ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2942 คนละแก้ว
เมื่อหงห้าได้ยินว่าเย่เฉินให้ตัวเองไปเตรียมน้ำแร่บริสุทธิ์มา จึงได้เอ่ยปากพูดว่า “อาจารย์เย่ครับ ให้ผมชงชาหมิงเฉียนหลงจิ่งชั้นดีมาให้มั้ยครับ? ล้วนเพิ่งทำการเก็บและผลิตใหม่แล้วส่งจากซูหางมาที่จินหลิงเมื่อวันก่อน ดีมากเลยละครับ”
เห็นได้ชัดว่าหงห้าไม่รู้ว่าเย่เฉินให้ตัวเองเตรียมน้ำแร่บริสุทธิ์มาให้ทำไม ดังนั้นเย่เฉินจึงยิ้มเล็กน้อย โบกมือพูดว่า “ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น แค่เตรียมน้ำแร่บริสุทธิ์มากก็พอแล้วละ”
พูดจบ เย่เฉินก็พูดอีกว่า “อ้อ ใช่สิ เตรียมมีดปอกผลไม้มาให้ด้วยอีกเล่มหนึ่ง”
แม้ว่าหงห้าจะไม่เข้าใจนัก แต่ก็ยังรีบพยักหน้าพูดว่า “ได้ครับอาจารย์เย่ ผมจะไปเตรียมให้เดี๋ยวนี้ แล้วจะรีบส่งมาให้ครับ!”
กู้เย้นจงสองสามีภรรยาและกู้ชิวอี๋เองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเย่เฉินถึงขอน้ำแร่บริสุทธิ์และมีดปอกผลไม้ แต่ก็ไม่ได้ถามรายละเอียดอะไร
จากนั้น เย่เฉินก็พูดยิ้มๆว่า “ลุงกู้ น้าหลิน แล้วก็หนานหนาน พวกเรานั่งลงกันก่อนเถอะครับ!”
“โอเค!” กู้เย้นจงหัวเราะ พูดว่า “เฉินเอ๋อ วันนี้เป็นวันเกิดของนาย ลุงมีความสุขมากจริงๆ ยังไงซะพวกเราก็ต้องดื่มกันสักหน่อย!”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างไม่ลังเลพูดว่า “ไม่มีปัญหาครับลุงกู้!ดื่มมากเท่าไหร่ผมก็ดื่มกับคุณครับ!”
พูดจบ เขาก็ลงมือเปิดเหล้าหมาวถายขวดหนึ่งด้วยตัวเอง เทให้กับตัวเองและกู้เย้นจง
กู้ชิวอี๋เองก็รีบเปิดไวน์ Romanee-Conti ค่อยๆเทลงในขวดรินไวน์ และเอ่ยปากพูดกับเย่เฉินไปด้วยว่า “พี่เย่เฉิน ตอนกลางคืนหนูยังมีการแสดง เพราะงั้นดื่มเยอะไม่ได้ เดี๋ยวฉันเคารพพี่กับพ่อแม่แก้วหนึ่งก็ไม่ดื่มเยอะกว่านี้แล้ว รอการแสดงจบแล้วมีโอกาส ฉันค่อยมาดื่มกับพี่ดีๆนะคะ!”
เย่เฉินพูดยิ้มๆ “ไม่ต้องกังวล ดื่มเยอะหน่อยก็ไม่เป็นปัญหาต่องานของเธอ”
กู้ชิวอี๋แลบลิ้น “การแสดงของตอนค่ำสำคัญขนาดนั้น ฉันไม่กล้าให้มีข้อผิดพลาดอะไรหรอกนะคะ ถ้าหากว่าฉันดื่มเยอะแล้วไปเมาอาละวาดบนเวที กลายเป็นตัวตลกนั่นไม่ได้สำคัญ ที่สำคัญคือถ้าหากไปทำลายการแสดงเละนั่นก็จบเห่แน่”
เย่เฉินตบหน้าอกพูดรับประกันว่า “หนานหนาน เธอก็เชื่อฉันแล้วดื่มไปเถอะ มีฉันอยู่ ไม่ปล่อยให้เธอไปกระทบกับเรื่องอะไรทั้งนั้นแน่นอน”
กู้ชิวอี๋ลังเลสักพัก แต่เมื่อนึกถึงว่าเย่เฉินไม่เคยพูดคำที่ไม่รับผิดชอบ ดังนั้นจึงได้พยักหน้าพูดว่า “ได้เลย งั้นฉันก็ฟังพี่ ถ้าหากว่าฉันกระทบกับการแสดง หรือว่าทำเรื่องอะไรลงไป ฉันก็จะเกาะพี่ไว้ไม่ไปไหนเลย”
เย่เฉินพยักหน้า พูดยิ้มๆว่า “เธอสบายใจได้เต็มที่เลย”
แล้วกู้ชิวอี๋ก็หันไปถามหลินหว่านชิวที่อยู่ข้างกาย “แม่คะ แม่ก็จะดื่มไวน์สักหน่อยมั้ยคะ?”
หลินหว่านชิวพูดยิ้มๆ “วันเกิดของเฉินเอ๋อเรื่องดีขนาดนี้ แม่ก็จะต้องดื่มสักหน่อยอยู่แล้ว”
พูดบ้าง เธอมองไปทางเย่เฉิน พูดอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยว่า “เฉินเอ๋อ ช่วงนี้ร่างกายน้าอ่อนล้านิดหน่อย ปริมาณการดื่มคงไม่ดีเท่าแต่ก่อน ถ้าหากว่าดื่มน้อยไป นายก็เข้าใจหน่อยนะ”
เย่เฉินพยักหน้า ถามอย่างเป็นห่วงว่า “น้าหลินครับ ร่างกายคุณไม่ดีนัก เป็นเพราะเรื่องของงานช่วงนี้หรอครับ?”
กู้เย้นจงที่อยู่ด้านข้างพูดว่า “ใช่แล้ว!ตั้งแต่ที่ฉันกำจัดอันตรายของบริษัททั้งในและนอกประเทศ น้าหลินของนายก็คอยช่วยฉันจัดการงานในบริษัทมาตลอด น้องชายสองคนนั้นของฉันถึงแม้ว่าจะทำตัวดีขึ้นมาก แต่ว่าตั้งแต่ที่เคยเจอกับเรื่องก่อนหน้านั้น ฉันก็ไม่สามารถเชื่อใจพวกเขาเต็มร้อยได้ ดังนั้นจึงยิ่งไม่กล้ามอบหมายงานสำคัญให้กับพวกเขา ตอนนี้ลำบากที่ไม่มีลูกน้องที่สามารถเชื่อใจได้ ดังนั้นจึงต้องลำบากน้าหลินของนายสักหน่อยแล้ว”
เมื่อพูดจบ เขามองไปทางหลินหว่านชิว พูดขอบคุณว่า “ที่รัก ช่วงนี้ลำบากเธอมากจริงๆเลยนะ”
หลินหว่านชิวยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างจริงใจว่า “ไม่ได้ลำบากอะไร เพียงแค่ร่างกายของคุณแข็งแรง ธุรกิจราบรื่นฉันก็สบายใจแล้ว”
พูดแล้ว หลินหว่านชิวก็พูดอีกว่า “เดิมทีตัวฉันก็อ่อนวัยกว่าคุณ งานแค่นี้ไม่นับว่าเป็นอะไรมากหรอกค่ะ”
กู้ชิวอี๋รีบพูดว่า “แม่คะ รอคอนเสิร์ตของหนูจัดเสร็จหมดแล้ว หนูก็กลับไปช่วยแม่กบพ่อ ถึงตอนนั้นหนูจะตั้งใจทำงานแน่นอน ให้พวกคุณสบายขึ้นหน่อย!”
หลินหว่านชิวพูดยิ้มๆ “อย่างนั้นก็จะดีมากเลยละ ถึงตอนนั้นพวกเราสามคนร่วมมือกัน ฉันและพ่อเธอจะต้องสบายขึ้นมากไม่น้อยแน่นอน”
ในเวลานี้เอง ด้านนอกประตูส่งเสียงเคาะดังขึ้น เย่เฉินจึงพูดว่า “เข้ามา