ผู้ใหญ่จิกับนางพิมพ์ - ตอนที่ 84
ตอนที่ 84 คําขอของแม่สามี
เธอยังได้รับโทรศัพท์จากจิรฐาในช่วงบ่ายวันนี้ เขาบอก ว่าวันนี้เขายุ่งเกินไปบ้าง ไม่อาจมารับเธอไปด้วยกัน ให้ เธอรีบไปเช้าหน่อย พระเจ้า พิมพ์ลดาสำนึกผิดที่ตนเอง ตลอดช่วงบ่ายมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องวางแผนออกแบบกรณีนั้น ทั้งหมด จนลืมเรื่องอื่นไปเลย
เมื่อได้ยินเสียงของพิมพ์ลดาสูดลมหายใจที่ข้าง ๆ ตนัส หันมามองเธออย่างรวดเร็ว บังเอิญเห็นพิมพ์ลดาเปิดปาก หวอ ลักษณะหน้าไม่รู้จะทำอย่างไร ริมฝีปากเขาแย้มยิ้ม ถอนสายตากลับมามุ่งสนใจกับสภาพถนนต่อ
รอจนพิมพ์ลดาตอบสนองกลับมา หุบปากลง เธอจึง พูดกับจิรฐาในโทรศัพท์ทางโน้นว่า “คือว่านั่น ฉันต้องไป โรงเรียนอนุบาลรับหนูนาก่อน สะปันพวกเขาออกไปเที่ยว ให้ฉันช่วยดูแลหนูนา คุณไปที่นั่นก่อน ดีไหม? ช่วยอธิบาย ให้พ่อแม่ฉันประเดี๋ยวอีกสักพักฉันจะรีบไปที่นั่น
ได้ยินคำพูดของพิมพ์ลดา จิรฐาไม่ได้ตอบเธอ แค่ถาม ว่า “ไปโรงเรียนอนุบาลไหน?”
“เด็กดี” พิมพ์ลดาไม่ได้คิดมาก บอกเขาไปตรง ๆ แต่สิ่งที่ เธอไม่ได้คิดคือ ต่อมาจิรฐาได้ตอบเธอว่า “โอเค คุณไปรับ เด็กก่อน ผมไปโรงเรียนอนุบาลรับคุณทั้งสอง
การสื่อสารระหว่างพวกเขาจบลงแล้ว! หลังจากที่จิรฐา
ได้ลงความตัดสินใจแบบนี้
มองดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ได้ยึดลง พิมพ์ลดาเบ้ ปาก ในใจคิดว่าชายหนุ่มคนนี้ บางครั้งอัตวิสัยเชิงบรษนิยม ไม่ใช่แค่จุดสองจุด จริง ๆ ความปรารถนาที่จะควบคุมอัน แข็งแกร่งเช่นนี้! ไม่ให้โอกาสผู้อื่นปฏิเสธสักนิด
รถกำลังจะถึงโรงเรียนอนุบาลเด็กดี เห็นพิมพ์ลดา ได้วางสายโทรศัพท์แล้ว ตรัสถามว่า “ท่านนักวางแผน ออกแบบผู้ยิ่งใหญ่พิมพ์ลดาไม่ใช่ไปรับลูกของคุณเอง หรือ?” ถึงแม้ว่าเมื่อครูดนัสไม่ได้ยินสิ่งที่ผู้คนพูดทาง โทรศัพท์ แต่จากคำพูดของพิมพ์ลดาเขาก็รู้ว่าเด็กนั้นไม่ใช่ ลูกของเธอ เมื่อพิมพ์ลดาขึ้นรถ ได้ให้เขาส่งเธอไปโรงเรียน อนุบาล เขาก็ตื่นตกใจทันที นึกว่าผู้หญิงคนนี้ได้แต่งงาน และมีลูกแล้ว
หยิบโทรศัพท์มือถือใส่ไว้ในกระเป๋าเรียบร้อย พิมพ์ลดา พยักหน้า ตอบว่า “อุ้ม ลูกของเพื่อน” เรื่องแบบนี้พิมพ์ลดา ไม่ได้รู้สึกว่าต้องปิดบัง นอกจากนี้คำตอบที่ซื่อสัตย์ของเธอ ก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น
รถจอดที่หน้าประตูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลเด็กดี พิมพ์ ลดารีบเปิดประตูรถและออกไป ก่อนที่จะลงจากรถเธอกล่าว คำหนึ่ง “ขอบคุณ!”
ก่อนที่เธอจะปิดประตูรถเธอได้ยินเสียงคนในรถตะโกน เรียกเธอ “เฮ้ย ท่านนักวางแผนออกแบบผู้ยิ่งใหญ่พิมพ์ ลดา”
ค่อมก้มเอวลงเล็กน้อย พิมพ์ลดามองไปที่ตนัส เห็นเพียงเขายิ้ม ส่งจูบบินมาให้เธอเองครั้งหนึ่ง “เราผู้ตรวจการใหญ่ ใจดีมาตลอดช่วยส่งพระ ก็ส่งให้ถึงเมืองทางตะวันตกล่ะ ช่วยคนก็ช่วยให้ถึงที่สุด คุณรีบเข้าไปรับเด็กออกมา ผมไม่ รังเกียจที่จะรอคุณที่นี่อีกสักพัก
ได้ยินคําพูดของตนัส เดิมพิมพ์ลดาคิดจะหันแล้วเดิน ออกไป แต่คิดว่าวันนี้ดีหรือร้ายอย่างไร โชคดีที่มีเขาเอง จึงมาได้เร็วขนาดนี้ ดังนั้นจึงอดกลั้นอารมณ์ไว้ ตอบเขาว่า “ขอบคุณท่านผู้ตรวจการใหญ่ แต่ไม่ต้องแล้ว รอสักพักฉัน เรียกแท็กซี่ไปเองได้ค่ะ คุณไปก่อนเถอะค่ะ” พูดจบ พิมพ์ ลดาหมุนตัวจะจากไป แต่ผู้ชายในรถกดแตรสองครั้ง เสียง แตรของรถปิ๊น ๆ ทำให้พิมพ์ลดาหมดหนทางได้แต่หยุด ฝีเท้าลง
ตนัสนี้คิดจะเอาอย่างไรในที่สุด? จริงหรือที่แหย่ไม่ได้ หลบซ่อนก็ไม่ไหวหรือ?
“ท่านนักวางแผนออกแบบผู้ยิ่งใหญ่พิมพ์ลดา งั้นคุณ อย่าลืมว่าคุณเป็นหนี้น้ำใจผมอีกหนึ่งครั้ง รวมเรื่องความรัก ในที่ทำงาน สองเรื่องแล้ว ต้องคืนเป็นสองเท่า”
ตนัสบนใบหน้าปีศาจที่สวยงามหล่อเหลานั้นประดับไว้ ด้วยรอยยิ้มที่สดใส เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น บางทีอาจจะดู จนน้ำลายไหลแล้ว แต่ตอนนี้ในสายตาของพิมพ์ลดา กลับ น่ารำคาญมาก!
หลับตาลง พิมพ์ลดาก้มลงมองเขาอีกครั้งและถาม ว่า “ถ้างั้น ผู้ตรวจการใหญ่ ต้องการให้ฉันจ่ายคุณเป็นสองเท่าของค่าแท็กซี่ นับเป็นการตอบแทนสินน้ำใจของครั้งนี้ แล้วเราก็ไม่ยุ่งกัน” พูดพลาง พิมพ์ลดาก็ล้วงมือรื้อกระเป๋า เตรียมหยิบเงิน
เห็นพิมพ์ลดาดูเหมือนเอาจริง ตนัสเก็บรอยยิ้ม ทิ้ง ประโยคหนึ่งไว้ “ไร้สาระ แหย่ก็ไม่ได้แบบนี้ ไม่สนุก คุณเก็บ เงินไว้เรียกรถแท็กซี่เอง” แล้วเขาก็เหยียบคันเร่ง ออกเดิน ทางไปกับรถสปอร์ตของเขา
เห็นรถของตนัสไร้เงาแล้ว พิมพ์ลดานี้จึงได้โล่งใจ รีบ หมุนตัววิ่งเข้าไปในประตูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลที่ด้าน หลัง
เธอมารับเด็กสายไปหนึ่งชั่วโมงครึ่งเต็ม ๆ เด็กอื่นๆใน โรงเรียนอนุบาลได้กลับไปบ้านตั้งนานแล้ว เมื่อพิมพ์ลดารีบ วิ่งไปหาครูที่หนูนา อยู่ด้วยนั้น เห็นครูในชั้นเรียนของพวก เขายืนอยู่ที่ประตูมองแต่ไกล
พิมพ์ลดารีบวิ่งไปที่นั่น ทักทายครู “ขอโทษที่ฉันมาสาย ฉันมาที่นี่เพื่อรับบุปผาสหายน้อย”
“โอ้ นับว่าคุณมาแล้ว! ” ได้เห็นพิมพ์ลดา ครูก็โล่งใจทันที “ฉันโทรหาพ่อแม่ของบุปผา ต่างไม่มีใครรับ ฉันถามบุปผา ว่าเธอจะกลับบ้านกับครูก่อนไหม เธอบอกฉันว่าแม่ตัวน้อย ของเธอจะมารับเธอแน่นอน ฉันคิดจะโทรหาคุณ แต่เธอก็จำ หมายเลขไม่ได้”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของครู พิมพ์ลดาขอบคุณครูแล้วจากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องเรียน
ในที่นั่งริมหน้าต่าง นังหนูตัวเล็กๆในเสื้อคลุมผ้าฝ้าย สีชมพูน้อย ๆ งบดอยู่ที่นั่น ในมือถือดินสอวาดภาพ ยังวาด ๆภายใต้แสงตะเกียง ไม่ได้สังเกตเห็นว่าพิมพ์ลดาได้มาถึง แล้วสักนิด
เดินไปข้างกายหนูนา พิมพ์ลดาย่อตัวลง หัวเราะและพูด เบาๆว่า “หนูนา แม่ตัวน้อยมาแล้ว”
“เอ้อ?” ได้ยินเสียงพิมพ์ลดา หนูนาค่อยหยุดการ เคลื่อนไหวในมือลง หันศีรษะมา เมื่อเธอเห็นพิมพ์ลดาก็ กระโจนเข้ามาหาทันที “แม่ตัวน้อย! หนูนารู้ว่าคุณจะต้องมา รับหนูนาแน่ ๆ”
พิมพ์ลดาเกือบจะน้ำตาไหลลงมาเมื่อเธออุ้มหนูนาไว้ใน อ้อมแขน เจ้าตัวน้อยนี่ รอคอยเธออยู่ที่นี่คนเดียวแบบนี้ ไม่ ได้ร้องไห้ไม่มีก่อเหตุ
ช่วยจัดกระเป๋านักเรียนให้หนูนาเสร็จเรียบร้อย พิมพ์ ลดาบอกลาครูแล้วจูงพาเธอออกจากโรงเรียนอนุบาล ทันที ที่พวกเขามาถึงนอกประตู พอดีจิรฐาก็มาถึงแล้ว
ได้เห็นพิมพ์ลดา เขาจอดรถ ผลักประตูเปิดลงจากรถ เดินเข้ามาหาพวกเธอ
เมื่อจิรฐาได้เห็นนังหนูน้อยที่ตามมาข้างกายพิมพ์ลดา เขาไม่ได้ทักทายกับพิมพ์ลดาก่อน แต่กลับเดินไปหน้าเธอและย่อตัวลง หนูน้อยเจ้าชื่ออะไรเหรอ?”
หนูนาไม่กลัวคนแปลกหน้า ยิ่งไม่กล้าลงรูปหล่อขายาว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคุณลุงคนนี้ เธอไม่กล้าพูดกับ เขาโดยตรง แต่งยหน้าขึ้นมองพิมพ์ลดา มือน้อยๆของเธอ เขาไปมาตามด้วยเสียงยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมว่า “แมวน้อย คุณองคนนี้คือใคร
เห็นพวกเขาทั้งสองต่างมีความสูงระดับนั้น เธอเองถิ่น อยู่แบบนี้กลับรู้สึกไม่สบอารมณ์ พิมพ์ลดาก็นั่งลงอย่างง่าย ๆ ด้วย พูดกับหนูนาว่า “หนูนา คุณลุงคนนี้คือ… รแนะนำแบบไหนจึงจะดีกว่านะ? ” เป็นใครเห
พิมพ์ลดาไม่รู้ว่าจรราชอบเด็กหรือไม่ เธอไม่กล้าพูดกับ หนูนาโดยตรงว่านี่เป็นพ่อบุญธรรมของหนู เพียงส่งสายตา มองไปที่ฐา
ยิ้มให้กับพิมพ์ลดา จิรฐากลับรับคำพูดของเธอ “หนูนา ผมเป็นสามีของแม่ตัวน้อยของเจ้า นั่นคือเป็นพ่อตัวน้อย ของเจ้าแหละ”
“พ่อตัวน้อย?” หนูนาคำพูดของจิรฐาอีกครั้งแล้วมองไป ที่พิมพ์ลดาเพื่อขอคำยืนยัน เห็นพิมพ์ลภาพยักหน้า เธอจึง ร้องออกมาอย่างมีความสุขว่า “พอตัวน้อย”
จิรฐายิ้มและยื่นมือออกไปหาเธอ “ถ้างั้น พ่อตัวน้อยม เจ้าขึ้นรถ ดีไหม?”
“ดี!” มองดูจิรฐา หนูนาปล่อยมือพิมพ์ลดาออก รีบโผเข้า ในอ้อมกอดของหนุ่มหล่อทันที
โลกยุคปัจจุบันนี้ จริงอย่างคาดคิดความสวยที่สุดจัดเป็น อันดับแรก สิ่งอื่นทิ้งขวางไปได้หมด มองดูท่านผู้ใหญ่หล อกเอานังหนูน้อยไปจากมือเธอเองแบบนี้ อุ้มขึ้นรถไปแล้ว พิมพ์ลดาได้รับบาดเจ็บมากขมวดคิ้วย่นแล้วย่นอีก
เพื่อดูแลหนูนา พิมพ์ลดาตามเข้าไปนั่งอยู่ด้านหลังของ รถด้วย มองผ่านกระจกหลังตรงหน้ารถ จิรฐาเห็นผู้หญิงทั้ง สองข้างหลังเขากำลังเล่นเกมเป่ายิ้งฉุบ เขายิ้ม ถามพิมพ์ ลดาว่า “ทำไมคุณถึงได้มารับหนูนาค่ำแบบนี้?”
แม้ว่าจิรฐาไม่มีลูกของตัวเอง แต่เขาเคยช่วยพี่อิงนรารับ ไพร์มมาก่อน รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่โรงเรียนอนุบาลจะเลิกเรียน จนมีดคาปานนี้เป็นธรรมดา
เมื่อได้ยินคำพูดของจิรฐา พิมพ์ลดาและหนูนาหยุด ตบแผละครู่หนึ่ง ตอบว่า “ฉัน ฉันเขียนแผนงานออกแบบ เขียนจนลืมเวลาไปแล้ว! ” พิมพ์ลดาไม่เต็มใจที่จะยอมรับว่า เธอเองได้ลืมเรื่องรับหนูนาไป และลืมเรื่องที่ว่าพ่อแม่สอง ครอบครัวพบกัน ดังนั้นจึงลงไม้ลงมือตลุยเขียนแผนงาน ออกแบบเต็มที่ แม้กระทั่งสละเวลาเลิกงานของเธอเอง
พิมพ์ลดาเพิ่งพูดจบลง จิรฐายังไม่ทันมีเวลาที่จะตอบ เธอกลับไป ก็ได้ยินเสียงนังหนูน้อยในเบาะหลัง ตะโกนร้อง “แม่ตัวน้อย แพ้แล้วแพ้แล้ว!”
รถจอดลงที่หน้าประตูของโรงแรมเจเอส จิรฐาเอากุญแจ ให้พนักงานดูแลประตูของโรงแรมแล้วอุ้มหนูนา พาพิมพ์ ลดาไปห้องเดี่ยว
พ่อแม่ทั้งสองครอบครัวต่างเป็นชาวจีนแบบอนุรักษ์นิยม มื้อเย็นของการพบหน้าของทั้งสองครอบครัวลูกสะใภ้หรือ ลูกเขยในรอบนี้ต้องเลือกอาหารจีนเป็นธรรมดา เดิมพวก เขานัดกันหกโมง แต่เมื่อพิมพ์ลดาพวกเขามาถึงก็เกือบจะ หกโมงครึ่งแล้ว ต้องพูดว่า พวกเขามาสายขนาดนี้ ครึ่งหนึ่ง เป็นผลจากการจราจรที่ติดขัดทุกวันในเมือง S !
ระหว่างทาง จิรฐาโทรศัพท์หาหญิงเฒ่าทั้งสองก่อน กล่าวว่าเขาและพิมพ์ลดาจะสายสักพัก ดังนั้นขณะนั้นพวก เขาก็รู้ว่าผู้อาวุโสทั้งสองครอบครัวได้มาถึงแล้ว เพียงแต่ เดิมพิมพ์ลดาคิดว่าเมื่อพวกเขาผลักประตูเปิดเข้าไปในห้อง เดี่ยว ก็อาจจะเห็นภาพที่ไม่คุ้นเคยและมีบรรยากาศค่อนข้าง อึดอัด แต่เมื่อเธอผลักประตูเปิดเข้าไป กลับเห็นข้างในเป็น ฉากแห่งความสุขและเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนเสียดายที่เรา น่าจะเจอกันเร็วกว่านี้
หอหือ…เมื่อพิมพ์ลดาเห็นแม่แก่ของเธอเองและแม่สามี ได้นั่งด้วยกัน จับมือกันและดูลายมือ เธอต้องชื่นชมในความ สามารถการสร้างสัมพันธ์ทางสังคมที่น่าตื่นตาตื่นใจของ หญิงเฒ่าทั้งสองนี้
นิรวิทย์เป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงมีเกียรติมากยิ่งใหญ่ ที่สุด ต้องนั่งอยู่ตำแหน่งประธานของโต๊ะเป็นธรรมดา และพ่อทั้งสองคนก็กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา พูดคุยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ประเทศจีนตลอดที่ผ่านมาห้าพันปี ช่วงวินาที นั้นพิมพ์ลดาจึงรู้สึกว่าวิชาความรู้ของพ่อเธอและปูเขากับ พ่อสามียังเข้าคู่กันดีจริง ๆ
เมื่อผู้อาวุโสทั้งห้าในห้องเห็นพิมพ์ลดาและจิรฐาปรากฏ อยู่ที่หน้าประตู พวกเขาไม่ได้แปลกใจเพียงแต่ยิ้ม แต่ว่าเมื่อ พวกเขาเห็นนังหนูน้อยในอ้อมแขนของจิรฐา ผู้อาวุโสทั้ง สามของครอบครัวจิรฐา ลืมตาโตนิ่งงัน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร ขึ้น จนกระทั่งคุณอรัญญาถามพิมพ์ลดาว่า “นังหนู ทำไมเจ้า พาหนูนามาแล้ว?
พอเจ้าเด็กน้อยในอ้อมแขนของจิรฐาได้ยินเสียงที่คุ้น เคย ก็รีบยกศีรษะของตนที่เดิมฟุบอยู่บนไหล่ของเขาขึ้น มาทันที หันศีรษะไปก็เรียกเสียงอ่อนหวานคำหนึ่งว่า “คุณ ยาย!”
เสียงเรียกคุณยายเสียงนี้ เรียกจนใจคนเปราะบางไป หมดแล้ว คุณอรัญญารีบลุกขึ้นรับหนูนาจากในมือของจิรฐา
ในที่สุดผู้อาวุโสของทั้งสองครอบครัวและตัวละครหลัก ทั้งสองของการแต่งงานแบบสายฟ้าแลบก็มาถึงพร้อมหมด แล้ว
อย่างเป็นทางการ …เริ่มอาหารเย็น
วันนี้พิมพ์ลดายุ่งกับการวางแผนออกแบบนั้น มื้อกลาง วันไม่ได้กินอะไรเลย แต่คืนนี้มีหนูนาอยู่ด้วย ในขณะที่เธอ ดูแลตัวเองกินข้าวเธอยังต้องดูแลเจ้าเด็กน้อยนี้กินข้าวด้วย“หนูนา อยากกินกันไหม?” พิมพ์ลดาราม เห็นเจ้าเด็กน้อย พยักหน้า เธอเริ่มปอกเปลือกกุ้ง แต่ในเวลาที่เธอวางกุ้งที่ ปอกเปลือกแล้วลงในชามของหนูนา เธอได้สติกลับมา เห็นกุ้งที่ไว้เปลือกมากในตัวหนึ่งในชามของเธอเอง
หันศีรษะไป พิมพ์ลตามลงจรราคิดจะถามว่าทำไมเขา วางตุ้งใส่ไว้ในนามของเธอ ก็ได้ยินเขาขยับเข้ามาพูดเบาๆ ว่า “ภรรยา ผมจะกินกุ้งด้วย!”
ในช่วงเวลานี้ พิมพ์ลดาพูดไม่ออกแทบสะอึกไปแล้ว
ในที่สุด เมื่อพิมพ์ลดาปอกเปลือกกุ้งของจิรฐาตัวหนึ่ง วางไว้ในชามของเขา พร้อมที่จะเริ่มกินข้าวของเธอเอง จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จริงอย่างคาดคิด พอเงย หน้าขึ้นก็เห็นผู้อาวุโสทั้งห้าในห้องเดี่ยวตอนนี้ต่างจ้องเธอ เองและจิรฐาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ทุกคนมีความสุขเต็มที่ เพลิดเพลินไปกับการกินอาหาร มื้อนี้ ผู้อาวุโสรุ่นพ่อแม่สองสามคน ก่อนที่จิรฐาและพิมพ์ สดาจะมาถึง ก็ได้อุ่นเครื่องไว้แล้ว ขณะนี้อาหารมื้อหนึ่งกิน ลงไป ยิ่งทำให้สถานที่อบอุ่นทั่วไปหมดแล้ว
ตอนนี้พวกเขาวางตะเกียบลงด้วยกัน หยุดพูดคุยกันจ้อง มองเด็กทั้งสองคนนี้ มีจุดมุ่งหมายเดียว นั่นคือ…
มองดูพิมพ์ลดา คุณแม่จอมซ่าที่ทั้งทันสมัยทั้งสวยงาม ของจิรฐาปั้มพลางเปิดปากพูดก่อนว่า “พิมพ์ลดา เมื่อครู่แม่ ได้เห็นเจ้าป้อนอาหารให้หนูนาอย่างระมัดระวัง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความรักของแม่!
แล้วคุณอรัญญาครอบครัวของพวกเขาพิมพ์ลดารีบ เสริมอีกประโยคว่า “นังหนู แม้ว่าหนูนานี้เรียกเจ้าว่าแม่ตัว น้อย แต่ยังไงก็เป็นลูกของสะปันและทินพล เจ้าก็ต้องรีบ หน่อย รีบมีลูกของตนเองกับจิรฐาจึงใช้ได้” กล่าวพลางเธอ ยังจับมือของแม่ลูกเขย กล่าวต่อไปอีกว่า “เจ้าดู ตอนนี้ฉัน และแม่สามีของเจ้าว่างอย่างนั้น พวกเจ้ารีบมีลูก จะดีมาก เลย! เราสามารถช่วยดูแลให้พวกเจ้าได้ แล้วยังสามารถ บรรเทาความเบื่อหน่ายของพวกเราเอง!
ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า! พิมพ์ลดาไว้วาจาสะอึกไปอีกครั้ง แต่ในใจ โห่ร้องตะโกนก้องว่า “ท่านแม่ผู้ใหญ่ทั้งสอง พวกท่านคิด ว่าการคลอดลูกเหมือนการซื้อผักกาดขาวในตลาดอย่างนั้น หรือ? ฉันคิดจะซื้อก็สามารถไปซื้อตอนนี้ ฉันคิดจะคลอด ตอนนี้ก็สามารถไปคลอดตอนนี้หรือ?
แม้ว่าพ่อท่านทั้งสองนั้นไม่ได้พูดออกมาอย่างตรงไป ตรงมาเหมือนแม่ทั้งสองนั้นที่พูดออกมาตรงไปตรงมาแบบ นั้น แต่ฟังความหมายของพวกเขา ถึงอย่างไรพวกเขาก็ได้ เป็นแนวร่วมในการรบ สาบานว่าจะให้จิรฐาและพิมพ์ลดา สัญญาว่าจะสร้างคนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ต่อหน้า ผู้ใหญ่หลายคนขนาดนี้!
“ลูกชาย ให้เวลาพวกเจ้าหนึ่งเดือนเป็นอย่างไร? แล้ว แม่จะได้ทันเป็นคุณยายก่อนสิ้นปีหน้าน่ะ!” คุณพฤกษายัง ไม่ลืมที่จะเติมประโยคดังกล่าวพิมพ์ลดาหันหน้าที่เต็มไปด้วยไร้หนทางช่วยเหลือมองหา จิรฐา เพียงเห็นเขามองดูผู้ใหญ่ทั้งห้าหัวเราะเบาๆแล้วตอบ คำหนึ่งว่า “ตกลง”
สะอึก! พิมพ์ลดารู้สึกเธอเองเวียนศีรษะอย่างรุนแรง
เอามือวางลง พิมพ์ลดาดึงชายเสื้อของจิรฐา เขาเอนตัว เข้ามา ริมฝีปากแทบจะแนบติดใบหูของเธอ “คนดี! ลูก คุณ ไม่อยากคลอดก็ไม่เป็นไร ไม่รีบเร่ง!
ขณะนั้นพิมพ์ลดาได้ยินประโยคนี้จากจิรฐา พลันในกัน บึ้งของหัวใจรู้สึกสบายมากขึ้น และยังใจเย็นมากขึ้น! เพียง แต่พิมพ์ลดาไม่รู้คือ คำพูดนี้ของท่านผู้ใหญ่ แค่พูดมาถึง เดียว!