ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3109
สวียินตงกล่าวว่า พูดมาเถอะ!
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ในเมื่อสำนักว่านหลงของคุณแข็งแกร่งมาก ทำไมถึงได้พ่ายแพ้ให้กับกลุ่มคนที่ไม่รู้หนังสือล่ะ และสูญเสียอย่างหนัก ถ้าผมจำไม่ผิด พวกคุณน่าจะสูญเสียทหารไป 2,500 กว่าคน และยังมีนายพลห้าดาวอีกคนใช่ไหม?
คุณ….. สวียินตงโกรธทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ และกล่าวด้วยความโมโหว่า พวกคุณชนะเพียงสองครั้งโดยอาศัยเล่ห์กลอุบาย ความแค้นคราวนี้ ไม่ช้าพวกเราสำนักว่านหลงจะคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอกจากพวกคุณ!
เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะยินดีมาก คุณคงไม่รู้ว่าตอนนี้ทหารของพวกเรากำลังบ่นคันไม้คันมือทุกวัน พวกเขาต้องการฆ่าทหารหมื่นกว่าคนของสำนักว่านหลงเพื่อความสะใจ เพียงแต่พวกคุณนั้นขี้ขลาดเกินไป พวกเรารอนานแล้วแต่ยังก็ไม่เห็นพวกคุณเริ่มบุกประชิดสักที กล่าวตามตรง สำนักว่านหลงนั้นทำให้พวกเรารู้สึกผิดหวังจริง ๆ
สวียินตงโกรธจนหน้าดำหน้าแดงและด่าแช่งว่า เจ้าหนู! คุณระวังคำพูดหน่อย!
เย่เฉินขมวดคิ้วและกล่าวด้วยความเหยียดหยาม คุณนั่นแหละต้องระวังคำพูด? คุณคิดว่าตนเองเป็นใคร?! วันนี้ผมมาที่นี่เพื่อเจรจากับพวกคุณ ไม่ใช่มาดูคุณเสแสร้ง!
หลังจากนั้น เย่เฉินยังคงแสดงสีหน้าไม่พอใจ คุณไสหัวไปจากที่นี่เลย พวกเราไม่จำเป็นต้องคุยกับสำนักว่านหลงอีกแล้ว พวกเราสามารถสู้รบกันไปเรื่อย ๆ และต่างฝ่ายต่างไม่ยอดอ่อนข้อให้แก่กันและกันต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าพวกคุณจะตัดสินใจอย่างไร? พวกเราจะสู้รบกันจนถึงที่สุด นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมจะคุยกับตัวแทนกองทัพของรัฐบาลเท่านั้น!
สวียินตงไม่คิดว่าเย่เฉินจะโกรธทันที และทัศนคติของเขานั้นแข็งกร้าวมาก เขาทั้งรู้สึกโกรธและกังวลอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
เขารู้ว่าเฉินจงเหล่ยหัวหน้าของตนเอง แม้แต่ประมุขก็ไม่ต้องการเจรจาสงบศึกกับฮามิด
แต่สถานการณ์ตอนนี้ สำนักว่านหลงไม่สามารถแตกหักกับกองทัพของรัฐบาลเพราะเรื่องเจรจาสงบศึก
มิฉะนั้น เมื่อกองทัพของรัฐบาลโกรธ เรื่องการก่อตั้งฐานทัพของสำนักว่านหลงในซีเรียจะสูญเปล่า
ดังนั้น แม้ว่าส่วนลึกแล้วเขาจะต่อต้านการเจรจาสงบศึก แต่สำนักว่านหลงจำเป็นต้องเสแสร้ง แล้วหาทางถ่วงเวลาออกไปจนถึงหลังวันที่ 5 เมษายน
หากเป็นเพราะคำพูดของตนเอง ทำให้ฝ่ายฮามิดไม่ยินยอมที่จะเจรจากับสำนักว่านหลงต่อ และเจรจาสงบศึกกับกองทัพของรัฐบาลแทน ถ้าเป็นเช่นนั้นฝ่ายตนเองจะเป็นฝ่ายตามเกินไป
ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงกัดฟันและกล่าวขอโทษ พี่ชาย ทุกคนล้วนเป็นคนจีน และเสี่ยงชีวิตเพื่อทำมาหากินในต่างประเทศ และไม่จำเป็นต้องทะเลาะกัน?
เย่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา ทุกคนล้วนเป็นคนจีนนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ผมรู้สึกดูถูกเพื่อนร่วมชาติที่น่าขยะแขยงอย่างคุณ! เมื่ออยู่ต่างถิ่น เมื่อพบหน้าก็เยาะเย้ยถากถางเพื่อนร่วมชาติก่อน และกล่าวคำพูดแสดงความเกลียดชัง อาศัยต่อต้านเพื่อนร่วมชาติเพื่อให้ตนเองมีตัวตน ผมคิดว่าคุณเป็นขยะประเภทที่รังควานเพื่อนร่วมชาติทันทีที่ออกมาข้างนอก!
อย่างไรเสียสวียินตงก็เป็นนายพลสามดาวของสำนักว่านหลง และเขาไม่เคยถูกใครด่าแบบนี้มาก่อน
เพียงแต่ ตอนนี้เขาไม่กล้าจ้องมองเย่เฉิน ถ้าตนเองเป็นสาเหตุทำให้การเจรจาสงบศึกเกิดความล่าช้า ซึ่งความผิดนี้ตนเองไม่สามารถแบกรับได้
ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยิ้มและกล่าวว่า ใช่ ๆ ๆ ผมไม่ควรทำเช่นนี้ ผมขอโทษท่านด้วย! เหตุผลหลักคือสำนักว่านหลงของพวกเราประสบความสูญเสียอย่างหนัก ดังนั้นผมจึงรู้สึกโกรธเล็กน้อย หวังว่าท่านจะสามารถยกโทษให้ผมได้…….
เย่เฉินเหลือมองเขาอย่างดูถูกและกล่าวอย่างเย็นชาว่า จำไว้ว่าต่อไปถ้าคุณไปต่างถิ่น จงเป็นคนถ่อมตน มีคุณธรรม และอย่าทำให้เพื่อนร่วมชาติชาวจีนต้องอับอายขายหน้า!
ท่านพูดถูก…… สวียินตงโค้งตัวแล้วพยักหน้าและกล่าวว่า ท่านวางใจ ต่อไปผมจะเป็นคนถ่อมตน และมีคุณธรรม…
หลังจากกล่าวจบ เขาก็อดทนต่อความอับอายและกล่าวกับเย่เฉินด้วยใบหน้าอ้อนวอนว่า พี่ชาย สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นั้นเป็นความผิดของผม ผมได้ตระหนักถึงความผิดของตนเองแล้ว ดังนั้นท่านได้โปรดอย่าถือสาผมอีกเลย ตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วน จอมพลของพวกเราและผู้บัญชาการกองทัพของรัฐบาลรออยู่ พวกเรารีบออกเดินทางกันเถอะ ท่านคิดว่าดีไหม?