ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนล่มสลาย - ตอนที่ 30
ในขณะที่กำลังพูด เตียวหยูก็เริ่มสะอึกสะอื้น
เมื่อมองไปที่ดวงตาของเตียวหยูที่เปื้อนด้วยหยาดน้ำตา เย่เฉินก็รีบอธิบาย:
” เจ้าตัวน้อยไปยังที่โลกของข้าเพื่อปกป้องข้า”
เย่เฉินเป็นผู้เล่น สำหรับการดำรงอยู่ของผู้เล่นนั้น ชาวพื้นเมืองในโลกนี้เข้าใจโดยอัตโนมัติว่าคนอย่างเย่เฉินเป็นผู้ถูกเลือกโดยสวรรค์
เตียวหยู ตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้และเตียวเหิงที่อยู่อีกข้างหนึ่งก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ นายท่าน!” เตียวหยูหยุดร้องไห้และรีบไปที่ด้านข้างของเย่เฉินพลางอุทานด้วยความประหลาดใจ
“ติ้ง ความภักดีของเตียวหยูถึง 100 และเธอเป็นผู้ที่จงรักภักดีอย่างยิ่ง”
เสียงเตือนของระบบดังขึ้น เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะผงะ
ในขณะนั้นเอง เตียวเหิงรู้สึกโกรธมากและตะโกนไปยังค่ายทหาร: “เตียวเมิ่ง! ออกมาเดี๋ยวนี้!”
มีเสียงดัง “ปัง”.
เตียวเมิ่งถือมีดสั้น กระโดดออกมาจากค่ายทหารทันที เมื่อเขาลงกระแทกพื้นเขาก็รีบพุ่งไปหาเตียวเหิง
“ อาวุโส … ท่านลอร์ด?” เดิมทีเตียวเมิ่งต้องการเรียกพ่อ แต่เมื่อเขาเห็นเย่เฉินเขาก็ถึงกับผงะ
“ท่านลอร์ดตกอยู่ในอันตรายรีบไปที่โลกของท่านลอร์ด!” เตียวเหิงตะโกนออกไปอย่างกังวล
“ได้เลย! ข้าอยู่ที่นี้แล้ว … ” เตียวเมิ่งกำลังจะพูดต่อ ใบหน้าของเขาแข็งทื่อทันที
“ มัวทำอะไรอยู่!” เตียวเหิงตะโกนและเตะไปยังไข่ของเตียวเมิ่งทันที
“ ท่านพ่อข้า … ไม่รู้จะไปที่นั่นได้อย่างไร?” ใบหน้าของเตียวเมิ่งแดงระเรื่อและในที่สุดก็กล่าวออกมาด้วยความอับอาย
เมื่อเตียวเหิงได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง
ผู้คนในโลกของเกมรู้ว่าผู้เล่นอยู่ในอีกโลกหนึ่งซึ่งไม่ได้แปลกอะไร
นอกจากนี้ยังสามารถให้เหตุผลย้อนกลับได้ว่า ผู้เล่นสามารถมายังโลกนี้ได้พวกเขาก็สามารถไปยังโลกของผู้เล่นได้เช่นกัน
เมื่อคำถามแบบนั้นถูกตั้งขึ้นเตียวเหิงก็ไม่รู้จะตอบยังไง พวกเขาไม่รู้ว่าจะไปที่นั่นได้อย่างไร
แน่นอนว่ามีชาวพื้นเมืองจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดเช่นนี้ และเฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติระดับ S หรือสูงกว่าถึงจะมีความคิดเช่นนี้ได้
เมื่อมองไปที่คนทั้งสามที่กำลังแสดงสีหน้าเป็นกังวล เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่น
นี่คือเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้เย่เฉินชอบผู้คนในโลกนี้ เมื่อพวกเขาติดตามใครซักคนแล้วพวกเขาจะไม่มีทางทรยศ
ไม่เหมือนโลกแห่งความเป็นจริง เรื่องพวกนี้แทบไม่เกิดขึ้นเลย
ผู้คนมักจะอยู่รอบ ๆ เพื่อผลประโยชน์ บางทีเพียงเพราะผลประโยชน์ ในวินาทีต่อมา เพื่อน พี่ชายและแม้แต่ผู้หญิงของคุณจะยื่นมีดที่เหน็บอยู่ที่หลังของพวกเขากับให้คุณ
“ โลกของข้ามันอันตรายนิดหน่อยและไม่ใช่เวลาที่จะอยู่รอด ถึงแม้ว่าเวลานั้นจะมาถึง ข้าก็ไม่สามารถพาเจ้าไปที่นั่นได้ในตอนนี้ เพราะยังขาดอุปกรณ์ที่เป็นกุญแจสำคัญอยู่ เมื่อข้ามีโอกาสข้าจะพาพวกเจ้าไปที่นั่น” เย่เฉินถอนความคิดของเขากลับมาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“นายท่านของข้า อะไรคือสิ่งที่ขาดไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง! แม้ว่าจะต้องสูญเสียชีวิตเพื่อหน้าที่นี้ ข้าก็จะไม่ลังเล!” เตียวเมิ่งคุกเข่าข้างหนึ่งและตะโกนเสียงเข้ม
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้สิ่งนั้นมา หากเจ้าต้องการช่วยข้า เจ้าสามารถฝึกกองกำลังของเจ้าให้แข็งแกร่งแล้วพิชิตทั้งสี่ทิศ!” เย่เฉินระบายลมหายใจเป็นเวลานาน จากนั้นตบไหล่ของเตียวเมิ่งอย่างแรงและพูด
“ ขอรับท่านลอร์ด!” เตียวเมิ่งเงียบไปชั่วครู่แล้วกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“นายท่าน แต่ … ” เตียวเหิงพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล ก่อนที่เขาจะพูดจบเย่เฉินยกมือขึ้นเพื่อหยุดเขา
“พัฒนาหมู่บ้านหลุนฮุยให้ดีนี่คือการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับข้า” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว
“ขอรับท่านลอร์ด! ต่อให้ร่างของชายชราคนนี้ต้องแหลกสลาย ผู้ต่ำต้อยก็จะไม่ลังเลแม้เเต่น้อย!” เตียวเหิงกำหมัดแน่นและโค้งคำนับตอบ
“นายท่านข้า … ข้าจะทำอะไรได้บ้าง … ” เตียวหยูถามด้วยความกังวลในเวลานี้
เธอต้องการช่วยเย่เฉินเช่นกัน แต่เธอไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้เย่เฉินได้
“ ศึกษาพัฒนาทักษะทางการแพทย์ให้ดี จากนี้ไปทหารและชาวบ้านในหมู่บ้านหลุดฮุยนั้น จะต้องให้เจ้ารักษาพวกเขา” เย่เฉินมองไปที่เตียวหยูและพูดเบา ๆ
“ แต่ … แต่ … ” เตียวหยูรู้สึกกังวลเล็กน้อย ในความคิดของเธอ การศึกษาทักษะทางการแพทย์ไม่สามารถช่วยเย่เฉินได้เลย
เนื่องจากเย่เฉินเป็นอันตรายในโลกแห่งความเป็นจริงทักษะทางการแพทย์ของเธอไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
“ อย่าคิดมากทักษะทางการแพทย์ก็มีประโยชน์เช่นกัน ลองคิดดูสิถ้าเตียวเมิ่งป่วยและมีศัตรูอยู่ข้างนอกนั้นแล้วเตียวเมิ่งจะสามารถนำทหารไปต่อสู้ได้อย่างไร?” เย่เฉินเห็นเตียวหยูสงสัยเขาจึงรีบอธิบาย
“ท่านลอร์ด! ผู้น้อยสามารถนำทหารออกไปต่อสู้ได้แม้ว่าข้าจะป่วยก็ตาม!” เตียวเมิ่งคุกเข่าข้างหนึ่งและตะโกนเสียงดังลั่น
มารดาเจ้าเถอะ…
ใบหน้าของเย่เฉินแข็งทื่อ เขาเห็นสีหน้าของเตียวเมิ่งดูโกรธเกรี้ยว แต่ไม่นานเตียวเหิงก็เตะไข่ของเตียวเมิ่งทันทีและดึงเตียวเมิ่งออกไป
“นายท่าน … ” ทันทีที่เตียวหยูอ้าปากพูด เย่เฉินหยุดคำพูดของเตียวหยูด้วยการยกมือขึ้นแล้วกล่าวว่า:
“ เรียกข้าว่าพี่ใหญ่นับจากนี้ นายท่านนั้นทำให้ข้าดูมีอายุมากเกินไป”
เมื่อเตียวหยูได้ยินสิ่งนี้เธอก็นิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ในขณะที่จ้องไปที่เย่เฉินด้วยแววตาที่ดุดัน
เตียวหยูเห็นว่าใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอกลายเป็นสีแดงขึ้น เธอหันไปรอบ ๆ และวิ่งหนีไปโดยมีผ้าคลุมหน้าอยู่
“ติ้ง ระดับความชื่นชอบของ เตียวหยู +10″
“ติ้ง ระดับความชื่นชอบของ เตียวหยู +10″
“”ติ้ง ระดับความชื่นชอบของ เตียวหยู +10″
“ติ้ง ระดับความชื่นชอบของ เตียวหยูถึง 100 ขั้นสูงระดับสูงสุดไม่สามารถเพิ่มได้อีก”
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เย่เฉินก็ถึงกับผงะ
เดิมทีสิ่งที่เย่เฉินบอกออกไปนั้นเขาต้องการทำให้เตียวหยูไม่รู้สึกเป็นกังวลกับปัญหาในการช่วยเหลือเขา
แต่ผลลัพธ์ก็เกินความคาดหมายของเขาไปมาก
นี่ถือได้ว่าไม่ได้ตั้งใจ …
มันเป็นเรื่องของความใกล้ชิดและสนิทสนม ถ้าเย่เฉินพาเตียวหยูไปนอนด้วยตอนนี้เตียวหยูจะไม่ปฏิเสธเขาและจะเชื่อฟัง 100%