ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 2951
กู้เย้นจงมองดูภรรยาของตัวเอง มีความตะลึงเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่า “ที่รัก ตอนนี้ฉันมองเธอ มีความรู้สึกเหมือนตอนที่พวกเราเพิ่งแต่งงานกันมากเลย….”
หลินหว่านชิวยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างเขินอายนิดหน่อยว่า “เด็กๆต่างก็อยู่นะ อย่าพูดมั่ว….”
กู้เย้นจงพูดอย่างเอาจริงเอาจังว่า “ที่ฉันพูดล้วนมาจากใจจริงนะ!”
พูดแล้ว เขาก็ล้วงเอากระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมา หลังจากที่เปิดออกแล้ว ช่องใส่บัตรหน้าใสที่อยู่ด้านนอกสุด ใส่รูปคู่ของทั้งสองคนในวัยหนุ่มสาวไว้
กู้เย้นจงยื่นรูปภาพไปไว้ตรงหน้าเย่เฉินและกู้ชิวอี๋ เอ่ยปากพูดว่า “พวกเธอดูสิ ฉันพูดความจริงมั้ย?”
เย่เฉินมองไปยังรูปถ่ายใบนั้น หลินหว่านชิวในรูปน่าจะประมาณยี่สิบหกเจ็ด แต่ว่าเธอในตอนนั้น เอนไปทางผู้ใหญ่ แม้ว่าจะเป็นรูปภาพเก่า ก็ดูน่าหวั่นไหวอย่างผิดปกติ เธอในตอนนั้น เทียบกับกู้ชิวอี๋ในตอนนี้ ความสง่าดูมีมากกว่า
กู้ชิวอี๋ที่อยู่ด้านข้างมองรูปภาพเก่าของแม่ พูดออกมาว่า “แม่คะ ตอนแม่ยังสาวสวยมากจริงๆ ถึงแม้ว่ารูปนี้หนูจะเคยดูหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่เห็น ก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมสักหน่อย….”
หลินหว่านชิวพูดยิ้มๆว่า “อย่ามาพูดยอแถวนี้นะ พูดอย่างหน้าซื่อใจคดนะ พวกนั้นล้วนเป็นวัยเยาว์ที่หายไปแล้ว พวกเธอถึงจะเป็นช่วงอายุวัยเยาว์สิ”
พูดแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะพูดถอนใจว่า “แต่ว่าถ้าจะให้พูดถึงตอนวัยสาว พี่อานถึงจะเรียกว่าสวยอย่างแท้จริง”
พูดจบ เธอก็มองไปทางเย่เฉิน พูดอย่างจริงใจว่า “เฉินเอ๋อ นายไม่รู้ว่าแม่นายตอนยังสาวนั้นโดดเด่นขนาดไหน ตอนนั้นในวงการคนมีชื่อเสียงมีคำพูดหนึ่ง พูดว่าวินาทีที่เย่ฉางอิงพาอานเฉิงซีจากสหรัฐอเมริกาไปที่เย่นจิง แสงสว่างขอผู้หญิงทั้งหมดในเย่นจิงต่างก็ดับสิ้นจนหมดแล้ว….”
เย่เฉินอดไม่ได้หัวเราะเล็กน้อยพูดว่า “น้าหลิน คุณพูดเกินจริงขนาดนี้เชียวหรอครับ?”
“แน่อยู่แล้ว” หลินหว่านชิวพูดอย่างจริงจังมากว่า “แม่นายตอนนี้ที่อยู่เย่นจิง เป็นการลดระดับที่สูงลงที่ต่ำอย่างแท้จริง ทั้งหน้าตา ความสง่าราศี รูปร่าง การศึกษา พื้นหลัง ล้วนเป็นการมีอยู่ที่อยู่ในระดับเหยียบย่ำอยู่สูงทั้งนั้น ยังไงซะตอนนั้นในประเทศก็เพิ่งเริ่มทำการเปิดเผย ดังนั้นแม่ของนายอยู่ในสายตาพวกเราแล้ว แต่ละด้านล้วนน่าทึ่งอย่างมาก”
พูดแล้ว หลินหว่านชิวก็พูดอีกว่า “อีกอย่าง ตระกูลของคุณตานายก็ปลูกฝังอยู่ต่างประเทศมานานหลายปี สามารถนับได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่เก่าแก่ ตระกูลชั้นสูงในยุโรปพวกนั้น อยู่ต่อหน้าคุณตาของนายแล้วก็ห่างไกลอย่างมาก แม่ของนายคือไข่มุกในมือของตระกูลอาน ได้รับการสั่งสอนทั้งทางตะวันตกและตะวันออกสองฝั่งตั้งแต่เด็ก พวกเราจะไปเทียบได้ยังไงกัน….”
พูดถึงนี่ หลินหว่านชิวอดพูดถอนใจไม่ได้ว่า “ในตอนนั้นนะ แม่นายใส่เสื้อผ้าอะไร ในวงการคนมีชื่อเสียงในเย่นจิงก็จะรีบทำการคลั่งขึ้นมาทันที ในตอนนั้น แม่ของนายก็คือกังหันลมของวงการคนมีชื่อเสียงในเย่นจิง เธอใส่อะไร สวมอะไร คนอื่นๆก็แทบจะรีบหาวิธีซื้อมาเลียนแบบ…”
กู้ชิวอี๋ถามอย่างประหลาดใจมากว่า “แม่คะ ที่แม่พูดล้วนเป็นความจริงหรอคะ?”
“แน่นอน!” หลินหว่านชิวพูดอย่างจริงจังว่า “ตอนนั้นพวกเรากับโลกยังไม่ได้ทำการเดินเส้นทางเดียวกันอย่างแท้จริง ข่าวในและนอกประเทศก็ยังมีความแตกต่างกันมากอยู่ ไม่เหมือนกับตอนนี้ เครือข่ายข้อมูลพัฒนามากขนาดนี้ โดยพื้นฐานแล้วภายในและนอกประเทศไม่มีเครือข่ายข้อมูลอะไรต่างกันแล้ว”
พูดถึงนี่ จู่ๆหลินหว่านชิวก็นึกขึ้นอะไรบางอย่างขึ้นได้ ถามเย่เฉินว่า “ใช่สิเฉินเอ๋อ นายเคยคิดบ้างมั้ย ว่าจะไปอเมริกาเพื่อเจอกับคุณตาคุณยายของนาย?!