ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3094 นายรู้มาจากไหน
เย่เฉินมองไปยังซูโสว่เต้า พบว่าปากของหมอนั่นบวมขึ้นมา ทำให้เขาเปลี่ยนสีหน้าไปทันที รู้สึกอึ้งไปในชั่วขณะ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามฮามิด: พี่ชาย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ฮามิดมองไปยังซูโสว่เต้า ยิ้มพลางเอ่ย: แหม ก็เจ้าหมอนี่มันพูดพล่ามไม่หยุดน่ะสิ หงุดหงิดแทบแย่ ฉันก็เลยอุดปากมันไว้
สิ้นเสียง ก็บีบแก้มของซูโสว่เต้า พร้อมกระชากหมวกบาเร่ต์ออกจากปากเขา
ซูโสว่เต้าลูบแก้มของตัวเองอย่างแรงด้วยความเจ็บปวด ฮามิดสะบัดหมวกบาเล่ต์ที่ยับยู่ยี่ พร้อมตบไปที่ขาหลายรอบ
หลังจากที่หมวกขยายออกแล้วนั้น เขาก็สวมเข้าไปบนศีรษะ แถมยังปรับตำแหน่งซ้ายขวา จากนั้นก็โอบไหล่ของเย่เฉิน พร้อมเอ่ยอย่างร่าเริง: ไป! น้องเย่! ไปดื่มกาแฟสักแก้วที่ห้องทำงานฉัน พวกเราไปคุยกันดีๆ !
เย่เฉินมองหมวกเบเร่ต์ที่อยู่ศีรษะของเขา จากนั้นก็มองซูโสว่เต้าที่สีหน้าเจ็บปวด จึงได้ยิ้มอย่างเอือมระอา ถามเขาว่า: สถานการณ์สองวันนี้เป็นยังไงบ้าง? สำนักว่านหลงมาหาเรื่องพี่อีกหรือเปล่า?
เปล่า ฮามิดปริปากเอ่ย: ทหารสอดแนมของพวกเราได้รับข่าวสาร ว่าตอนนี้พวกเขากำลังล้อมเข้ามาแคบลงเรื่อยๆ แต่ว่าฉันเห็นว่าในเวลาอันสั้นนี้พวกเขาไม่มีแผนว่าจะลงมือ จะต้องกลัวฉันแน่เลย
สิ้นเสียงฮามิดก็ชูนิ้วโป้งขึ้นมา พร้อมเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ: น้องชาย ครั้งนี้ฉันได้พึ่งบารมีของนายจริงๆ ถ้าไม่ใช่นายชี้แนะเรื่องทั้งหมดให้ฉัน บอกให้ฉันเรียนแบบทัศนคติของกานหลิ่ง เตรียมพร้อมในการรับมือกับสงครามระยะยาว ฉันอาจจะต้องถูกไอ้พวกระยำจากสำนักว่านหลงจัดการจนตายไปแล้ว! ก็เป็นเพราะฟังคำกำชับของนาย ฉันเลยจัดการพวกมันไปรวมกันได้สาม สี่พันคนแล้ว แต่ตัวเองเสียหายไม่ถึงร้อยคนเลย ผลงานการรบที่สง่างามนี้ ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์เลย
ซูโสว่เต้าได้ยินประโยคนี้ ก็อึ้งไปกว่าเดิมในทันที แม้แต่ความเจ็บปวดของแก้มก็ไม่สนใจแล้ว
ในใจของเขาตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เอ่ยในใจว่า: แม่เจ้า! กลยุทธ์รบที่แยบยลของฮามิดที่ใช้ไปนั้น ที่แท้ก็เป็นความเห็นของเย่เฉินนี่เอง! ฉันก็ว่าทำไมกลยุทธ์นี้ของพวกเขาทำไมถึงได้คุ้นนัก! ที่แท้ก็เรียนรู้มาจากเหล่ารุ่นพี่ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรานี่เอง!
เย่เฉินเจ้าหมอนี่ก็เทพจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะชี้แนวทางให้ขุนพลศึกต่ำต้อยนี้อย่างฮามิดจากทางไกลได้ แล้วทำการสู้รบด้วยความสามารถที่เหนือล้น ผลลัพธ์ก็ยังน่าตะลึงเช่นนี้ นี่มันยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าเนี่ย?
เล่ห์เหลี่ยม เล่ห์กลของเย่เฉินแบบนี้ จากนี้ไปถ้าตระกูลซูต้องสู้รบกันซึ่งๆ หน้าขึ้นมาจริงๆ แล้วตระกูลซูจะเอาอะไรไปสู้กับเขา?
อีกอย่างความสามารถนี้ของเย่เฉินก็แข็งแกร่งจนไม่สามารถอธิบายได้ ที่ว่ายอดฝีมืออย่างท่านเฮ่อ คาดว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้ว แม้แต่ตบหน้าก็ทีก็ไม่แน่ว่าจะทนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังมีผู้ขี้ประจบประแจงอย่างฮามิดอีก ตอนนี้เจ้าคนขี้ประจบประแจงผู้นี้มีทหารนับหมื่นนายอยู่ในกำมือ นับได้ว่าเป็นผู้นำรายใหญ่ของซีเรียได้แล้ว!
ในเวลานี้ ฮามิดจับเย่เฉินอย่างเป็นมิตรพร้อมลงเขาไป ซูโสว่เต้าได้แต่เดินข้างหลังทั้งสองคน
ขณะที่ใกล้จะถึงห้องทำงานของฮามิด ฮามิดหันหน้ามองเขาแวบหนึ่ง พร้อมเอ่ยเสียงเข้ม: นายตามมาทำไม? กลับถ้ำของแกไปเลยไป!
ซูโสว่เต้าทำได้เพียงรับคำสั่ง: ครับจอมพลคามมิต ผมจะกลับไปเดี๋ยวนี้!
ฮามิดหันหน้าไปพูดกับเย่เฉิน: น้องไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้นอกจากถ้ำของเขาแล้ว ก็ไม่กล้าไปไหนเลย ไม่มีทางหนีหรอก
เย่เฉินหุบยิ้ม พยักหน้าเบาๆ
ซูโสว่เต้าไม่กล้าไปสถานที่อื่นจริงๆ
เมื่อก่อนฮามิดกลัวเขาจะหนีไป ทว่าตั้งแต่ที่มีสงคราม ฮามิดก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้แล้ว เพราะว่าหากซูโสว่เต้ากล้าหนีไปจริงๆ อาจจะหนีไปไม่ไกลกี่กิโลเมตร ก็ถูกมือปืนซุ่มยิงของฝ่ายนั้นจากที่ไหนสักแห่งยิงตายแล้ว
ถึงอย่างไร หลังจากที่สำนักว่านหลงเสียหน้าไปเยอะ ก็เคยทิ้งคำขู่เอาไว้ ว่าจะไม่ให้แม้แต่แมลงวันตัวเดียวมีชีวิตรอดออกไปได้ ดังนั้นไม่ว่าซูโสว่เต้าจะมีความกล้าแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าหนีหรอก