ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนล่มสลาย - ตอนที่ 89
“2,000 เหรียญทองม่วง!” เสียงตะโกนดังขึ้นมา ห้องโถงของโรงเตี๊ยมก็เงียบไปชั่วขณะ
หลังจากที่เขาตะโกนพูดจบเขาก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้ม เมื่อเห็นว่าไม่มีใครในห้องโถงพูดคุยอีกต่อไป
เหรียญทองม่วงจำนวน 2,000 เหรียญเท่ากับ 20 ล้านทองและเท่ากับ 20 ล้านเครดิต
ถ้าคุณจะเป็นคนที่รำ่รวยคุณก็ต้องพิจารณาว่ามันคุ้มไหมที่จะใช้เงิน 20 ล้าน
เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้เสนอราคา 20 ล้านเหรียญทอง เขาคิดว่าราคาของเขานั้นสูงจนทำให้ทุกคนตกใจไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยกยิ้มออกมา
และนี่ก็เป็นเคล็ดลับธรรมดาของเขาเมื่อเขาเข้าร่วมการประมูล
และมันเป็นการทดสอบในเวลานี้ เขาจะแสดงให้ทุกคนเห็นถึงอำนาจของเขาและความทะเยอทะยานและความกล้าหาญของเขาด้วยเพื่อไม่ให้ใครกล้าเสนอราคาต่อ
ทันใดนั้นนำ้เสียงที่ดูถูกก็ดังขึ้นมา
“3000 เหรียญทองม่วง“
“บัดซบ! แกเป็นใครรู้ไหมว่าข้าเป็นใคร” ชายหนุ่มที่เสนอราคาก่อนหน้านี้ตะโกนด้วยความโกรธทันที
“โอ้ นั่นไม่ใช่หวงเส้าหรอกหรอ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นเจ้าของที่นี้?” ชายคนที่เสนอราคา 3000 เหรียญทองม่วงกล่าวตอบด้วยความขบขัน
“ลูซาน เป็นเจ้า! เจ้าหรือคนอื่นๆ ต้องการต่อสู้กับข้า?” หวงเส้าตะโกนด้วยความโกรธ
“ทำไมจะไม่ล่ะ เจ้าโง่ แกคิดไหมว่าเมื่อก่อนแม้ว่าพ่อของแกจะมีคนเป็นหมื่น ยังไม่กล้าจะยกคนทำอะไร แล้วแกเก่งมากหรอ แกพาคนมาจัดการข้าซิ กล้าพอไหม ไปเรียพ่อของแกมา มาดูกันว่าพ่อของแกจะว่ายังไง” ลู่ซานถามด้วยความรังเกียจ
“เจ้า! เจ้า!” Huang Shao ถูกสำลักทันที
โลกเปลี่ยนไปอย่างมาก แผ่นดินกลายเป็นเหมือนป่าดึกดำบรรพ์ และมีสัตว์ดุร้ายอยู่ทุกหนทุกแห่ง และบางตัวยังอยู่เหนือความเข้าใจของผู้คน
พวกมันไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่เท่านั้น แต่พวกมันยังมีความดุร้ายอย่างยิ่ง และบางตัวก็ผิวหนังหนาเทียบได้กับเหล็กกล้า
มีคนตายทุกวันในทุกเขตปลอดภัยเพราะพวกเขาต้องออกไปสำรวจและล่านอกเขตปลอดภัย
แต่อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นกลับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ อย่างไร้ปรานีแม่แต่ซากศพก็ไม่มีเหลือ
หลังจากนั้นอดีตเหล่าทหารตำรวจก็เริ่มพยายามที่จะสำรวจโลกภายนอกเพราะการวิจัยตามคำสั่งของเหล่าผู้นำ เหตุผลของคนเหล่านั้นคล้ายๆกัน
พวกเขาต้องออกจากเขตปลอดภัยเพื่อทำงานต่างๆ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิม
ในไม่ช้าผู้คนก็ค้นพบความจริงที่น่ากลัวนี้ อาวุธเย็นของมนุษย์ เช่น ลูกศรหน้าไม้ หอกต่างๆหรือมีดอัลลอยที่คมมากๆ ยังไม่มีสามารถทำอะไรกับสัตว์ร้ายภายนอกนั้นได้เลย
ส่วนใหญ่สามารถสร้างบาดแผลบนผิวหนังของมันเท่านั้นเท่านั้นไม่สามารถเจาะทะลุเนื้อเข้าไปได้เลย
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือมีสัตว์ร้ายพิเศษบางประเภทที่ไม่สามารถแม้กระทั้งสร้างบาดแผลบนผิวหนังของมันได้
ด้วยเหตุนี้ผู้คนจึงเริ่มหวาดกลัวโลกภายนอกเขตปลอดภัยมากขึ้นเรื่อยๆ
และนี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หวงเส้าพูดอะไรไม่ออก
ถึงเขามีพลังมาก และไม่ว่าเขาจะมีลูกน้องกี่คน เขาสามารถใช้อำนาจในพื้นที่ปลอดภัยที่เขาอยู่เท่านั้น เขาไม่กล้าออกจากพื้นที่ปลอดภัยเลย
ผู้นำของกองกำลังต่าง ๆ ในห้องโถงต่างมองไปที่หวงเส้าด้วยสีหน้าแปลกๆ ในสายตาพวกเขาเหมือนกำลังมองคนโง่
หวงเส้ารู้สึกหงุดหงิดมากแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรต่อ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้การประมูลก็เริ่มดุเดือดขึ้นอีกครั้ง
“3100 เหรียญทองม่วง“
“3200 เหรียญทองม่วง“
“5,000 เหรียญทองม่วง”
“10,000 เหรียญทองม่วง!” คนหนึ่งตะโกนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“20,000 เหรียญทองม่วง! พวกท่านช่วยเห็นแก่หน้าข้าหน่อย หากพวกท่านมีบางอย่างที่ต้องการในอนาคต ตระกูลเฟิงจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่!” ชายวัยกลางคนที่เคยถามเกี่ยวกับการยาอายุวัฒนะกับเย่เฉินหลิงกล่าวออกมาอย่างใจเย็น
ก่อนหน้านี้เขาเงียบไปไม่เคยเสนอราคาเลย แต่ตอนนี้เขาคิดว่าราคาสูงพอแล้ว
นี้คือสัญชาตญาณของเขา อาวุธที่สามารถนำไปใช้ในความเป็นจริงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
เขายังสงสัยว่าด้วยอาวุธนี้มันอาจจะสามารถทำอันตรายต่อสัตว์ร้ายภายนอกได้อย่างง่ายดาย
และนี่คือเหตุผลที่เขาเสนอราคาที่สูงมากเมื่อโอกาศมาถึง
โลกภายนอกช่างน่ากลัวอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรที่สามารถทำอันตรายต่อสัตว์เดรัจฉานเหล่านั้นได้ ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้
หัวหน้ากองกำลังต่างๆในโรงเตี๊ยมมองหน้ากันแล้วหุบปากหยุดการเสนอราคา
ตามความเห็นของพวกเขา การประมูลอาวุธระดับลึกลับซึ่งมีราคาสูงถึง 20,000 เหรียญทองม่วง ได้สิ้นสุดลงแล้ว และไม่จำเป็นต้องต่อสู้อีกต่อไป
หากการต่อสู้ไม่จบลง มีแต่ต้องเสียเงินมากขึ้นและยังสร้างความไม่พอใจให้กับชายวัยกลางคนตระกูลเฟิงนั้นอีก มันได้ไม่คุ้มเสีย
ผู้เล่นที่เฝ้าดูอยู่บนท้องถนนด้านนอก หลังจากได้ยินราคา 20,000 เหรียญทองม่วง พวกเขาทั้งหมดก็ผงะ และจากนั้นพวกเขาก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที
“บัดซบ! 20000 เหรียญทองม่วง เท่ากับเครดิต 200 ล้าน อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่มีระดับลึกลับมันคุ้มหรอ?
“ใช่ คุณสมบัติของมันเกินจริงเกินไป และไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นซุปเปอร์แมนได้หากถือมันไว้”
“คนรวยก็คือคนรวยใช่ไหม ทำไมข้าไม่มีเงินบ้าง“
เมื่อได้ยินการสนทนาของผู้คนด้านนอก เย่เฉินเลิกคิ้ว จากนั้นมองไปยังผู้นำกองกำลังหลักในห้องโถงและพูดเบา ๆ :
“เมื่อเห็นว่าทุกคนยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ ‘จริง‘ อยู่บ้าง ข้าจะบอกความลับทีข้าไม่เคยบอกพวกเจ้ามาก่อน”
ทันทีที่คำพูดของเย่เฉินจบลง ผู้นำกองกำลังก็ผงะจากนั้นก็มองไปที่เย่เฉินอย่างประหลาดใจ มารดาเจ้าเถอะยังไม่มีใครสงสัยเลยเจ้าพูดเองทั้งนั้น
นี่คือสิ่งที่เหล่าผู้นำคิดแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าพูดออกมา
เนื่องจากทักษะระดับราชายังไม่ถูกนำออกมาประมูลและพวกเขาก็ต้องการทราบความลับอีกอย่างของอุปกรณ์ที่มีคำว่า ‘จริง‘
ทันใดนั้นเย่เฉินหยิบหอกสายฟ้าขึ้นมา (ลึกลับ,จริง) และสะบัดเบาๆเสียง “ปัง” ก็ดังขึ้นทันที
“ความคมที่ข้าเคยพูดก่อนหน้านี้พวกเจ้ารู้ไหมว่าความคมนี้หมายถึงอะไร“
คำถามของเย่เฉินทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นของผู้นำกองกำลังต่างๆแม้แต่ผู้ชมบนถนนก็เงียบลง
เย่เฉินเหลือบมองไปยังผู้เล่นแล้วพูดต่อ:
“ถ้ามีความคม เจ้าสามารถทำลายการป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้ายแบบไหน หากความคมเกิน 50 เจ้าสามารถทำลายการป้องกันของสัตว์ร้ายเหล่านั้นได้อย่างแน่นอน ข้าหมายถึงในโลกของพวกเจ้า“
ทันทีที่เย่เฉินพูดจบผู้เล่นทุกคนก็อ้าปากค้าง เพราะข้อมูลที่มีอยู่ในคำพูดของเย่เฉินนั้นมีค่าอย่างมาก
ผู้คนทั้งในโรงเตี๊ยมและด้านนอกเงียบลงทั้งหมด ไม่มีซักคนเลยที่พูดอะไรออกมา
ใช้เวลานานก่อนที่จะมีผู้นำคนหนึ่งถามด้วยด้วยน้ำเสียงเคารพ:
“ ข้าขอกล่าวถามท่านว่าสัตว์อสูรที่ท่านกล่าวถึงนั้นหมายถึงเผ่าพันธุ์ปีศาจใช่หรือไม่?”
เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอย่างแผ่วเบา: “ถูกต้อง”
ไม่มีอะไรต้องปิดบัง อย่างมากที่สุด คนทั้งโลกจะยืนยันการมีอยู่ของเผ่าพันธุ์ปีศาจในอีกครึ่งเดือน
และตอนนี้ยังมีบางคนที่ยืนยันการมีอยู่ของปีศาจได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เพราะความเห็นแก่ตัว เพราะผลประโยชน์ พวกเขาจึงไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะ
“ฟู่……”
เสียงลมหายใจดังขึ้นในทันที
ข้อมูลนี้น่าตกใจยิ่ง
จะไม่น่าตกใจได้ยังไง มารดาเถอะเผ่าพันธุ์ปีศาจที่มีแต่ในตำนานกลับปรากฏตัวขึ้น อีกอย่างมันเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง