พลมังกรเวทย์ประการ - บทที่ 26 ยังคุกเข่าไม่มากพอ
เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบนินทาและเยาะเย้ยของคนรอบข้าง เจียงอวี่โหรวจึงก้มหน้าต่ำกว่าเดิม แล้วฝีเท้าก็ไม่หนักแน่นเท่าเดิม!
เธอรู้สึกกังวล ว้าวุ่น ไม่รู้ว่าควรเผชิญหน้ากับคำพูดร้ายกาจของคนพวกนี้ยังไง
และทั้งหมดนี้ เหตุเกิดจากชายหนุ่มข้างกายของตนเอง
ดังนั้น ภายในใจของเจียงอวี่โหรวตอนนี้รู้สึกแย่มาก ในสมองเองก็คิดไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็เว้นระยะห่างออกมาจากเซียวจ้านโดยไม่รู้ตัว
เธอกลัว กลัวว่าในงานวันเกิดที่สำคัญของคืนนี้ ตัวเองจะต้องพบเจอกับคำวิจารณ์ด่าทอมากมายดั่งคลื่นสึนามิเหมือนเมื่อก่อนเพราะเซียวจ้านอีก!กลัวว่าจะเป็นเพราะเซียวจ้าน แล้วไม่ได้รับการต้อนรับจากพ่อแม่ ไม่ได้รับการต้อนรับจากคุณปู่ และไม่ได้รับการต้อนรับจากคนตระกูลเจียง!กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นนักโทษของตระกูลเจียงไปตลอดกาล!
ดังนั้น ภายในใจของเจียงอวี่โหรวสับสนมาก
แต่ว่า ในเวลานี้ มือใหญ่อบอุ่นก็เข้ามาจับมือเล็กเย็นเฉียบของเจียงอวี่โหรวอย่างแน่นหนา
เจียงอวี่โหรวเงยหน้าขึ้น ตำแหน่งที่มองไปก็คือแววตาที่ส่องสว่างเด็ดเดี่ยวและเต็มไปด้วยความรักใคร่ของเซียวจ้าน
“ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่” เซียวจ้านพูดเสียงเบา
ประโยคง่ายๆเพียงหนึ่งคำ แต่สามารถทำให้เจียงอวี่โหรวรู้สึกอุ่นใจได้ในทันที รู้สึกว่าตัวเองถูกความรักโอบล้อม! เธอที่รู้สึกตื้นตันใจก็มีน้ำตาคลอในดวงตาทันที แล้วมือเล็กก็จับมือใหญ่ของเซียวจ้านไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว
แต่ในเวลานี้ น้ำเสียงไม่เป็นมิตรก็ดังขึ้น ทำให้บรรยากาศในห้องโถงเงียบสงัดในทันที ทำเอารู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก!
“เจียงอวี่โหรว? เธอมาได้ยังไง? แล้วยังพาเศษเดนตระกูลเซียวคนนี้มาด้วย! เธอคิดว่าตัวเองยังทำลายตระกูลเจียงไม่มากพอใช่มั้ย ถึงได้จงใจมาหาเรื่องคุณปู่?!”
เมื่อเจียงเหม่ยเหยียนเห็นเจียงอวี่โหรวเข้างานมา ก็มีสีหน้าโมโห แต่ภายในใจของเธอรู้สึกสะใจอย่างมาก!
เพราะว่า ในที่สุดเธอก็รอมาจนถึงวันนี้!
เธอรู้ว่านังสารเลวเจียงอวี่โหรวคนนี้ จะต้องมาอย่างแน่นอน! เธอรอเวลานี้เพื่อจะเหยียดหยามเธอ แล้วเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเธอให้ละเอียด!
ได้ยินเช่นนั้น เซียวจ้านและเจียงอวี่โหรวต่างก็นิ่งงัน เจียงอวี่โหรวรีบหยิบเอาบัตรเชิญที่ถูกฉีกขาดออกมา แล้วพูดว่า “พี่คะ พี่เป็นคนส่งบัตรเชิญมาให้เราไม่ใช่งั้นหรอคะ?”
ตึกๆๆ!
เจียงเหม่ยเหยียนเดินบนรองเท้าส้นสูงสีแดงไปตรงหน้าของเจียงอวี่โหรว แล้วยกมือขึ้นด้วยท่าทางเย็นชน จากนั้นเหวี่ยงฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าของเจียงอวี่โหรว ด่าทอว่า “โกหก! ฉันจะให้บัตรเชิญกับนักโทษของตระกูลอย่างเธอได้ยังไง! บัตรเชิญใบนี้ของเธอ จะต้องถูกปลอมแปลงขึ้นมาแน่ๆ!”
พูดจบ เจียงเหม่ยเหยียนก็แย่งเอาบัตรเชิญในมือของเจียงอวี่โหรวไปทิ้งในถังขยะ!
สถานการณ์นี้ ทำเอาแขกรับเชิญและคนตระกูลเจียงทุกคนต่างก็อึ้งกันไปหมด!
แล้วตามด้วยเสียงเยาะเย้ยและด่าทอต่างๆ
“เหี้ย! ช่างกล้าปลอมแปลงบัตรเชิญ หน้าไม่อายจริงๆ!”
“นั่นสิ! ตระกูลเจียงของเราไม่มีคนชั้นต่ำแบบนี้! แล้วยังพาเด็กเวรนั่นกับเศษเดนของตระกูลเซียวมาด้วย!”
“เจียงอวี่โหรวคนนี้ คิดว่าตัวเองยังทำลายตระกูลเจียงไม่มากพอจริงๆ! แล้วก็เซียวจ้านคนนั้น ทำไมมันถึงกลับมาแล้วละ? ตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง?”
ใบหน้าของเจียงอวี่โหรวแสบร้อนเจ็บปวด รอยแดงชัดเจนแจ่มแจ้ง!
ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา หัวใจที่บอบบาง ถูกฝ่ามือตบของเจียงเหม่ยเหยียนและคำด่าทอรอบข้างฉีกแหลกละเอียด! ขณะเดียวกัน ฝ่ามือนี้ตบจนเจียงอวี่โหรวได้สติขึ้นมา!
ตระกูลเจียง ไม่มีที่สำหรับเธอและเข่อเข่อ
“เซียวจ้าน เราไปกันเถอะ ฮือๆๆ….ฉันจะไม่กลับมาอีกแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ….” เจียงอวี่โหรวร้องไห้และพูด หันหลังก้มหน้า ใช้ผมบดบังน้ำตาบนใบหน้าของตัวเอง แล้วออกแรงดึงแขนของเซียวจ้าน น้ำเสียงเบาจนมีเพียงแค่เซียวจ้านที่สามารถได้ยิน
แต่ว่า เซียวจ้านโมโหแล้ว!
แตะจุดอ่อนของเขา ต้องตาย!
เจียงเหม่ยเหยียนกล้าตบหน้าเจียงอวี่โหรวต่อหน้าของตนเอง!
วินาทีนั้น ไอสังหารบนร่างกายของเซียวจ้านแผ่ซ่าน ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องโถง! เธอดึงเจียงอวี่โหรวที่อยากจะหลบหนีไว้ ดวงตามีความเยือกเย็น พูดกับเจียงเหม่ยเหยียนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันต้องการ! ให้ขอโทษเธอเดี๋ยวนี้!!!”
จิ๊ๆ!
ประโยคนี้ทำเอาทุกคนในห้องโถงต่างกลอกตาบนใส่ แล้วส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมาอย่างดูถูก
“เขาบ้าไปแล้วงั้นหรอ? ตัวขยะของตระกูลเซียว กลับกล้าสั่งให้เจียงเหม่ยเหยียนขอโทษ?”
“เหอะๆ!ก็แค่หมาไร้บ้าน ยังกล้ามาเหิมเกริมในงานวันเกิดของคุณท่านเจียง ช่างรนหาที่ตายจริงๆ!”
เจียงเหม่ยเหยียนเองก็สองมือกอดอก มองเซียวจ้านด้วยสายตาเย่อหยิ่งและดูถูก แล้วพูดว่า “เหอะๆ นายสั่งให้ฉันขอโทษ? หล่อนคู่ควรหรอ? แล้วก็นาย เซียวจ้าน นายมันก็แค่หมาไร้บ้านของตระกูลเซียว ตอนนี้กลับมาซูหางคิดอยากจะทำอะไร? ทำไม คนหนึ่งหมาไร้บ้าน อีกคนก็นังสารเลวที่ทำตระกูลเสื่อมเสียชื่อ แล้วก็เด็กเวรอีกคน คิดอยากจะรวมตัวกันเป็นครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวงั้นหรอ ฮ่าๆๆ…..”
เพี๊ยะ!
เสียงหัวเราะของเจียงเหม่ยเหยียนหยุดชะงัก!
เพราะว่า ฝ่ามือหนักเหมือนดั่งค้อนของเซียวจ้าน ตบเข้าที่ใบหน้าของเจียงเหม่ยเหยียนอย่างรุนแรง ทำเอาตาสองชั้นที่เพิ่งกรีดและจมูกที่เพิ่งเสริมมาของเธอเบี้ยวไปหมด!
“การสั่งสอนของตระกูลเจียง เป็นแบบนี้งั้นหรอ? ปากสกปรก! ในเมื่อไม่มีใครสั่งสอนเธอ อย่างนั้นฉันช่วยตระกูลเจียงสั่งสอนเอง!” เซียวจ้านพูดเสียงเย็นชา!
“กรี๊ดๆๆ!แกกล้าตบฉันงั้นหรอ? แกกล้าตบฉัน?!” ในเวลานี้เจียงเหม่ยเหยียนเองก็กรีดร้องเสียงดัง แล้วจ้องมองเซียวจ้านด้วยความโมโห แทบอยากจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ!
คนตระกูลเจียงและแขกรับเชิญรอบข้างต่างก็นิ่งอึ้งกันไปหมด!
เหี้ย!
เซียวจ้านคนนี้ เหิมเกริมเกินไปแล้ว!
กล้าตบหน้าเจียงเหม่ยเหยียน!
นี่มันเท่ากับการตบหน้าคุณท่านเจียงไม่ใช่หรือไง?
“อู๋ควนเย่!นายรีบมานี่สิ!ไอ้ขยะตัวนี้ มันกล้าตบหน้าฉัน!นายดูฉันสิ จมูกที่ฉันเพิ่งทำมา!” เจียงเหม่ยเหยียนโมโหอย่างหนัก ตะโกนเสียงดัง โมโหจนกระทืบเท้าไม่หยุด!
อู๋ควนเย่เองก็เพิ่งตั้งสติได้จึงรีบวิ่งมา แล้วชี้หน้าด่าเซียวจ้านด้วยสีหน้าโมโห “ไอ้หนุ่ม!แกบ้าไปแล้วหรอ!กล้าตบหน้าแฟนสาวของฉัน!นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?! เชื่อไหมว่าเพียงแค่คำพูดเดียวก็ฉันก็สามารถทำให้นายทรมานตายทั้งเป็นได้! หากฉลาดหน่อยก็รีบคุกเข่าลงขอโทษเธอซะ! ไม่อย่างนั้น ฉันจะให้ครอบครัวแกทั้งสามคนต้องทรมานทั้งเป็น!”
แต่ว่า เซียวจ้านกลับใช้สายตาดูถูกมองอู๋ควนเย่ จากนั้นเขาเตะออกไป ทำเอาอู๋ควนเย่ล้มคุกเข่าลงพื้น ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คน แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันไม่ชอบให้คนอื่นยืนคุยกับฉัน!”
ซี๊ด!
ทุกคนในงานต่างก็สูดหายใจ!
ช่างบ้าคลั่งมาก! ช่างเหิมเกริมมาก!
เจียงอวี่โหรวเองก็ตกใจจนถึงกับต้องยกมือปิดปาก นิ่งอึ้งอยู่กับที่ไปสักพัก
แต่เข่อเข่อที่อยู่ในอ้อมกอดของเจียงอวี่โหรว โบกกำปั้นเล็กแล้วตะโกนว่า “คุณพ่อหล่อมากเลยค่ะ พ่อหล่อมากๆ!”
แม้เข่อเข่อจะมองไม่เห็น แต่ว่าเธอได้ยิน
เจียงอวี่โหรวตกใจจนรีบปิดปากเข่อเข่อไว้ จากนั้นก็ดึงแขนเซียวจ้าน แล้วถามอย่างร้อนรนว่า “เซียวจ้าน นายทำอะไร?”
ตามด้วยเธอรีบร้อนเข้าไปขอโทษเจียงเหม่ยเหยียนและอู๋ควนเย่ “ขอโทษด้วยขอโทษ เขา…เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาเพิ่งปลดทหารมา มีความใจร้อนนิดหน่อย ฉันขอโทษแทนเขาด้วย ค่ารักษาพยาบาลฉันจะชดใช้ให้แน่นอน….”
“ชดใช้? เอาอะไรมาชดใช้? กล้าเตะฉัน! พวกแกรอไว้เลย ฉันจะให้พวกแกคุกเข่าขอโทษฉันแน่นอน!” อู๋ควนเย่ลุกขึ้นจากพื้น แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น!
“ดูแล้ว นายคงจะยังคุกเข่าไม่นานมากพอ” เซียวจ้านพูดเสียงนิ่งเฉย
“พอแล้ว!”
เวลานี้ เจียงไท่ชางที่นั่งอยู่ตำแหน่งผู้นำตบโต๊ะอย่างโมโห จ้องมองเจียงอวี่โหรวและเซียวจ้านด้วยสายตาเย็นชา ตะคอกว่า “เจียงอวี่โหรว! เธอจงใจคิดอยากจะให้ฉันตายไวอย่างแท้จริงสินะ!”
“ไม่ใช่นะคะคุณปู่ ไม่ใช่ค่ะ…อวี่โหรวแค่อยากมาอวยพรวันเกิดคุณปู่ นี่คือของขวัญที่อวี่โหรวนำมาให้คุณปู่ค่ะ” เจียงอวี่โหรวตระหนก ดวงตาแดงก่ำ แล้วนำเอาของขวัญที่ตัวเองเตรียมพร้อมมาอย่างดียื่นให้กับเจียงไท่ชาง
แต่ว่า เจียงไท่ชางผลักออกอย่างแรง กล่องสวยงามใบนั้นตกหล่นลงพื้น ขวดยาที่รักษาโรคไขข้อขาอักเสบแตกละเอียด
คราวนี้ ทำเอาทุกคนต่างหัวเราะและดูถูกกันเต็มไปหมด!
“นี่คืออะไร? ยาขวดหนึ่ง? เหี้ย! ของขวัญวันเกิดแบบนี้กล้าเอามาได้ยังไง?”
“น่ายากจนเสียจริง! น่าขายหน้า!”
เจียงอวี่โหรววิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจคำดูถูกเยาะเย้ยของผู้อื่น แล้วเก็บยาขวดนั้นขึ้นมาจากพื้น ดวงตาแดงก่ำ ร้องไห้พูดว่า “ขาของคุณปู่ เมื่อถึงวันฝนตกหรืออากาศหนาวก็มักจะเจ็บปวด สิ่งนี้อวี่โหรวตั้งใจซื้อมาให้คุณปู่ นี่คือความหวังดีจากอวี่โหรว นี่คือ….ฮือๆๆ…..”
เสียงด่าทอรอบข้าง ทำให้เจียงอวี่โหรวทนไม่ไหวนั่งลงร้องไห้กับพื้น
ความหวังดีและความรักที่มีให้คุณปู่ของเธอ ถูกเจียงไท่ชางทำลายด้วยมือตัวเอง!
เวลานี้เจียงเหม่ยเหยียนเองก็ด่าอย่างดูถูกว่า “เพียงแค่ยาขวดเดียว เธอก็คิดอยากจะกลับมาบ้านตระกูลเจียง? ฝันไปเถอะ!!”
“ฟังจากความหมายของเธอแล้ว เพียงแค่เจียงอวี่โหรวมีของขวัญวันเกิดที่มีค่ามากพอ เธอก็สามารถกลับตระกูลเจียงได้แล้วสินะ?” เซียวจ้านถามกลับ ในแววตามีความเยือกเย็น
“ตราบใดที่เธอสามารถรับโครงการเพื่อครอบครองส่วนหนึ่งของธุรกิจและทรัพย์สินของตระกูลจินมาได้ หล่อนก็สามารถกลับสู่ตระกูลเจียง!”
เจียงไท่ชางพูดเสีงเย็นชา
ข่าวเรื่องตระกูลจินถูกทำลายถูกแพร่กระจายไปทั่วซูหางแล้ว! หลายวันมานี้ ตระกูลเศรษฐีของซูหาง ต่างก็จับจ้องธุรกิจและทรัพย์สินที่ตระกูลจินทิ้งไว้!
ตระกูลเจียงเองก็เช่นกัน หากว่าสามารถได้รับทรัพย์สินและโครงการบางส่วนมา ก็เพียงพอต่อรายรับของตระกูลเจียงทั้งปีแล้ว!
แต่ว่า คิดอยากจะได้ทรัพย์สินและโครงการของตระกูลจิน มีความยากลำบากอย่างหนัก!
ทรัพย์สินและโครงการพวกนี้ ได้ถูกผู้พันหานลี่หมินของกองทหารรักษาการณ์ที่ประจำการในซูหางรับช่วงต่อแล้ว! ยังไงซะโครงการของตระกูลจินก็ยิ่งใหญ่มาก มีสถานการณ์พิเศษมากมาย ดังนั้นจึงให้หานลี่หมินรับช่วงต่อได้เท่านั้น!
แต่ว่า หลายวันมานี้มีข่าวแพร่ออกมาว่า หานลี่หมินคิดจะตามหาตระกูลหรือธุรกิจที่มีความสามารถมากพอ มาแบ่งทรัพย์สินและโครงการของตระกูลจินไปดูแล
หานลี่หมินเป็นถึงผู้มีอิทธิพล สำหรับเศรษฐีทั่วทั้งซูหางแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสได้พบเจอเขาเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการได้ร่วมงานด้วยกัน!
ดังนั้น คำขอนี้ของเจียงไท่ชาง สามารถพูดได้ว่ายากยิ่งกว่าขึ้นฟ้า!
แต่ว่า!
“ตกลง!” แต่เซียวจ้านกลับตอบตกลง!