ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2949
ในเวลานี้กู้ชิวอี๋ที่อยู่ข้างกายมองเย่เฉินด้วยรอยยิ้ม เอ่ยปากถามว่า “พี่เย่เฉินคะ เด็กสองคนนี้ดูคุ้นตามั้ย?”
เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า “คุ้นตา แล้วยังคุ้นตาอย่างมากด้วย แต่ก็คิดไม่ออกในทันทีว่าเคยเจอที่ไหน”
หลินหว่านชิวที่อยู่ด้านข้างพูดอย่างยิ้มแย้มว่า “เด็กโง่ นี่ก็นายกับหนานหนานไม่ใช่รึไง? นี่ก็คือตอนที่พวกเธอสองคนยังเด็ก แล้วยังเป็นวันเกิดอายุหกขวบของนายด้วย!”
เย่เฉินอดที่จะพูดอย่างตกใจไม่ได้ว่า “ใช่หรอครับ? ผมก็ว่าทำไมดูแล้วคุ้นตาขนาดนี้ แต่ว่าผมไม่มีความทรงจำในตอนนั้นเลยสักนิดเดียวแล้ว”
หลินหว่านชิวพยักหน้า หยิบเอาอัลบั้มรูปภาพเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าถือของตัวเอง จากนั้นก็เปิดอัลบั้ม หารูปภาพเก่าที่ดูเหลืองแล้วออกมาใบหนึ่ง ยื่นให้เย่เฉิน
เย่เฉินรับมาดู ก็พบเห็นอย่างประหลาดใจ ในรูปภาพ ก็คือตัวเองกับกู้ชิวอี๋ อีกอย่างเสื้อผ้าหน้าตา ท่าทางรวมทั้งสีหน้าของทั้งสองคน ก็เหมือนกับตุ๊กตาฟองดองท์บนเค้กเป๊ะเลย
หลินหว่านชิวที่อยู่ด้านข้างพูดยิ้มๆว่า “วันนั้นหลังจากที่หนานหนานร้องเพลงวันเกิดให้นายจบแล้ว ก็เอาแต่งอแงบอกว่าจะแต่งงานเป็นภรรยานาย เดิมทีนายก็บอกว่าไม่ตกลง แต่ว่าพ่อแม่นายกับฉันบอกกับนายว่า ให้นายโตขึ้นแล้วมาแต่งงานกับหนานหนานไปเป็นภรรยาของนาย ดังนั้นสีหน้าของนายจึงดูน้อยใจ บอกว่านายไม่อยากจะแต่งกับแมลงตามตูดที่คอยเกาะติดนายทั้งวัน จากนั้นตอนที่จะถ่ายรูปให้กับพวกนายสองคน นายก็ดูไม่มีความสุขเท่าไหร่ เลยเป็นท่าทางแบบนี้”
เย่เฉินมองดูรูปภาพ ไม่ได้สติอยู่นาน
เรื่องราวมากมายในตอนนั้นเขาล้วนจำได้ แต่ว่าเรื่องราวในตอนนั้นมีเพียงแค่รูปร่างจางๆในสมองเขาเท่านั้น ภาพที่เกี่ยวข้องในนี้มัวมองจนแทบจะหาความทรงจำไม่เจอแล้ว
ที่สำคัญก็เป็นเพราะว่า หลังจากที่พ่อแม่ของตัวเองตายจากไป เขาก็สูญเสียช่องทางการเรียกคืนความทรงจำไปโดยสิ้นเชิงแล้ว
หลายปีมานี้ เขาไม่มีแม้แต่รูปภาพในวัยเด็กของเขาสักรูป และก็ไม่มีรูปภาพในวัยเด็กที่ถ่ายกับพ่อแม่ หรือแม้แต่รูปภาพพ่อแม่ในวัยหนุ่มสาวด้วย
เป็นเหตุให้หลายปีผ่านไป รูปร่างหน้าตาของพ่อแม่ที่อยู่ในความทรงจำก็ค่อยๆจางหายไปด้วย
ดังนั้น เดิมทีในตอนที่เห็นตุ๊กตาฟองดองท์นี้ เขาก็คิดไม่คิดเลยว่านี่คือตัวเองและกู้ชิวอี๋
ตอนนี้จู่ๆก็มาเห็นรูปภาพเก่าที่มีตัวเองกับกู้ชิวอี๋ ในใจเย่เฉินจึงได้รู้สึกเศร้าใจอย่างมาก
กู้ชิวอี๋ที่อยู่ด้านข้างถามเขายิ้มๆว่า “พี่เย่เฉิน เค้กนี้พี่ชอบมั้ยคะ?”
“ชอบสิ ชอบมากจริงๆ!” เย่เฉินพูดอย่างจริงใจว่า “คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าเค้กนี้จะทำได้เหมือนจริงมากขนาดนี้!”
กู้ชิวอี๋พูดยิ้มๆว่า “นี่คืออาจารย์เค้กฟองดองท์ที่เก่งที่สุดของเย่นจิงทำ คนที่ไปเข้าคิวหาเธอให้ทำเค้กฟองดองท์ นับก็นับไม่ไหว อีกอย่างส่วนมากก็ล้วนเป็นเศรษฐีที่มีชื่อเสียง หรือดารา ฉันนัดทำเค้กวันเกิดนี้กับเธอ นัดไว้หลายเดือนแล้ว ให้พ่อแม่ของฉันเอามาไกลขนาดนี้ ก็เพื่อเซอร์ไพรส์ให้กับพี่”
เย่เฉินมองดูตุ๊กตาบนเค้ก มองดูท่าทางของตัวเองและกู้ชิวอี๋ที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ในใจรู้สึกซับซ้อน ถึงขั้นขอบตาร้อนขึ้นและเปียกชื้นขึ้นเล็กน้อย
ดังนั้น เขาจึงรีบยิ้มล้อเล่นว่า “โอ๊ย ตุ๊กตานี้ทำได้สวยงามขนาดนี้ ฉันไม่กล้ากินเลย”
กู้ชิวอี๋พูดยิ้มๆว่า “พี่เย่เฉิน เดิมทีตุ๊กตานี้ก็ไม่ได้ไว้ให้พี่กิน ให้พี่เก็บไว้เป็นที่ระลึก นอกจากตุ๊กตาฟองดองท์แล้ว อย่างอื่นล้วนกินได้หมด”