ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - บทที่ 3181
เย่ฉางหมิ่นแสร้งหัวเราะแล้วพูดว่า โธ่เฮเลน่า เธอคงพูดหนักเกินไปแล้ว ทำไมถึงพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนล่ะ?ไม่มีใครอยากลิดรอนสิทธิของเธอนะ แค่อยากให้เธอตรวจร่างกายเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายของเธอมีปัญหา
เฮเลน่าพูดอย่างจริงจังว่า การตอบสนองที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็คือ ถ้าฉันไม่อยากรับการตรวจร่างกาย ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถบีบบังคับให้ฉันตรวจร่างกายได้ ถ้าฉันไม่มีแม้แต่อิสระ ไม่ได้การเคารพแม้แต่สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน งั้นฉันจะพิจารณาเรื่องการแต่งงานในครั้งนี้ค่ะ!
เย่ฉางหมิ่นเห็นเฮเลน่ามีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ และยังทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้น เธออดที่จะบ่นในใจไม่ได้ว่า เฮเลน่าผู้หญิงคนนี้ ใช้วิธีทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่กับฉันงั้นหรอ ยังใช้วิธีขัดขวางตัวเอง ฉลาดจริงๆ!ดูท่าเธอจะไม่ยอมตรวจร่างกายจริงๆแล้วล่ะ!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่ฉางหมิ่นก็รู้ดีว่า ตอนนี้ตนเองไม่สามารถบีบบังคับเธอได้
ไม่อย่างนั้น ดีไม่ดีองค์หญิงแห่งราชวงศ์ยุโรปคนนี้จะกลับบ้านทันที
และท่าทีของเฮเลน่า ก็ทำให้เธอมั่นใจในการตัดสินใจของตนเอง
ดูท่า เฮเลน่า อาจจะมีความลับปิดบังเรื่องสุขภาพของตัวเอง……
เมื่อคิกได้ดังนั้น เธอก็ไม่กล้าตัดสินใจอย่างวู่วาม ทำได้เพียงแค่กล่าวขอโทษกับเฮเลน่า โธ่ เฮเลน่า ฉันไม่ได้รู้ว่าเธอจะหวั่นไหวต่อเรื่องแบบนี้มาก ขอโทษด้วยนะ!แต่เธออย่าโกรธไปเลยนะ ฉันไม่ได้มีความคิดจะบีบบังคับอะไรเธอเลย เรื่องการตรวจร่างกายเดิมทีก็ทำเพื่อสุขภาพร่างกายของเธอ แต่ก่อนอื่นก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเธออยู่ดี ในเมื่อเธอไม่ยินดีให้ตรวจ งั้นเราก็จะไม่ตรวจจ๊ะ
ในที่สุดเฮเลน่าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก สีหน้าของเธอดีขึ้น แล้วกล่าวว่า ขอโทษด้วยนะคะ คุณผู้หญิงเย่ ฉันไม่ได้โกรธหรอกค่ะ แค่คิดว่า ฉันควรได้ความเคารพในเรื่องนี้ เมื่อกี้ฉันพูดจาไร้มารยาทเกินไป หวังว่าคุณจะเข้าใจนะคะ
เข้าใจจ๊ะเข้าใจ! เย่ฉางหมิ่นพยักหน้า แล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า ฉันเข้าใจความหมายของเธออยู่แล้ว
งั้นก็ดีแล้วค่ะ แล้วเฮเลน่าก็พูดขึ้นอีกว่า คุณผู้หญิงเย่คะ ฉันรู้สึกง่วงแล้ว อยากจะพักผ่อนสักหน่อย นอนพักสักงีบ ดังนั้นถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันขอกลับห้องนอนก่อนนะคะ
เย่ฉางหมิ่นพูดอย่างยิ้มๆ จ๊ะๆๆ เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ ไปแช่น้ำ แล้วนอนพักสักงีบ เดี๋ยวตอนค่ำฉันจะให้เสี่ยวเฟิงมารับเธอ ไปทานข้าวนะจ๊ะ
เฮเลน่าฝืนหัวเราะ ตอนค่ำค่อยว่ากันนะคะ
ก็ได้จ๊ะ ตอนค่ำค่อยว่ากัน เย่ฉางหมิ่นกล่าว ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันไม่รบกวนเธอแล้วล่ะ เธอกลับไปพักผ่อนเถอะ
ค่ะ แล้วเฮเลน่าก็กล่าวว่า คุณผู้หญิงเย่ค่อยกลับนะคะ ฉันไม่ส่งแล้ว
เย่ฉางหมิ่นโบกมือไปมา ไม่ต้องส่งหรอกจ๊ะไม่ต้องส่ง เธอรีบกลับไปเถอะ ฉันจะไปแล้ว
พูดจบ เธอก็เห็นเฮเลน่าเดินกลับเข้าห้องไป แล้วปิดประตูลง แล้วเธอจึงหันหน้ากลับมา
เธอพึ่งหันหน้ากลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไปทันที
เธอก้าวออกไปไม่กี่ก้าว ก็พบเข้ากับถังซื่อไห่กำลังพาผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดคนออกมาจากลิฟต์
เธอจึงรีบพูดกับถังซื่อไห่ว่า พ่อบ้านถัง ไม่ต้องไปแล้ว กลับเข้าไปในลิฟต์เถอะ
ถังซื่อไห่ถามอย่างแปลกใจ คุณหนูใหญ่ ทำไมหรอครับ?ไม่ตรวจร่างกายแล้วหรอ?
เย่ฉางหมิ่นพึ่งแสร้งหัวเราะกับเฮเลน่าอยู่ตั้งนานสองนาน รู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์ เธอจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า ทำบ้าอะไร!องค์หญิงทรงบอกแล้วว่า ให้เคารพสิทธิของเธอ สิทธิมนุษยชนของเธอก็คือการไม่ยอมรับการตรวจร่างกาย
พูดจบ เย่ฉางหมิ่นก็บ่น อย่างไม่พอใจว่า เป็นแค่องค์หญิงประเทศเล็กๆในยุโรป ยังมาทำตัววางท่าวางทางกับฉันอีก!ใจขนาดนี้ ฉันว่าเธอต้องมีความลับอะไรซ่อนไว้แล้วไม่กล้าให้เรารู้แน่!
ถังซื่อไห่พยักหน้า แล้วถามอย่างนอบน้อมว่า คุณหนูครับ งั้นตอนนี้ควรทำยังไงดีล่ะ?
เย่ฉางหมิ่นโบกมือไปมาอย่างหงุดหงิด ยังจะทำอะไรได้อีกล่ะ ก็กลับน่ะสิ!ฉันคิดว่าองค์หญิงยุโรปเหนือคนนี้จะต้องมีเรื่องโกหกอะไรแน่ ฉันต้องกลับไปพูดกับคุณท่านให้รู้เรื่อง!
พูดถึงตรงนี้ เย่ฉางหมิ่นก็พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า การอภิเษกสมรสกับราชวงศ์เป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกเขาส่งคนขี้โรคมาให้เรา เราก็ไม่สามารถรับมั่วๆได้!ถ้าเธอแต่งงานมาสองสามปีแล้วมาตายที่เรา ถึงเวลานั้นคนของยุโรปก็จะก่นด่าสาปแช่งเราน่ะสิ?