภายในประเทศ ก้าวหน้ากว่าต่างประเทศ
มาก”
คนขับรถพูดอย่างภาคภูมิใจ”แน่นอนอยู่แล้วครับ สั่งคมร้เงินสดไงครับ! คุณดูสิหลังจากที่เราใช้จ่ายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ โจรขโมยก็
น้อยกว่าเมื่อก่อนมากเลยครับ”
พูดจบ เขาก็เอ่ยปากถามขึ้นมาว่า”ทั้งสองท่านจะไปที่ไหนครับ? ”
ไมค์เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า”ไปมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์จินหลิง”
เย่เฉินเอาแต่คิดเกี่ยวกับเรื่องของการขนส่งทางทะเลตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้
เขาตระหนักได้แล้ว เป็นโอกาสที่ดีในการเติบโตก้าวหน้า เพียงแต่ขายั่งคิดไม่ออกว่า ตกลงควรจะให้ใครมาบริหารจัดการ
เย่เฉินรู้ตัวเองดี ว่าตัวเองเรียนหนังสือมาน้อย เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ การนำเข้าและส่งออกรวมถึงการจัดเก็บและการชำระเงิน
ตราต่างประเทศเขามีความรู้ความเข้าใจน้อยมาก ถ้าให้เขาเข้าไปจัดกรบริหารเองล่ะก็ เขาไม่มีทางเริ่มต้นได้ด้วยซ้ำ
ดังนั้น จะก้าวเข้าสู่วงการนี้ ก่อนอื่นจะภารกิจที่จะต้องจัดการก็คือการหาคนที่เหมาะสม
เซียวชูหรันไม่รู้ว่าเย่เฉินมีเรื่องหนักใจอะไร เธออาบน้ำออกมา ก็เห็นเย่เฉินตื่นขึ้นมาแต่ก็ยังนอนเหม่อลอยอยู่บนเตียง จึงอดถามขึ้นมาไม่
ได้ว่า”คุณคะ เหม่อคิดอะไรตั้งแต่เช้าคะ? ”
เย่เฉินดึงสติกลับมา แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า”ผมน่ะหรอ กำลังคิดเรื่องทำธุรกิจน่ะครับ……
“ทำธุรกิจ? “เซียวชูหรันถามอย่างแปลกใจ”คุณอยากทำธุรกิจ? ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆ”มีความคิดแบบนี้ครับ แต่ยังหาจุดเริ่มต้นไม่ได้”
เซียวชูหรันรีบพูดขึ้นมาว่า”คุณคะ ฉันคิดว่าคุณอย่าคิดเรื่องทำธุรกิจเลย”
เย่เฉินถามอย่างแปลกใจ”ทำไมหรอครับ? ”
เซียวชูหรั่นพูดอย่างจริงจัง”ตอนนี้ครอบครัของเราไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินทอง ปกติคุณช่วยคนอื่นดูฮวงจุ้ยก็หาเงินได้ไม่น้อยแล้วนะคะ
ทางฉันถั่าคว้าโปรเจกต์ของตื้หากรุ๊ปมาได้ ครอบครัวของเราจะมีเงินที่ใช้ไม่หมด ทำไมต้องลำบากไปทำธุรกิจด้วย? ”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง”แต่เมียจำ คุณกำลังทำธุรกิจอย่างยากลำบากไม่ใช่หรอครับ? ”
เซียวชูหรั่นนั่งข้างๆเย่เฉิน แล้วกุมมือของเขา พลางพูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า”คุณคะ การทำธุรกิจมั่นลำบากจริงๆ อีกทั้งมันเป็นการที่ยิง
ธนูออกไปแล้วไม่สามารถเก็บลูกศรคืนกลับมาได้ ดังนั้นฉันถึงไม่อยากให้คุณไปลำบากขนาดนั้น”
พูดจบ เซียวชูหร้นก็พูดอย่างสะท้อนใจว่า”หลายปีมานี้คุณไม่ได้แค่ดูแลฉัน ดูแลครอบครัว ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของป้าหลี่ ยังดูพ่อ
กับแม่ของฉันคอยบงการจนวุ่นวายไปหมด ถูกพ่อกับแม่และคุณย่าทั้งครอบครัวดูถูก ลำบากมามากพอแล้วนะคะ ตอนนี้กว่าได้พักผ่อนอย่าง
สบายใจแบบนี้ได้มันไม่ง่ายเลย ทำไมยังต้องไปทำธุรกิจด้วยล่ะคะ?