ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2843
เมื่อเห็นอิโตะ นานาโกะเดินเข้ามา เย่เฉินก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า:”ผมมาหาคุณอิโตะ และให้คุณอิโตะช่วยอะไรผมสักอย่าง”
อิโตะ นานาโกะรีบถามว่า:”งั้นปัญหาของเย่เฉินซัง จัดการไปถึงไหนแล้ว? ต้องการความช่วยเหลือจากฉันไหม?”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า:”จัดการเสร็จแล้วครับ และกำลังคุยเรื่องเก่าๆกับคุณอิโตะอยู่ครับ”
นางาฮิโกะ อิโตะรีบกวักมือเรียกลูกสาวของเขาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า:”นานาโกะ เมื่อกี้คุณเย่บอกพ่อว่า ต่อไปเขาอาจมีโอกาสฟื้นฟูขาของพ่อ!”
“จริงเหรอ!”ดวงตาของอิโตะ นานาโกะ เบิกกว้าง เธอมองไปที่เย่เฉินด้วยความตกใจและตื่นตกตะลึง โพล่งออกมาว่า:”เย่เฉินซัง คุณมีวิธีที่จะำให้พ่อฟื้นตัวกลับเป็นเหมือนเดิมจริงๆเหรอ?”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า:”ต้องมีโอกาสแน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”
เมื่ออิโตะ นานาโกะได้ยินสิ่งนี้ เธอพูดอย่างดีใจสุดๆว่า:”มันดีมากเลย! ในเมื่อเย่เฉินซังบอกว่ามีโอกาส ก็ต้องมีโอกาส!”
นางาฮิโกะ อิโตะอารมณ์ดีมาก รีบพูดกับเย่เฉินว่า:”คุณเย่ เดี๋ยวเราไปรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันนะ ผมจะเป็นเจ้าภาพเอง เรามาดื่มกันสักหน่อย!”
เย่เฉินรู้สึกว่าตอนเที่ยงก็ไม่มีธุระอื่นๆอะไร ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและยิ้มพูดว่า:”ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็คงต้องเอาตามนั้นครับ”
อิโตะ นานาโกะมีความสุขมากขึ้น และรีบพูดว่า:”งั้นฉันจะโทรหาแผนกอาหารและเครื่องดื่ม ให้จองห้อง”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ก็มีเสียงตบประตูอย่างรวดเร็วดังขึ้น
เอมิ อิโตะน้าของอิโตะ นานาโกะอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วพูดว่า:”ทั้งๆที่ก็มีกริ่งประตู ทำไมถึงตบประตูล่ะ? ไม่มีมารยาทจริงๆ”
พูดไป เธอลุกขึ้น โค้งตัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า:”โอนิจัง คุณเย่ พวกคุณนั่งก่อน ฉันจะไปดู”
เอมิ อิโตะเดินมาที่หน้าประตู และมีเสียงดังขึ้นที่ประตู เย่เฉินได้ยินคนตะโกนอย่างไม่เกรงใจ:”คุณชายของเรายินดีจ่ายชดเชยเป็นสองเท่าให้พวกคุณ พวกคุณอย่ามองข้ามความหวังดีของคนอื่น!”
เอมิ อิโตะพูดเสียงดัง:”พวกคุณมันไร้เหตุผลมาก! ถ้าพวกคุณยังไม่ออกไป ฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ!”
อีกฝ่ายตะโกนขึ้นทันที:”คุณอย่ามองข้ามความหวังดีของคนอื่น คุณชายของเรามีชื่อเสียงมากในหัวเซี่ย ถ้าแจ้งตำรวจจริงๆ คุณก็อย่าลืมคำนึงถึงผลที่ตามมา!”
เมื่ออิโตะ นานาโกะได้ยินแบบนี้ ก็ลุกขึ้นเดินไปอย่างทนไม่ไหว
เมื่อเห็นว่าเธอไป เย่เฉินก็รีบตามไป
ตอนนี้ เอมิ อิโตะ กำลังยืนอยู่ข้างในประตู และด้านนอกประตูมีคนหนุ่มสาว4-5คน คน4-5คนนี้แต่งกายแฟชั่น มีทั้งชายทั้งหญิง คนที่พูดเป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี คนๆนี้ไว้ผมสั้นปานกลาง และมีผมหางเป็ดยาวถึงไหล่ด้านหลังศีรษะของเขา ทั้งตัวปกคลุมไปด้วยเครื่องประดับอินเทรนด์ต่างๆ ซึ่งดูค่อนข้างเวอร์ไป
เย่เฉินรีบเดินไปที่ประตูก่อนอิโตะ นานาโกะ และถามคนหนุ่มสาวพวกนั้นว่า:”พวกคุณต้องการทำอะไร?”
เมื่อได้ยินภาษาจีนกลางที่คล่องแคล่วของเย่เฉิน ชายหนุ่มก็ยิ้มเยาะและพูดอย่างเหยียดหยามว่า:”คุณน่าจะเป็นล่ามให้สาวญี่ปุ่นคนนี้ใช่ไหม? สื่อสารกับสาวญี่ปุ่นคนนี้มันเหนื่อยมาก”
พูดจบ เขาชี้ไปที่เย่เฉินและพูดว่า:”คุณชายของเรามาพักที่จินหลิงสองสามวัน จะเช่าห้องเพรสซิเดนสูทนี้ ถ้าพวกคุณรู้ตัว เราสามารถชดเชยให้พวกคุณได้สองเท่าตามอัตราปลีก ฉันเห็นแล้ว ห้องชุดราคา 1 แสนห้าหมื่นต่อวัน พวกคุณสามารถสร้างเงินได้เกือบ 6 แสนหยวน ถ้าให้เราอยู่สักสี่วัน ทำไมถึงไม่เอาล่ะ?”
เย่เฉินเย้ยหยัน:”ฉันไม่สนใจว่าคุณมาจากไหน รีบหนีไปก่อนที่ฉันจะโกรธดีกว่า!”
“เชี่ย!”อีกฝ่ายด่าทันทีด้วยความโกรธ:”แม่งเอ้ย เป็นแค่ล่ามมาแอ๊บอะไรตรงนี้? ฉันบอกให้นะ คุณชายของเราจะมาถึงจินหลิงในเร็ว ๆ นี้ ถ้าพวกคุณไม่รีบให้ห้องมา เสียเวลาในการเข้าอยู่ของคุณชายเราล่ะก็ อย่าหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”
เย่เฉินขมวดคิ้วและถามว่า:”คุณชายของคุณคือใคร?”
อีกฝ่ายพูดด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง:”คุณชายของเราเป็นคุณชายใหญ่ของบริษัทจงซื่อ และเป็นนักร้องชายรุ่นใหม่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศในตอนนี้! ที่คราวนี้คุณชายของเรามาที่เล็ก ๆอย่างจินหลิง ก็เพื่อมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษ เพื่อเข้าร่วมทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกของคุณชิวอี๋ในปีนี้!”