ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2834 เหมือนกับตอนเด็ก
เย่เฉินคิดถึงว่า กู้เย้นจงกับหลินหว่านชิวสองสามีภรรยาจะมาที่จินหลิงด้วย
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น เขาจึงรีบถามว่า“ลุงกู้กับน้าหลินแพลนอะไรไว้ยังไง?จะให้ฉันเตรียมที่พักอะไรไว้ให้ก่อนไหม?”
กู้ชิวอี๋หัวเราะ“พ่อกับแม่ฉันคงจะบินมาวันงานคอนเสิร์ตฉันเลย อีกทั้งพวกเขามีเรื่องต้องจัดการที่เย่นจินเยอะแยะเลยค่ะ มาดูคอนเสิร์ตวันนั้นเสร็จ ตอนกลางคืนคงจะบินกลับเลย”
พูดจบ กู้ชิวอี๋ก็กล่าวว่า“อันที่จริงพ่อกับแม่ไม่ได้มาเพื่อดูคอนเสิร์ตของฉันหรอกค่ะ เนื่องจากคอนเสิร์ตครั้งต่อไปของฉันจะจัดที่เย่นจิง พวกเขามาเพื่อเยี่ยมพี่ต่างหาก และมาเพื่อฉลองวันเกิดของพี่ไปในตัว”
เมื่อเย่เฉินได้ยินว่ากู้เย้นจงกับหลินหว่านชิวจะมาฉลองวันเกิดให้กับตน เขาก็รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก และรู้สึกละอายใจเล็กน้อยเขารีบกล่าวว่า“หนานหนาน ฉันในฐานะคนรุ่นหลัง จะให้ลุงกู้กับน้าหลินบินมาเพื่อฉลองวันเกิดให้ฉันตั้งไกลขนาดนั้นได้ยังไง……”
กู้ชิวอี๋จึงหัวเราะ“โธ่ไม่เห็นเป็นอะไรเลย คุณพ่อกับคุณแม่เห็นพี่เป็นลูกคนหนึ่งของพวกเขาอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพี่ยังเคยช่วยชีวิตของพ่อฉันไว้ ช่วยชีวิตครอบครัวของเรา มีบุญคุณครั้งนี้อยู่ด้วย ถึงพี่จะบินไปอยู่อเมริกา คุณพ่อกับคุณแม่ก็ต้องรับบินไปฉลองวันเกิดให้พี่อยู่แล้ว!”
พูดจบ กู้ชิวอี๋ก็พูดอีกว่า“พี่เย่เฉินคะ พี่ยังจำได้ไหม ตอนเด็กๆ ในวันเกิดของพี่ทุกครั้ง หรือตอนที่ฉันจัดงานวันเกิด เราสองครอบครัวมักจะหาเวลาว่างมาฉลองด้วยกัน ตอนนั้นเพราะต้องทานอาหารค่ำที่บ้าน และกินกับทั้งครอบครัวใหญ่กัน ดังนั้นเราสองครอบครัวทั้งหกคนจะออกไปหาสถานที่ทานข้าวกันลำพัง”
เย่เฉินพูดอย่างแน่วแน่ว่า“จำได้อยู่แล้ว!วันเกิดฉันในทุกครั้ง เธอมักจะล้อมหน้าล้อมหลังร้องเพลงวันเกิดให้ฉัน พอถึงงานวันเกิดของเธอ คุณแม่ให้ฉันร้องเพลงให้เธอ แต่ฉันมักจะอายอยู่เสมอ……”
“ใช่น่ะสิ!”กู้ชิวอี๋พูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย“ตอนนั้นพี่น่ะเก็บตัวมาก ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา และไม่ค่อยเล่นกับฉันด้วย ทุกครั้งจะเป็นฉันที่เป็นฝ่ายเกาะแกะพี่……”
เย่เฉินอุทานในใจ ฉันไม่ได้เก็บตัวสักหน่อย แต่เพราะเขินและรู้สึกแปลกมากกว่า!
ลองนึกภาพดู เด็กที่อายุไม่กี่ขวบ มีคนบอกว่าตนจะต้องแต่งงานกับเด็กผู้หญิงที่เหมือนหนอนตามก้น จะไม่ให้รู้สึกแปลกได้ยังไง?
แต่ว่า คำพูดนี้เย่เฉินไม่ได้พูดออกไป แต่หัวเราะแล้วพูดว่า“อาจจะเป็นเพราะตอนเด็กฉันค่อนข้างขี้อายก็ได้”
กู้ชิวอี๋หัวเราะแล้วพูดว่า“พี่เย่เฉินคะ เอาอย่างงี้ไหมคะวันเกิดพี่ตอนกลางวัน เราไปฉลองด้วยกันดีไหมคะ?คุณพ่อกับคุณแม่ฉันต้องมีความสุขมากแน่ๆ พี่ว่าไงคะ?”
เย่เฉินกำลังคำนวณเวลา กู้ชิวอี๋จึงรีบพูดสำทับว่า“พี่เย่เฉินคะ ฉันรู้ว่าอาหารค่ำวันเกิดของพี่จะต้องอยู่กับเมียของพี่ที่บ้าน ดังนั้นฉันจึงเริ่มคอนเสิร์ตตอนสองทุ่ม……”
“เมื่อเป็นแบบนี้ พี่สามารถนั่งดินเนอร์ที่บ้านตอนหกโมงเย็น ร่วมฉลองวันเกิดกับเมียและพ่อตาแม่ยายที่บ้าน หลังจากนั้นหนึ่งทุ่มกว่าพี่ค่อยออกเดินทางมาที่สนามกีฬา”
“ในเมื่อพี่กินข้าวที่บ้านตอนค่ำ กลางวันน่าจะไม่ต้องกินข้าวที่บ้านหรอกใช่ไหมคะ?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสียงของกู้ชิวอี๋ก็พูดอย่างขอร้องอ้อนวอนว่า“พี่เย่เฉินคะ คุณพ่อกับคุณแม่บินมาไกลขนาดนี้ ยังไงพี่ต้องกินข้าวกับพวกเขาหน่อยใช่ไหมคะ เพื่อถือโอกาสฉลองวันเกิดให้กับพี่ด้วย!อีกอย่าง ฉันอยากเป่าเทียนวันเกิดกับอธิษฐาน เหมือนตอนเด็ก และร้องเพลงวันเกิดข้างๆให้พี่ พี่ว่าดีไหมคะ?”
เย่เฉินได้ยินถึงตรงนี้ ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งมาก และรู้ดีว่าตนเองจะต้องไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องของกู้ชิวอี๋ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น เขาจึงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล“ได้!งั้นวันเกิดฉันตอนกลางวัน ฉันจะให้หงห้าทำให้เทียนเซียงฝู่ว่างทั้งหมด ถึงเวลานั้นเราจะไปกินข้าวกันที่นั่น!”
“ดีจังเลยค่ะ!”กู้ชิวอี๋อุทานอย่างดีใจ แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า“งั้นตามนี้นะคะ ถึงเวลานั้นเค้กวันเกิดของพี่ฉันจะเป็นคนเตรียมเองค่ะ!