ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2597
บทที่ 2597
เมื่อชูโสว่เต้าได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ยื่นนิ่งไม่ขยับอยู่ต่อหน้าเย่เฉิน
เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่า ลูกชายของเย่ฉางอิงจะยังมีชีวิตอยู่!
เขายิ่งคิดไม่ถึงว่า ลูกชายของเย่ฉางอิง จะมาปรากฏตัวอยู่ตัวอยู่ตรงหน้าของตัวเอง!
ตอนนี้หัวใจของเขา นอกจากประหม่าแล้ว เป็นความรู้สึกโกรธ!
“เย่ฉางอิง! เย่ฉางอิงอีกแล้!นับตั้งแต่ที่ฉันรู้จักตู้ให่ชิง เย่ฉางอิงสามคำนี้ก็กลายเป็นฝันร้ายของฉัน จนถึงก่อนหน้านี้ที่ตู่ไห่ชิงประสบ
อุบัติรถคว่ำ สูญหายอย่างไร้ร่องรอย ฉันถึงได้ค่อยๆป็นอิสระหลุดออกจากเงาของเย่ฉางอิง แต่กลับเห็นลูกชายของเย่ฉางอิงอีกคน? ! ตกลง
ไอ้หมอนี่มันโผล่ออกมาจากไหนอีกเนี่ย? !”
เมื่อเห็นหน้าตาของเย่เฉินกับเย่ฉางอิง ลักษณะท่าทางเหมือนกันมาก ซูโสว่เต้าก็แทบจะไม่สงสัยคำพูดของเขาเลย
เขาจ้องไปที่เเฉิน แล้วถามอย่างเยหยันว่า”ถึงนายจะเป็นลูกชายของเย่ฉางอิงแล้วไง มาปรากฏตัวอยู่ในห้องของฉัน หมายความว่า
ไง? ”
“หมายความว่าไง? “เย่เฉินยิ้มอย่างเยัยหยัน”ผมมาคิดบัญชีกับคุณไงล่ะ คุณบอกว่าผมหมายความว่าไงงั้นหรอ?”
“คิดบัญชี? ! “ซูโสว่ต้าเห็นเย่ฉินมาอย่างไม่ป็นมิตร เมื่อนึกถึงว่าตัวเองกำลังอยู่ในโรงแรมของตระกูลเย่ ข้างกายยังไม่มีคนช่วย ในใจ
ของเขาอดที่จะรู้สึกลนลานไม่ได้
ดังนั้น เขาจึงพูดอย่างไม่ปิดบังว่า”ฉันกับพ่อของนาย อย่างมากสุดก็เป็นแค่คนคุ้นเคยกัน ไม่มีมิตรภาพ และไม่มีความแค้น นายมาคิด
บัญชีอะไรกับฉันไม่ทราบ? ”
เย่เฉินพูดอย่างเยัยหยัน”วันนี้ผมจะคิดบัญชีที่คุณก่อตั้งพันธมิตรต่อต้านตระกูลเย่ก่อน ตอนนั้นคุณกระโดดไปมา จัดตั้งพันธมิตรต่อต้าน
ตระกูลเย่เพื่อต่อกรกับพ่อของผม ?”
ซูโสวเต้าพูดแก้ตัวให้กับตัวเองว่า”นธมิตรต่อต้านตระกูลเย่มันเป็นแบบนี้ มันก็เหมือนกับบริษัทสายการบินที่มีสกายทีม มีสตาร์อัลไล
แอนซ์ ทุกคนต่างเป็นคู่แข่งกัน มันไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรเลยที่ทุกคนต่างตั้งแง่ก้นและกัน?”
เย่เฉินถามว่า”ถ้าอย่างนั้นพ่อแม่ของผมตายได้ยังไง? ”
ซูโสว่เต้าแก้ตัวว่า”ฉันจะรู้ได้ยังไง? การตายของพ่อแม่นายฉันไม่ได้เป็นคนทำส์กหน่อย ตอนนั้นคนที่อยากฆ่าพ่อแม่ของนายมีเยอะกว่า
ผมบนหัวฉันอีก ไม่ใช่แค่ในประเทศ ต่งประเทศมีตั้งเยอะ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็มีโอกาสฆ่าเขาตายได้ทั้งนั้นแหละ มันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย?
เย่เฉินหัวเราะ แล้วพูดขึ้นมาว่า”เกี่ยวอะไรกับคุณงั้นหรอ? ตอนนี้ผมยังพูดไมได้หรอก แต่ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อคุณอยู่ในมือผม ผม
สามารถจับตัวคุณไว้ก่อน แล้วค่อยๆสืบเรื่องนี้ก็ได้!”
ซูโสว์เต้ากล่าวตำหนิโดยไม่รู้ตัว”ไอ้หนุ่ม ในเมื่อนายคือลูกชายของเย่ฉางอิง งั้นก็ควรเรียกฉันว่าคุณลุงสิ อย่างน้อยฉันก็เป็นผู้อาวุโส
กว่านายนะ แต่คุณกลับกล้าบังอาจจองหองต่อหน้าฉัน!
“ปังอาจงั้นหรอ? “เย่เฉินทำเสียงห์”เนี่ยนะคือบังอาจ? เมื่อกี้ผมพูดแล้ว ถ้าคุณไม่คุกเข่า ผมจะตบปากคุณฉีก นี่ก็ยังไม่ได้ทำตามคำพูด
ที่ผมพูดไว้เลยนะ! ”
ซูโสว่เต้าตกลงจนก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้ว แล้วพูดอย่างประหม่าว่า”นะ……นายคิดว่านายเป็นคนของตระกูลเย่ แล้วจะลงมือกับฉันยังไง
ก็ได้งั้นหรอ? นายไม่สำเหยกบ้งล่ะ ถ้านายยุ่งกับฉัน ผลสุดท้ายจะเป็นยั่งไง? ”
เย่เฉินพูดอย่างเย้ยหยันว่า”ผลสุดท้ายอะไรผมไม่รู้หรอก แต่ส่วนมากผมชอบทำก่อนแล้วค่อยว่ากัน! ”
เมื่อเสียงพูดจบ เย่เฉินก็ลุกขึ้นมาจากโซฟ ในตอนที่ซูโสว่เต้ายังไม่ทันรู้สึกตัว เย่เฉินก็พุ่งเข้ามาตรงหน้าของเขา แล้วคว้าคอเสื้อเขาไว้
ใช้มืออีกข้างตบไปที่หน้าของเขาอย่างแรง
เสียงเพี๊ยะดังขึ้น……
แก้มด้านซ้ายของซูโสว่ต้าบวมแดงขึ้นมาในทันที บนหน้าของเขามีห้านิ้วประทับไว้
วินาทีนี้ชูโสว่เต้าถูกตบจนมึนงง เขาตะโกนขึ้นมาอย่างสุดเสียง”กะ……แกกล้าตบฉันงั้นหรอ?! ”
เย่เฉินถามด้วยสีหน้าแปลกใจว่า”ทำไม? คำถามนี้คุณยังไม่รู้คำตอบอีกงั้นหรอ?”
พูดจบ ก็ตบไปที่หน้าของเขาอีกครั้ง ดังเพี้ยะ ตบจนซูโสว่เต้ากระอักเลือดออกมา
เวลานี้เอง เยเฉินหัวเราะแล้วถามเขาว่า”ตอนนี้ รู้คำตอบรึยัง? ถ้าคุณยังไม่รู้ล่ะก็ ผมตอบคุณอีกครั้งก็ได้นะ”
ซูโสวเต้าถูกเย่เฉินตบหน้าถึงสองครั้ง ตบจนเขารู้สึกหน้ามืดตาลาย
ความเจ็บปวดทำให้เขาแทบจะรู้สึกถดถอย โตมาขนาดนี้ เขาเคยถูกแค่คุณท่านทุบตีเท่านั้น แต่ถึงจะเป็นคุณท่าน ก็ไม่เคยทำร้ายเขา
รุนแรงขนาดนี้มาก่อน!